เห็นด้วยครับ ธรรมะจัดสรร นั้นถ้าจะกล่าวรวม คือ อำนาจของธรรม คือ เหตุ และ ผล
หลวงพ่อ พุทธทาส ให้ความหมายของพระธรรม 4 ความหมายคือ
1. ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
คือ ทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรูป หรือ นาม ล้วนเป็นธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น
2. ธรรม คือ กฏของธรรมชาติ
คือ กฏที่ไม่เปลี่ยนแปลง คงความเป็นอยู่อย่างนั้น คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
3. ธรรม คือ หน้าที่
เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดลง ไป ทุกสรรพสิ่งต้องมีหน้าที่ ไม่ว่า จะดี หรือ ชั่ว เป็น กลาง ก็ต้องมี หน้าที่
4.ธรรม คือ ชีวิต หนทางสู่ ความพ้นจากทุกข์
จำกัดความ ลงไปคือ มรรค
ดังนั้นถ้ากล่าว ว่า ธรรมะจัดสรร อันนี้เป็นคำพูดที่ผิดอยู่ เพราะ หน้าที่ของธรรมะเป็นอย่างนั้น
ส่วน คนเราเกิดมาพิการ ยาก ดี มีจน ตายช้า ตายเร็ว อายุยืน ต่าง ๆ นี้ ธรรมะมิได้จัดสรร หากเกิดแต่วิบาก ที่มีผลมากจากกระทำของตนเอง เป็นผู้ได้สร้างไว้
หากาจะถามว่า เราทำไมจึงจน ให้ย้อนกลับไปดูอดีต ว่าอะไรเป็นเหตุให้จน เป็นต้น
ดังนั้น ธรรมะไม่ได้เป็นผู้จัดสรร ความเป็นความตาย ต่าง ๆ ให้กับคน หากแต่คนผู้นั้น เป็นผู้จัดสรร ตนเองด้วย กรรมของตนเอง
เห็นด้วย กับคุณ เท่ากับผลรวม ครับ
