ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การอดอาหาร กันเป็น อาทิตย์เป็นเดือน จัดเป็นการปฏิบัติ ธรรม หรือคะ  (อ่าน 4483 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือไม่ทราบว่าจำผิดหรือไม่ ? ว่าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงอดอาหาร แล้ว เห็นว่าไม่ใช่ทางสายกลาง พระองค์จึงกลับมาเสวยพระกระยาหาร ก่อน กาารตรัสรู้ ซึ่งิวิธีการอย่างนี้จัดเป็น อัตตกิลมถานุโยค คือการทรมานตนซึ่งไม่ใช่ทางสายกลางในการปฏิบัติ แต่ทำไมเดี่ยวนี้ทางพระและสำนักต่าง ๆ จึงกล่าวสรรเสริญวิธีการปฏิบัติอย่างนี้เป้นการปฏิบัติธรรม ภาวนาที่ควรนำเป็นตัวอย่าง เป็นผู้ปฏิบัติอย่างแท้จริง

    โดยเฉพาะ ที่ดิฉันได้เจอ ถึงกับมีคำกล่าวว่า พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั้นต้องเป็นพระผอม ๆ ส่วนพระที่ อ้วน ๆ นั้นเป็นพระที่ปฏิบัติ อะไรไม่ได้ ซึ่งการพูดอย่างนี้ ถูกหรือไม่คะ

     :a102: :a102: :a102: :c017:
บันทึกการเข้า

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การอดอาหาร และ การบำเพ็ญแบบโยคี เป็นการเสริมตบะ แบบโยคี จัดเป็น อัตตกิลมถานุโยค เป็นการทำส่วนสุดสองประการ ทางสายกลางเท่านั้นครับ ที่ทำให้ถึงวิมุตติ และ เจริญได้ในวิมุตติ ครับ

  :49:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
"พระที่ อ้วน ๆ นั้นเป็นพระที่ปฏิบัติ อะไรไม่ได้ "  ใช่ก็ส่งสัยอยู่ว่าปฏิบัติอะไรไม่ได้  ก็แล้วอะไรละที่ว่า ปฏิบัติไม่ได้  ถ้างั้น  แล้วพระที่ไม่อ้วนก็ปฏิบัติอะไร อะไรได้หมดเลยนะสิ  งั้นคงจะแปลกดี  เอางี้เลยนะจ๊ะ เอาคำภีร์มากางให้เราดู ถ้าจะให้เราเชื่อ  โดยเฉพาะในสิ่งที่พระพุทธองค์สอน  มีไหมสักครั้งที่ได้กล่าวไว้ ที่เกี่ยวกับกาย ที่ว่าจะทำให้ปฏิบัติไม่ได้  ที่เห็นมี ก็มีแต่ที่เกี่ยวกับใจ

             ไม่รวมทำทานนะ เพราะต้องทำด้วยกาย

       
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

สมเด็จเกียว วัดสระเกศ

หลวงปู่สิม

หลวงปู่หล้ากราบนมัสการหลวงปู่เทสก์

หลวงพ่อปราโมทย์


   
     พระคณาจารย์เหล่านี้(ตามภาพ) ล้วนมีชื่อเสียง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
     รูปร่างของทุกท่านบอกได้เลยว่า "ท่านไม่ผอม"
     ภิกษุใดมีรูปงาม จะสร้างเวรภัยให้กับตนเองและคนอื่น ตัวอย่างในสมัยพุทธกาลมีอยู่ เช่น
     พระมหากัจจายนเถระ เอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร

 



พระเถระแปลงร่าง
     ดังที่กล่าวมาในตอนต้นแล้วว่าพระมหากัจจายนเถระ เป็นผู้มีรูปร่างสง่างามผิวเหลืองดุจทองคำสะอาดผ่องใจ เป็นที่ต้องตาถูกใจแก่ผู้พบเห็นทั่วไป จนกระทั่งมีเหตุการณ์วิปริตเกิดขึ้นแก่บุตรเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองโสเรยยะ ชื่อว่า โสเรยยะ เหมือนชื่อเมือง

 
     ขณะที่เขานั่งบนยานพาหนะกับสหายเพื่อไปอาบน้ำพร้อมกับบริวารทั้งหลาย ได้เห็นพระเถระกำลังยืนห่มจีวร เพื่อเข้าไปบิณฑบาตในเมืองแล้วเกิดความพอใจ ในดวงจิตคิดอกุศลขึ้นว่า “งามจริงหนอ พระเถระรูปนี้ น่าจะเป็นภริยาของเรา หรือไม่ก็ขอให้ภริยาของเรามีสีผิวกายเหมือนพระเถระนี้”

    ด้วยอกุศลจิตคิดเพียงเท่านี้ ทำให้เพศชายของเขาหายไป กลายเป็นเพศหญิงไปทั้งร่างทำให้เขาอับอายเป็นอย่างมาก และโดยที่ไม่มีใครรู้เขารีบลงจากยานนั้นแล้วเดินตามกองเกวียนพ่อค้าไปยังเมืองตักสิลา และได้เป็นภริยาของลูกชายเศรษฐีในเมืองนั้น อยู่ร่วมกันจนมีบุตร ๒ คน

     แต่เดิมทีที่เขาอยู่ในเมือง โสเรยยะนั้น เขาก็มีภริยาอยู่แล้วและมีบุตรด้วยกัน ๒ คน เช่นเดียวกัน จึงปรากฏว่าเขาเป็นทั้งพ่อและแม่ หรือเป็นทั้งผัวและเมียในชาติเดียวกันนี้



    ต่อมา พระมหากัจจายนเถระ จาริกมายังเมืองตักสิลา โสเรยยะทราบแล้วจึงเล่าเรื่องราวของตนที่ผ่านมาให้สามีฟัง แล้วพากันไปกราบขอขมาโทษต่อพระเถระ เมื่อท่านทราบเรื่องโดยตลอดแล้วก็ยกโทษให้ และเพศหญิงก็หายไปเพศชายปรากฏขึ้นมาเหมือนเดิม

     เขาเกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระเถระเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเห็นว่าตนเองเป็นคนแปลกคือเป็นทั้งชายและหญิงในอัตภาพเดียวเท่านั้น และยังคิดว่าไม่ควรที่จะอยู่ครองเพศฆราวาสต่อไป จึงมอบบุตรทั้ง ๔ คนให้บิดามารดาเลี้ยงดูต่อไป ส่วนตนเองได้ขอบวชในสำนักพระเถระ และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในกาลต่อมา

     พระมหากัจจายนะ นอกจากจะมีเรื่องของโสเรยยะแล้ว ยังมีเรื่องพระภิกษุเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เห็นพระเถระเดินมาแต่ไกลแล้วก็พากันกล่าวว่า “พระบรมศาสดาของพวกเราเสด็จมาแล้ว” แล้วพากันทำความเคารพกราบไหว้ ทั้งนี้ก็เพราะท่านมีรูปลักษณ์ละม้ายกับพระผู้มีพระภาคนั้นเอง

     พระเถระพิจารณาเห็นโทษเช่นนี้แล้ว
     จึงอธิษฐานจิตเนรมิตรร่างกายของท่านให้เปลี่ยนแปลงผิดแปลกไปจากเดิม
     ร่างกายที่เคยสง่างามก็ย่นย่อ ต่ำเตี้ย ท้องป่อง
หมดความสวยงาม
     ดังที่พุทธศาสนิกชนนิยมสร้างรูปท่านไว้เป็นที่สักการบูชาในทุกวันนี้


_______________________________________
ที่มา http://84000.org/one/1/15.html
ภาพจาก http://statics.atcloud.com/ และhttp://www.dmc.tv/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
คือไม่ทราบว่าจำผิดหรือไม่ ? ว่าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงอดอาหาร แล้ว เห็นว่าไม่ใช่ทางสายกลาง พระองค์จึงกลับมาเสวยพระกระยาหาร ก่อน กาารตรัสรู้ ซึ่งิวิธีการอย่างนี้จัดเป็น อัตตกิลมถานุโยค คือการทรมานตนซึ่งไม่ใช่ทางสายกลางในการปฏิบัติ แต่ทำไมเดี่ยวนี้ทางพระและสำนักต่าง ๆ จึงกล่าวสรรเสริญวิธีการปฏิบัติอย่างนี้เป้นการปฏิบัติธรรม ภาวนาที่ควรนำเป็นตัวอย่าง เป็นผู้ปฏิบัติอย่างแท้จริง

    โดยเฉพาะ ที่ดิฉันได้เจอ ถึงกับมีคำกล่าวว่า พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั้นต้องเป็นพระผอม ๆ ส่วนพระที่ อ้วน ๆ นั้นเป็นพระที่ปฏิบัติ อะไรไม่ได้ ซึ่งการพูดอย่างนี้ ถูกหรือไม่คะ

     :a102: :a102: :a102: :c017:

     
     การบำเพ็ญทุกขกริยาของพระพุทธเจ้านั้น ส่วนตัวเห็นว่า หากเอาเจตนาเพื่อจะค้นหาธรรมเป็นเกณฑ์แล้ว ผมถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง  ส่วนพวกโยคี ฤาษี ชีไพรต่างๆ ตลอดจนพระธุดงด์บางรูป จำเป็นต้องอดอาหารเพราะอยู่ในป่าที่ห่างไหลจากหมู่บ้าน และบิณฑบาตรไม่ได้ ผมก็ถือว่าเป็นการบำเพ็ญตบะ(ความเพียรอันเป็นเครื่องเผาผลาญกิเลส) และขันติบารมี

     ส่วนเรื่องพระอ้วนนั้น เราจะถือเอารูปร่างเป็นตัวชี้วัดว่า "คนอ้วนเป็นคนมักมากในกามนั้น" ไม่ได้
     พระดีหรือไม่ดี ต้องเอาสังโยชน์เป็นเครื่องวัด (ระดับของอริยะบุคคล)
     พระอริยะที่ดูรูปร่างภายนอกอ้วนนั้น ในปัจจุบันมีอยู่
     บางองค์ที่อ้วน เพราะท่านอธิษฐานให้รูปร่างเป็นอย่างนั้น

      :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ