ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'คิลานธรรม' กับ 'กิจกรรมธรรมะเพื่อผู้ป่วย'  (อ่าน 3325 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29309
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


'คิลานธรรม' กับ 'กิจกรรมธรรมะเพื่อผู้ป่วย'
คิลานธรรมกับกิจกรรมธรรมะเพื่อผู้ป่วย : โดย...เพ็ญนภา หงษ์ทอง

    “เรื่องของโรคและกายให้เป็นเรื่องของยาและแพทย์เขาดูแล เรามาดูแลรักษาจิตของตัวเองดีกว่า” พระมหาสุเทพ สุทฺธิญาโณ บอกกับผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ตามด้วยการแนะนำการทำสมาธิง่ายๆ

      ช่วงบ่ายแก่ๆ ของทุกวันอังคาร พระคุณเจ้าจะปฏิบัติกิจของสงฆ์ในการสร้างประโยชน์เกื้อกูลและสร้างสุขให้เกิดในใจของปุถุชนด้วยการทำหน้าที่อาสาสมัคร “ธรรมะข้างเตียง” ของ รพ.จุฬาฯ กิจกรรมดูแลจิตและสร้างกำลังใจคนไข้ ซึ่งจัดขึ้นมานานกว่า 2 ปี  พระมหาสุเทพจะถูกจับจองด้วยคนไข้จากไม่ต่ำกว่า 5 โรงพยาบาลที่ต้องการแสวงหาที่พึ่งทางใจในยามที่ร่างกายถูกโรคาพยาธิรุมเร้า และจิตถูกทุกข์ครอบงำ

      ไม่เพียงเฉพาะพระมหาสุเทพ เท่านั้น พระสงฆ์อีกไม่ต่ำกว่า 25 รูป ที่รวมกลุ่มกันในนาม “คิลานธรรม” ต่างก็มีภารกิจในรอบสัปดาห์ไม่ต่างกัน คือการทำหน้าที่ของพระอาสาเพื่อถ่ายทอดธรรมแก่ผู้ป่วย อันเป็นความหมายตามตัวอักษรของคำว่า “คิลานธรรม”



      พระมหาสุเทพ ในฐานะประธานกลุ่มเล่าว่า คิลานธรรม เกิดจากแนวความคิดของกลุ่มพระนิสิตจิตอาสา ที่ศึกษาหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาชีวิตและความตาย ภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่พร้อมจะนำความรู้และทักษะจากการเรียนรู้ในห้องเรียน ออกรับใช้สังคม เพื่อความสุขแก่ชนหมู่มากที่ทุกข์ทรมานจากอาการป่วยของตนเองและคนที่รัก
     เนื่องจากมองไม่เห็นความเป็นจริงทางธรรมชาติของกระบวนการแห่งชีวิต ที่ "เกิด แก่ เจ็บ และตาย" เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับทุกชีวิต

      “ในกระบวนการเรียนมีการปลูกฝังให้เรามีจิตอาสา ดูแลจิตใจตัวเอง เมื่อเรารู้สึกดีเราก็ไปเผื่อแผ่ให้คนอื่นบ้าง” พระมหาสุเทพ กล่าว

       คิลานธรรมเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างไม่เป็นทางการในปี 2550 เมื่อ พระมหาสุเทพ ซึ่งขณะนั้นเป็นพระนิสิตสาขาวิชาชีวิตและความตายอยู่ได้รวมตัวกับเพื่อนๆ ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสไปสมัครเป็นอาสาสมัครที่ รพ.ศิริราช ซึ่งกำลังติดประกาศรับสมัครอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยแบบ palliative care คือ การดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย ที่ต้องการการดูแลแบบประคับประคอง ผลที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคือมีเฉพาะเพื่อนที่เป็นฆราวาสได้รับการเรียกตัวให้เป็นอาสาสมัคร



      “อาตมาคิดว่า เขาคงมีความรู้สึกว่าบริบทแบบนั้น
       การมีพระไปเป็นอาสาสมัครบางทีก็สุ่มเสี่ยงเหมือนกัน
       มันเป็นทัศนะอะไรบางอย่างนะ เวลาเราป่วยหนักแล้วมีพระมาหา 
       คนอาจจะไม่แน่ใจว่าเป็นกุศลหรือเป็นอะไรอย่างอื่น”

 
       เวลาผ่านไป 1 ปี รพ.ศิริราชจึงนิมนต์พระอาสาสมัครเข้าร่วมทีม
       ภายหลังประเมินผลการทำงานของอาสาสมัครฆราวาสแล้วว่า ได้ผลดี
       ด้วยวิธีการสนทนาให้กำลังใจเชิงลึกอิงหลักธรรมตามหลักการ
       ให้คำปรึกษาเชิงพุทธ ผสมผสานกับหลักจิตวิทยาตะวันตก
       ทำให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจความจริงแห่งชีวิต และกล้าเผชิญกับความทุกข์ที่กำลังเกิดขึ้น


       คิลานธรรมค่อยๆ ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ เริ่มต้นที่ รพ.ศิริราช จากนั้นก็ก้าวสู่เตียงคนไข้ในโรงพยาบาลอื่น เช่น รพ.จุฬาฯ, วชิรพยาบาล, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, สถาบันประสาทวิทยา, รพ.ภูมิพล เป็นต้น



       จากการให้คำปรึกษาเฉพาะผู้ป่วยและญาติ ก้าวสู่การอบรมจริยธรรมให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ วชิรพยาบาล นิมนต์พระอาสาจากกลุ่มคิลานธรรมเพื่อไปอบรมจริยธรรม และสร้างความละเอียดอ่อนให้แก่จิตใจของพยาบาลทุกคนในโรงพยาบาล เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน

      “ทำให้เราตระหนักได้ว่า วันหนึ่งความตายอาจมาถึงเราหรือคนในครอบครัวเราอย่างกะทันหันได้
        และมันก็ทำใจยากมากที่อยู่ๆ ต้องเสียคนที่รักไป เข้าใจเลยค่ะว่าเวลามีคนไข้เสียชีวิต ญาติๆ เขาจะรู้สึกอย่างไร”

        พยาบาลคนหนึ่งแห่งวชิรพยาบาลกล่าว

       จากความสำเร็จกับการทำงานในระบบบริการสุขภาพ คิลานธรรม จึงขยับออกสู่การรับใช้สังคมในวงกว้าง ด้วยการเตรียมขยายโครงการจัดอบรมให้แก่ผู้สนใจทั่วไปที่แสวงหาการมีชีวิตอย่างทุกข์น้อยลงและสุขมากขึ้น

       “การเข้าใจและมองเห็นความเป็นธรรมดาแห่งชีวิตและความตาย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน
       ไม่ต้องรอให้ถึงวันป่วย เวลาป่วยคือเวลาที่เราเอาความเข้าใจนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์
       ตอนที่เรายังไม่ป่วย คือ เวลาที่เราต้องสร้างความตระหนักและความเข้าใจนั้นให้เกิดขึ้น
       รวมทั้งเรียนรู้ว่าต้องปฏิบัติอย่างไรใจเราจึงจะไม่ป่วยตามกาย”

       พระมหาสุเทพกล่าวถึงเหตุผลที่คิลานธรรม มีโครงการเปิดตัวสู่สังคมวงกว้าง



ขอบคุณภาพข่าวจาก www.komchadluek.net/detail/20120627/133750/คิลานธรรมกับกิจกรรมธรรมะเพื่อผู้ป่วย.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: 'คิลานธรรม' กับ 'กิจกรรมธรรมะเพื่อผู้ป่วย'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2012, 01:20:40 pm »
0
อนุโมทนา กับ ทีมงาน คิลานธรรม ทั้งฝ่าย รพ. และ คณะสงฆ์ เป็นกิจกรรมที่ดี เป็นที่พึ่งพาทางจิตของคนที่ป่วย นับว่า ควรแก่การสนับสนุน เพราะการที่จะหาพระ บุคคลากร ทำงานด้านการเผยแผ่พระธรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็น ระดับ จริยธรรม ศีลธรรม ปรมัตถธรรม ล้วนแล้ว บุคคลากรทางด้านสงฆ์ หาได้ยากจริง ๆ

   สาธุ กับ การเสียสละ แนวทางเพื่อการเผยแผ่ธรรมเยียวยาใจของคนที่มีทุกข์ ได้มีสุขบ้าง หรือ สุขมากขึ้น
 
   เจริญธรรม

    ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา