ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บิ๊ก ยธ. อุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศล 84 พรรษา ในหลวง  (อ่าน 2240 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


บิ๊ก ยธ. อุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศล 84 พรรษา ในหลวง

เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 สำนักงานศาลยุติธรรม, กระทรวงยุติธรรม และคณะผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 16

ซึ่งมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเข้ารับการอบรมด้วย จึงพร้อมใจกันจัดทำ โครงการเฉลิมพระเกียรติอุปสมบทหมู่ ณ วัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย พร้อมร่วมเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ธันวาคม 2554

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้เสด็จร่วมในพิธี และทรงเป็นประธานในพิธีปลงผมนาค แก่ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม ที่เข้าร่วมการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ พร้อมด้วยข้าราชการสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งมีทั้งผู้พิพากษาในศาลยุติธรรม ผู้ช่วย  ผู้พิพากษา ข้าราชการศาลยุติธรรม รวมถึงผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 16

รวมทั้งหมด 39 คน มีอาทิ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุมประพฤติ นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร.ต.พงษ์นิวัฒน์  ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กระทรวงยุติธรรม ฯลฯ

ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีพระราชรัตนรังษี เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้า พระธรรมทูตสายอินเดีย เนปาล และพระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยผู้เข้าอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้จะครองตนอยู่ในสมณเพศรวม 12 วัน

ในพิธีอุปสมบทครั้งนี้ พระราชรัตนรังษีได้กล่าวแก่ผู้เข้าพิธีใจความตอนหนึ่งว่า “ท่านเหล่านี้บวชแล้วยังจะต้องจารีตตามรอยบาทของพระศาสดา ดวงตาตามรอยพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เพราะปีนี้เป็นปีที่พระองค์ได้บวชในพระพุทธศาสนาครบปีที่ 55 ซึ่งเป็นเลขมหามงคล

แล้วเราก็ได้มาบวชในแดนพระพุทธเจ้า ทุกแห่งบุญที่ได้จากการศึกษาปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา จะถวายพระองค์ทุกแห่งทุกที่ ที่แห่งนี้เป็นที่สุดยอด เราจะนำสุดยอดของการปฏิบัติ ถวายสุดยอดแห่งดวงใจของประชาไทยทั้งชาติ

ฉะนั้นในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธนับถือพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ที่บวชแล้ว เดินธุดงค์ ฉันข้าวในบาตร สวดมนต์อิติปิโสร้อยแปดพระธรรมจักร มนต์ทุกอย่างมนต์ทุกบทปรากฏทุกที่ เดินทางไปแต่ละแห่งจะต้องเพ่งมองดูว่า พระอรหันต์ในสมัยก่อนนั้น ท่านทำอะไร

กิจที่เราทำทั้งหมดเลียนแบบพระอรหันต์ ตามรอยพระอรหันต์ กลางค่ำกลางคืนเราไม่ได้มองเห็นการหลับการตื่นเป็นใหญ่ แต่เรามองเห็นความตื่นตัวเข้าสู่หลักพุทธธรรมเป็นใหญ่ พระทั้งหลายนั่งฉันข้าวในบาตร สวดมนต์เดินตามรอยบาทพระศาสดา แล้วก็ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาส 84 พรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น”

ทั้งนี้คณะผู้อุปสมบทจะได้ศึกษาพระธรรมวินัย เจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา และประกอบกิจกรรมส่งเสริมพุทธศาสนา ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล อันเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ ได้แก่ ลุมพินีวัน พุทธคยา พาราณสี และกุสินารา ในสาธารณรัฐอินเดีย สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล.


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/content/life/219773
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ