ภัทเทกรัตตคาถา
อะตีตัง นานวาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง
ยะทะตีตัมปะหีนันตัง อัปปัตตัญจะ อะนาคะตังฯ
บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ด้วยอาลัย
และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
สิ่งที่เป็นอดีตก็ละไป สิ่งที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มาฯ
ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ
อะสังหิรัง อะสังกุปปัง ตัง วิทธา มะนุพรูหะเย ฯ
ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าในที่นั้น ๆ อย่างแจ่มแจ้ง
ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้ ฯ
อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง โก ชัญญา มะระณัง สุเว
นะ หิ โน สังคะรันเตนะ มะหาเสเนนะ มัจจุนา ฯ
ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้ ใครจะรู้ความตาย แม้พรุ่งนี้
เพระการผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชซึ้งมีเสนามาก ย่อมไม่มีสำหรับเรา ฯ
เอวังวิหาริมาตาปิง อะโหรัตตังมะตันทิตัง
ตัง เว ภัทเทกะรัตโตติ สันโต อาจิกขะเต มุนิฯ
มุนีผู้สงบ ย่อมกล่าวเรียก ผู้มีความเพียรอยู่เช่นนั้น ไม่เกียจคร้าน
ทั้งกลางวัน กลางคืนว่า ผู้เป็นอยู่แม้เพียงราตรีเดียว ก็น่าชม ฯ
เนื้อหาของความเพียร มิได้มีอยู่ในบุคคลที่ ไม่เคยเข้าใจหลักธรรม หรือ ปุถุุชนทั่วไป
การทำความเพียร เป็นลำดับของ โคตรภูบุคคล
โคตรภูบุคคล คือบุคคลที่เห็นความเบื่อหน่าย ในสังสารวัฏ
มีวิปัสสนาญาณ ถึง ขั้น นิพพิทาญาณ ถึงจักมีความเพียรอย่างไม่เกียจคร้าน
บุคคลเช่นนี้ เรียกว่า มุนี (ผู้สงบ ) โดยสภาวะ
การทำความเพียรจึงเป็นเรื่องลำบาก ของปุถุชน ไม่มีกำลังใจ ทำไม่ได้แน่ ๆ
เพราะผู้ที่ทำความเพียรเช่นนี้ ต้องภาระทางโลก เว้นความอาลัย และ ไม่พะวง
สิ่งที่จะเกิดขึ้น มุ่งมั่นภาวนา เพียงเป้าหมายเดียว คือ การพ้นจากสังสารวัฏ
Aeva Debug: 0.0005 seconds.