ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีแก้กรรมแบบพระพุทธเจ้า  (อ่าน 2783 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
วิธีแก้กรรมแบบพระพุทธเจ้า
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 01:31:37 pm »
0


[๒๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประการนี้ เรากระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วประกาศให้ทราบ กรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ กรรมดำมีวิบากดำก็มี กรรมขาวมีวิบากขาวก็มี กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวก็มีกรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมก็มี ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมดำมีวิบากดำเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขารอันมีความเบียดเบียน ย่อมปรุงแต่งวจีสังขารอันมีความเบียดเบียน ย่อมปรุงแต่งมโสังขารอันมีความเบียดเบียน ครั้นแล้วย่อมเข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียน ผัสสะอันมีความเบียดเบียนย่อมถูกต้องบุคคลนั้น ผู้เข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียน เขาอันผัสสะที่มีความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมได้เสวยเวทนาที่มีความเบียดเบียน เป็นทุกข์โดยส่วนเดียว เปรียบเหมือนสัตว์นรก นี้เราเรียกว่ากรรมดำมีวิบากดำ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมขาวมีวิบากขาวเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขาร...วจีสังขาร...มโนสังขารอันไม่มีความเบียดเบียน ครั้นแล้วย่อมเข้าถึงโลกที่ไม่มีความเบียดเบียน ผัสสะอันไม่มีความเบียดเบียนย่อมถูกต้องบุคคลนั้น ผู้เข้าถึงโลกที่ไม่มีความเบียดเบียน เขาอันผัสสะที่ไม่มีความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว ย่อมได้เสวยเวทนาอันไม่มีความเบียดเบียน เป็นสุขโดยส่วนเดียว เปรียบเหมือนเทพชั้นสุภกิณหะ นี้เราเรียกว่ากรรมขาวมีวิบากขาว ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาวเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกายสังขาร...วจีสังขาร...มโนสังขารอันมีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ครั้นแล้วย่อมเข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ผัสสะอันมีความเบียดเบียนบ้างไม่มีความเบียดเบียนบ้าง ย่อมถูกต้องบุคคลนั้น ผู้เข้าถึงโลกที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง เขาอันผัสสะที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้างถูกต้องแล้ว ย่อมได้เสวยเวทนาอันมีความเบียดเบียนบ้าง ไม่มีความเบียดเบียนบ้าง มีทั้งสุขและทั้งทุกข์ระคนกัน เปรียบเหมือนมนุษย์ เทพบางพวก และวินิปาติกสัตว์บางพวก นี้เราเรียกว่ากรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาว ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมเป็นไฉน สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ นี้เราเรียกว่ากรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย กรรม ๔ ประการนี้แล เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วประกาศให้ทราบ ฯ

วิธีแก้กรรม แบบ พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าเรียกว่า การก้าวล่วงบาปกรรม ซึ่งเป็นการขจัดมลทินแห่งอกุศลออกจากจิตเสีย เมื่อจิตไม่มีอกุศลจิตแล้ว จิตนั้นก็ชื่อว่า พ้นจากบาปกรรม หากยังคงรับผลร้ายอยู่บ้าง ก็จักเป็นเพียงเศษกรรมเก่า พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:

" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร
เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด "


ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง แม้เจ้ากรรมนายเวรไม่ได้ให้อภัย ส่วนในปรโลก วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป เนื่องจาก กรรมดำที่มีวิบากดำ ได้เปลี่ยนเป็นกรรมขาว และถ้าเวลามีพอ คือไม่ใช่ไปทำการก้าวล่วงบาปกรรมก่อนตาย กรรมขาวนั้นก็จะให้วิบากขาวด้วย

จากหนังสือธรรมชาติของสรรพสิ่ง หน้า 230 ให้ตัวอย่างไว้ชัดเจนมาก

นายดำเคยประทุษร้ายบุคคนผู้ไม่ผิดมาแต่กาลก่อน บัดนี้กรรมนั้นทำให้นายดำโดนประทุษร้ายโดยไม่มีความผิด นายดำสามารถเลือกตอบสนองได้ 3 วีธี คือ

1. เฉย ยอมรับวิบากกรรมอันนั้น ถือว่ากรรมสิ้นสุดลง
2. ประทุษร้ายตอบ เท่ากับพอรับผลกรรมดำแล้ว ก็สร้างกรรมดำขึ้นมาใหม่ ในภายภาคหน้าก็จะโดนประทุษร้ายอีก
3. อภัย และแผ่เมตตา เทากับรับวิบากกรรมดำเก่าแล้ว ก็สร้างวิบากกรรมขาวขึ้นมาแทน ในกาลต่อไป ศตรูนั้นก็จะกลายเป็นมิตร หรือได้รับวิบากกรรมขาวแทน


ดูตัวอย่างพระเทวทัต

ถ้าพระเทวทัตไม่ได้ทำอนันตริยกรรมหลายอย่าง ซึ่งทำให้วิบากกรรมดำแห่งอนันตริยกรรมหลายอย่างส่งผลถึงท่าน ทำให้ท่านทำการก้าวล่วงบาปกรรมไม่ทันเวลา พอสำนึกบาปได้ ก็ได้เฉพาะในกรณีที่ทำกับพระพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นทำการการก้าวล่วงบาปกรรมไม่ทัน เนื่องจากโดนธรณีสูบไปก่อน

อย่างไรก็ดี เนื่องเพราะว่า พระเทวทัตทำการก้าวล่วงบาปกรรมในส่วนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าทันเวลา กรรมดำของท่านในส่วนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ได้เปลี่ยนเป็นกรรมขาวแล้ว ด้วยเหตุนี้ วิบากกรรมดำที่ทำให้พระเทวทัตตกนรกอเวจี อาจจะเป็นวิบากกรรมดำจากอนันตริยกรรมอย่างอื่น(ทำสังฆเภท)ก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้นพระพุทธเจ้าคงไม่ให้พุทธทำนายว่า ในอนาคตพระเทวทัตจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า


ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: วิธีแก้กรรมแบบพระพุทธเจ้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2012, 01:35:44 pm »
0
เห็นปฏิจจสมุปบาท คือฉลาดในเรื่องกรรม

บุคคลเป็นพราหมณ์เพราะชาติ (กำเนิด) ก็หามิได้; จะมิใช่พราหมณ์เพราะชาติก็หามิได้:
บุคคลเป็นพราหมณ์เพราะกรรม; ไม่เป็นพราหมณ์ก็เพราะกรรม.
บุคคลเป็นชาวนา ก็เพราะกรรม; เป็นศิลปิน ก็เพราะกรรม,
บุคคลเป็นพ่อค้า ก็เพราะกรรม; เป็นคนรับใช้ ก็เพราะกรรม,
บุคคลแม้เป็นโจร ก็เพราะกรรม; เป็นนักรบ ก็เพราะกรรม,
บุคคลเป็นปุโรหิต ก็เพราะกรรม; แม้เป็นพระราชา ก็เพราะกรรม,
บัณฑิตทั้งหลายย่อมเห็นซึ่งกรรมนั้น ตามที่เป็นจริงอย่างนี้
ชื่อว่าเป็นผู้เห็นซึ่งปฏิจจสมุปบาท เป็นผู้ฉลาดในเรื่องวิบากแห่งกรรม.โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม หมู่สัตว์ ย่อมเป็นไปตามกรรม
สัตว์ทั้งหลาย มีกรรมเป็นเครื่องรึงรัด เหมือนลิ่มสลักขันยึดรถที่กำลังแล่นไปอยู่.
เพราะการบำเพ็ญตบะ การประพฤติพรหมจรรย์ การสำรวม และเพราะการฝึกตน; นั่นแหละ บุคคลจึงเป็นพราหมณ ์ นั่นแหละ ความเป็นพราหมณ ์ชั้นสูงสุด;
บุคคลผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชา ๓ เป็นผู้รำ งับแล้ว มีภพใหม่สิ้นแล้ว มีอยู่;
ดูก่อนวาเสฏฐะ! ท่านจงรู้บุคคลอย่างนี้ ว่าเป็นพรหม เป็นสักกะ ของท่านผู้รู้


วาเสฏฐสูตร มหาวรรค สุ.ขุ. ๒๕/๔๕๗/๓๘๒, ตรัสแก่วาเสฏฐมาณพ ซึ่งมีภารทวาชมาณพฟังอยู่ด้วยที่อิจฉานังคละไพรสณฑ์.
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ