ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ค้นหาความจริง “หาดทรายดำ” จ.ตราด ความอัศจรรย์ 1 ใน 5 แห่งของโลก  (อ่าน 1796 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ค้นหาความจริง “หาดทรายดำ” จ.ตราด ความอัศจรรย์ 1 ใน 5 แห่งของโลก

เรื่องราวที่เป็นที่สุดและหนึ่งเดียวในประเทศไทยมีอยู่มากมาย วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ ประเดิมคอลัมน์ ที่สุดในไทย ด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่จังหวัดตราด หนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและระบบนิเวศน์ที่ หาดทรายดำ หนึ่งเดียวในประเทศไทย และ 1 ใน 5 แห่งของโลก

หาดทรายดำ ตั้งอยู่ในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม นับเป็นหาดทรายดำแห่งเดียวในประเทศไทย และ 1 ใน 5 แห่งของโลกเท่านั้น โดยอีก 4 แห่งที่พบหาดทรายดำก็คือ ไต้หวัน มาเลเซีย แคลิฟอร์เนีย และฮาวาย

จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญถึงสาเหตุที่ทรายบริเวณนี้เป็นสีดำได้ความว่า ทรายดำภายในหาดนี้เกิดขึ้นจากการยุบตัวสลายของเศษเหมือง และเปลือกหอย ผสมด้วยควอตซ์ หรือเป็นการผุกร่อนของเหล็ก ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่พบได้ยากมาก ความต่างนอกจากเรื่องสีระหว่างหาดทรายปกติแล้ว หาดทรายดำยังมีความหลากหลายทางชีวภาพมากมาย และมีระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์กว่าปกติอีกด้วย



เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลหาดทรายดำ กล่าวว่า เดิมหาดทรายดำแห่งนี้เรียกว่าหาดหัวสวน เป็นหาที่ชาวมุสลิมเป็นเจ้าของ ต่อมาได้กลายเป็นสถานที่รกร้าง จนกระทั่งมีชาวบ้านมานั่งหมกตัวในทรายดำแล้วรักษาโรคได้ เสียงบอกต่อในเรื่องนี้ทำให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาหาดทรายดำมากขึ้น เพื่อหวังว่าจะช่วยรักษาโรค


แต่หลังจากนั้นก็มีหน่วยงานทางการแพทย์เข้ามายืนยันว่าทรายดำไม่สามารถรักษาโรคได้จริงตามกล่าวอ้าง ทำให้ผู้คนเดินทางเข้ามายังหาดทรายดำน้อยลง

สมัยก่อนพื้นที่ส่วนนี้เคยมีการทำนากุ้งมาก่อน ทำให้การเจริญเติบโตของต้นไม้บางส่วนที่ปลูกเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2538 ช้ากว่าเกณฑ์ถ้าเทียบกับป่าชายเลนอื่น แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าทึ่ง เพราะมีส่วนที่หน้าดินเสื่อมโทรมอย่างหนักจากการตกค้างของสารเคมีจำนวนมากสมัยเป็นนากุ้ง และไม่มีใครคาดคิดว่าจะกลับมาปลูกต้นไม้อะไรได้อีก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปธรรมชาติก็เนรมิตให้ที่นี่อุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง

“ถึงทรายดำจะรักษาโรคไม่ได้ แต่สภาพแวดล้อมของป่าชายเลนในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของหาดทรายดำนั้น ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ และสามารถบำบัดโรคได้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้นานาชนิด ผู้มาเยือนจะได้ชมความงามของพันธุ์ไม้ของป่าชายเลนน้ำเค็ม ที่มีความผิดแปลกจากป่าชายเลนทั่วไป เพราะต้องปรับเปลี่ยนสภาพตัวเองเพื่อความอยู่รอด”



ปัจจุบันหาดทรายดำถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดตราด ซึ่งมีหลายหน่วยงานให้การสนับสนุนในการช่วยประชาสัมพันธ์ และจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องเส้นทางสะพานไม้สำหรับการเดินชมป่าชายเลนมาจนถึงบริเวณหาดทรายดำ รวมถึงจุดชมวิวและป้ายให้ความรู้ต่างๆ เพราะที่นี่นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์อีกหนึ่งแห่ง แต่กลับยังไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร

     การศึกษาหาความรู้จากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ไม่ควรมองข้าม
     ถ้ามีโอกาสเดินทางไปเยือนจังหวัดตราด ลองเปลี่ยนเป้าหมายจากการมุ่งหน้าข้ามไปยังเกาะช้างหรือเกาะกูดทันที หันมาสัมผัสบรรยากาศของป่าชายเลน
     พร้อมชมความอัศจรรย์ของหาดทรายดำที่มีเพียง 5 แห่งในโลกดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติยังมีเรื่องราวน่าสนใจให้ค้นหาอย่างไม่รู้จบ



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/article/821/15156
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ