« เมื่อ: เมษายน 27, 2012, 10:22:09 am »
0
พระนอน..ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
ที่สุดในไทย พาไปรู้จัก พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต ที่วัดสะตือ องค์พระนอนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในไทย
อีกหนึ่งที่สุดในไทยที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ กับเรื่องราวของ พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต
พระพุทธรูปปางไสยาสน์(พระนอน)กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ วัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่ง วัดสะตือแห่งนี้ ถูกสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ.2400 โดยหลวงพ่อโต หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี มีความเชื่อบอกต่อกันว่า หลวงพ่อโตได้เกิดที่วัดแห่งนี้
วัดสะตือ เป็นอีกหนึ่งวัดในอยุธยาที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวรวมถึงชาวบ้านท้องถิ่นเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากความงดงามขององค์พระนอนที่สะดุดตา และความศักสิทธิ์ที่นำมาซึ่งการกราบไหว้บูชาแล้ว ช่วงวันหยุดจะมีประชานหลั่งไหลเข้ามา ไหว้พระ ขอพรกันมากมาย
มีทั้งการรำแก้บน จ้างแตรวงบรรเลงแก้บน สร้างความคึกคักให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งชาวบ้านบอกว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีคนมารำแก้บนพร้อมแตรวงมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศก็ว่าได้ แสดงให้เห็นถึงความศักสิทธิ์ของหลวงพ่อโต
พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต พระนอนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ วัดสะตือ มีความยาว 52 เมตร สูง 16 เมตร ก่อด้วยอิฐถือปูน ในอดีตทางวัดเคยสร้างหลังคาให้องค์หลวงพ่อ แต่ก็มีเหตุหลายอย่างที่ทำให้ไม่สามารถสร้างเสร็จได้ จากนั้นมีชาวบ้านบางคนมาบอกกับทางวัดว่า หลวงพ่อโตมาเข้าฝันบอกว่าไม่ชอบให้สร้างหลังคา การสร้างหลังคาจึงไม่เกิดขึ้นอีกหลังจากนั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้
ในช่วงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา วัดสะตือ ซึ่งตั้งอยู่ท้ายเขื่อนพระราม 6 ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นในบางส่วน รวมถึง พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต
พบว่าบริเวณกลางองค์พระ เกิดทรุดตัวเป็นรอยแตกร้าวยาวและลึกอย่างเห็นได้ชัด
รวมถึงส่วนของแขนและลำคอขององค์พระ พบร่องรอยแตกร้าวยาวเรื่อยลงมาจนถึงฐานขององค์หลวงพ่อโต ซึ่งช่วงก่อนน้ำท่วมอาจพบร้อยร้าวบ้างแต่ไม่มากนัก
ชาวบ้านส่วนใหญ่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างพิถีพิถัน เพราะองค์พระนอน หลวงพ่อโต ที่วัดสะตือ เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพระนครศรีอยุธยามายาวนาน
ประเทศไทยังมีอีกหลากหลายความที่สุดที่หลายคนยังไม่รู้ รอดูกันว่าครั้งหน้าจะมีเรื่องราวที่สุดในไทยเรื่องใดมาให้ทุกคนได้รู้กันอีก
ขอบคุณมูลและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/article/821/103924