ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อานิสงส์...แห่งการบูชารอยพระบาท (ตอน ๓)  (อ่าน 4183 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
พระพุทธบาทหินลาด วัดโคกหินลาด ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น


อานิสงส์...แห่งการบูชารอยพระบาท (ตอน ๓)
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เมื่อมาถึงท่านเดินลงจากรถและทำการอธิษฐานจิต ใช้มือขวาแตะไปยังพระบาทมงคลธรรม ช่วงเวลานั้นเองมีกล้อง ๕๖ ตัวคอยจับภาพอยู่ เป็นของคณะโรงแรมเอเชีย ๓ ตัว และกลุ่มลูกศิษย์ที่ติดตามพระอาจารย์อารยะวังโส ๒๓ ตัว

กล้องเกือบทั้งหมดไม่ปรากฏสิ่งใดๆ ผิดไปจากภาพถ่ายตามปกติ ยกเว้นกล้องของคุณอารีย์ฯ เท่านั้น ที่บังเกิดเหตุอัศจรรย์ใจ โดยคุณอารีย์ฯ ใช้กล้องโกดักดิจิตอล ๒ เลนส์ และยืนอยู่ห่างจากท่านพระอาจารย์ประมาณ ๑ เมตร

รูปแรกที่คุณอารีย์ฯ ถ่ายได้ก็คือ พระอาจารย์อารยะวังโสเอื้อมมือขวาแตะไปที่พระบาทมงคลธรรม

รูปที่ ๒ เริ่มบังเกิดรัศมีขาวเรืองแสงนวลตาขึ้น ทั้งจากพระบาทมงคลธรรม และตัวของพระอาจารย์อารยะวังโส

รูปที่ ๓ รัศมีขาวนวลเปล่งประกายพุ่งขึ้นมาจากพระบาทมงคลธรรม และร่างกายของพระอาจารย์อารยะวังโส สว่างไสวเป็นลำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณอารีย์ฯ จึงกดชัตเตอร์ต่อไป



   
    จากนั้นพระอาจารย์อารยะวังโสหันมาทางคุณอารีย์ฯ
    พร้อมกล่าวว่าให้ถ่ายสิ ถ่ายภาพได้แล้ว พร้อมกับท่านได้ดึงมือออกจากพระบาทมงคลธรรม
    คุณอารีย์ฯ จึงถ่ายรูปไปที่พระบาทมงคลธรรมอีกหลายรูป
    และที่พระบาทมงคลธรรมยังคงปรากฏแสงสว่างประกายสีขาวพวยพุ่งเต็มจอภาพ
    ทั้งหมดทำให้คุณอารีย์ฯ น้อมจิตระลึกรู้และเกิดปัญญา
    เพราะทุกอย่างปรากฏเหมือนกับที่คุณอารีย์ฯ ได้อธิษฐานไว้ตั้งแต่แรกว่า
    หากเป็นรอยพระพุทธบาทจริงขอให้มีแสงสว่างเกิดขึ้น


ความอัศจรรย์ใจไม่เพียงแต่จะบังเกิดเฉพาะคุณอารีย์ฯ เท่านั้น แต่คุณสุรพลฯ และคุณประยูรฯ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้ร่วมรับรู้ด้วย เพราะหลังจากที่คุณอารีย์ฯ ถ่ายภาพเป็นแสงสว่างสีขาวเรืองรองเต็มกล้อง คุณอารีย์ฯ ก็หันไปมองคุณสุรพลฯ และคุณประยูรฯ ทำให้ทั้งคู่ขยับเข้ามาใกล้ และหันสายตาไปที่ช่องมองภาพ (View Finder) ของกล้องคุณอารีย์ฯ

ต่างก็เห็นแสงสว่างขาวนวลในช่องมองภาพพุ่งออกมาอย่างชัดเจน ดูได้ด้วยตาเปล่าแม้ยังไม่ได้กดชัตเตอร์ก็ตาม และเมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ รูปที่ได้ก็มีรัศมีสีขาวเปล่งประกายเหมือนกับที่ตาเห็นในช่องมองภาพ

เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณสุรพลฯ จึงทำการทดลองพิสูจน์โดยนำเอากล้องของตัวเองเข้ามาประกบข้างๆ กล้องของคุณอารีย์ฯ เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระนาบเดียวกัน แต่สิ่งที่คุณสุรพลฯ ได้รับ คือ ความปกติ นอกเหนือจากการเห็นภาพตามปกติ และเมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพคู่กับกล้องคุณอารีย์ฯ ไปเรื่อยๆ รูปที่ได้ก็ไม่มีแสงสว่างนวลขาวแม้แต่เพียงภาพเดียว

ในเวลาไม่นานนัก พระอาจารย์อารยะวังโสก็กล่าวว่า หมดธุระแล้วนะ และเดินกลับขึ้นรถโดยเริ่มต้นที่ท่านมาถึงจนถึงเวลากลับ ใช้เวลาไม่เกิน ๑๐ นาที


พระพุทธบาทน้ำทิพย์ วัดพระพุทธบาทน้ำทิพย์ ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร

หลังจากส่งพระอาจารย์อารยะวังโสขึ้นรถ ด้วยความที่ยังสงสัยว่าทำไมกล้องของคุณอารีย์ฯ ถึงถ่ายภาพที่เห็นรัศมีแสงสีขาวนวลได้ คุณสุรพลฯ จึงนำกล้องของคุณอารีย์ฯ มาถ่ายใหม่ในมุมเดิม และพยายามตั้งหน้ากล้อง เปิดแฟลช ปิดแฟลช ทุกอย่างเท่าที่คิดว่ามีโอกาสจะเกิดแสงเหมือนที่คุณอารีย์ฯ ถ่ายไว้ได้ แต่ไม่ว่าคุณสุรพลฯ จะถ่ายหรือทำวิธีใดๆ เหตุการณ์อัศจรรย์นั้นก็ไม่บังเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน เมื่อพระอาจารย์อารยะวังโสนั่งรถยนต์กลับไปแล้วนั้น คุณอารีย์ฯ ได้โทรศัพท์ไปถึงคุณรจนา วานิช ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะศิษย์ที่ติดตามมาด้วย โดยคุณอารีย์ฯ ขอให้กราบเรียนพระอาจารย์ว่า กล้องของคุณอารีย์ฯ ถ่ายภาพที่มีแสงสว่างขาวปรากฏอยู่ที่พระบาทมงคลธรรม

คุณรจนาฯ จึงเล่าให้ฟัง ก่อนที่คุณอารีย์ฯ จะโทรศัพท์เข้ามาหาพระอาจารย์อารยะวังโส ท่านได้กล่าวกับคณะศิษย์ในรถว่ามีพลังที่เย็นมาก เย็นยะเยือกจากพระบาทมงคลธรรม เป็นพลังที่สูงมากมาถึงต้นแขนของท่าน โดยท่านยังถามคนในรถว่าในกล้องมีอะไรไหม ซึ่งท่านแน่ใจว่าต้องมี

แต่คณะศิษย์ที่อยู่ในรถตอบว่า ในกล้องของพวกเขาไม่มีสิ่งใดๆ เกิดขึ้นเลย เมื่อพระอาจารย์อารยะวังโสทราบว่ากล้องคุณอารีย์ฯ ปรากฏภาพรัศมีแสงสว่าง ท่านจึงให้คุณรจนาฯ แจ้งต่อคุณอารีย์ฯ ว่า พระบาทมงคลธรรมมีพลังที่สูงมาก เย็นมาก และดูดมือท่านจนต้องละมือออก พร้อมๆ กำชับให้คุณอารีย์ฯ นำภาพที่ถ่ายได้มาให้ท่านพิจารณาในช่วงเช้า

คุณอารีย์ฯ และคุณสุรพลฯ นำภาพทั้งหมดไปอัดขยาย และไปกราบพระอาจารย์อารยะวังโสในเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. ของวันที่ ๒๖ มิ.ย. เมื่อท่านเห็นภาพถ่ายทั้งหมดก็บอกว่าเป็นสิ่งที่ตรงกัน เป็นพลังที่เย็นมาก สีขาว และสูงเหมือนที่รัตนบัลลังก์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย...”

อ่านต่อฉบับวันจันทร์


ที่มา http://www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/150758/อานิสงส์-แห่งการบูชารอยพระบาท-ตอน-๓-
ขอบคุณภาพจาก http://www.danpranipparn.com/


    กระทู้แนะนำ
    อานิสงส์...แห่งการบูชารอยพระบาท (ตอน ๒)
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7414.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2012, 05:46:41 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อานิสงส์...แห่งการบูชารอยพระบาท (ตอน ๓)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 30, 2012, 08:25:29 pm »
0
 
    กระทู้แนะนำ
    อานิสงส์...แห่งการบูชา รอยพระบาท (ตอน ๔)
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7460.msg27491#msg27491

     :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ