ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "กล้วย" ผลไม้สารพัดประโยชน์ แก้เครียดลดซึมเศร้า  (อ่าน 2090 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29352
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


"กล้วย" ผลไม้สารพัดประโยชน์ แก้เครียดลดซึมเศร้า

“เครียด” เพราะน้ำท่วม เครียดหลังน้ำลด ซึมเศร้าเพราะต้องจับเจ่าอยู่ในศูนย์พักพิง ปัญหาเหล่านี้บรรเทาลงได้ด้วยการกินกล้วย

เรื่องกล้วยๆไม่ใช่เรื่องพูดล้อเล่นกัน แต่สรรพคุณของกล้วยมีมากมายเหลือคณานับจริงๆ คนไทยเองก็รู้จักใช้พืชสารพัดประโยชน์นี้มานานแล้ว

ทั้งลำต้น ใบ ปลีกล้วย ตั้งแต่โบราณในฤดูน้ำหลากต้นกล้วยถูกนำมาใช้เป็นแพลอยน้ำ มีการแปรรูปกล้วยเก็บไว้เป็นเสบียง อย่างกล้วยตาก กล้วยฉาบ กล้วยกวน

เหล่านี้คือภูมิปัญญาที่ไม่อาจมองข้ามความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องคลายเครียด ลดการซึมเศร้า

“ในกล้วยสุกมีกรดอะมิโนทริปโทเฟนในปริมาณสูงกว่าอาหารโปรตีนอื่นๆ กรดอะมิโนทริปโทเฟนในผลกล้วยจะถูกเปลี่ยนเป็นสารซีโรโทนิน ช่วยให้เกิดอาการผ่อนคลาย ทำให้อารมณ์ผ่องใส มีความสุข และทำให้ง่วงนอน ดังนั้น การกินกล้วยน้ำว้าสุกเป็นของว่างหลังอาหารเย็น อาจช่วยทำให้บางคนเอาชนะการนอนไม่หลับได้” ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร จากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว

กล้วยยังมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ป้องกันการเกิดแผลกระเพาะอาหารและอาการกรดสะสมในร่างกาย รักษาอาการท้องเสีย ท้องเดินด้วยการนำกล้วยดิบมาหั่นบางๆ ตากแดดให้แห้ง แล้วบดจนละเอียดเป็นผงแป้ง นำมาปั้นกับน้ำผึ้งเป็นลูกกลอน กิน 3 เม็ด ก่อนอาหารและก่อนนอน

หรืออีกวิธีให้ใช้กล้วยดิบทั้งเปลือก ฝานบางๆ ผึ่งลมให้แห้ง กินครั้งละครึ่งถึง 1 ผล เมื่อกินยานี้แล้วอาจมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ให้แก้ด้วยการดื่มน้ำขิงหรือสมุนไพรขับลมอื่นควบคู่กันไป

สารแทนนินในกล้วยดิบหรือกล้วยห่ามจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ในขณะเดียวกันก็ป้องกันผนังลำไส้จากอาหารรสจัดได้ด้วย

ในภาวะน้ำท่วมบ้างลดบ้างอย่างนี้ กล้วยจึงเป็นอาหารที่เหมาะที่สุด ด้วยเป็นทั้งอาหารและเป็นยาไปพร้อมกัน แถมหาได้ไม่ยากอีกด้วย

สำหรับหน้าหนาวที่กำลังมาถึง ศูนย์การเรียนรู้การดูแลสุขภาพภาคประชาชนด้านการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ยังจะจัดให้มีการสาธิตการใช้เปลือกกล้วยที่อุดมด้วยสารแทนนิน มีสรรพคุณช่วยสมานผิวมาทำเป็นน้ำมันบำรุงผิว

โดยนำเปลือกกล้วยน้ำว้า 1 หวี มาปั่นหรือคั้นเอาแต่น้ำ นำมาเคี่ยวกับน้ำมันรำข้าวด้วยไฟปานกลางจนน้ำมันไม่กระเด็น นำมาทาผิวที่แห้งกร้าน หรือติดต่อสอบถามข้อมูลความรู้เรื่องสมุนไพรและการแพทย์แผนไทยได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี โทร. 0-3721-1289 ทุกวัน เวลาราชการ.


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/220805
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ