ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีดศาลาวัดกรุงเก่าหนีน้ำ 'ถล่มยับ'...แต่พระพุทธรูปรอด  (อ่าน 1640 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29309
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ดีดศาลาวัดกรุงเก่าหนีน้ำ 'ถล่มยับ'...แต่พระพุทธรูปรอด

ดีดศาลาการเปรียญอายุร้อยปี วัดเมืองกรุงเก่าหนีน้ำไม่สำเร็จ เกิดอุบัติเหตุพังถล่มทั้งหลัง แต่เกิดปาฎิหาร์ยพระพุทธรูป 5 องค์ไม่ระคาย

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุศาลาการเปรียญวัดขุนพรหม ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถล่มลงมาทั้งหลัง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศาลาการเปรียญทรงไทยที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงดีดตัวเสาศาลาด้านบนขึ้นขึ้นพังลงมาทั้งหลังเศษหลังคากระเบื้อง ตัวช่อฟ้า พังเสียหายทั้งหมด แต่พบว่าพระพุทธรูปที่อยู่บนศาลาจำนวน 5 องค์ไม่ดีรับความเสียหาย





พระอธิการธนากร ธนาวโร อายุ 62 ปี เจ้าอาวาส เปิดเผยว่าศาลาการเปรียญแห่งนี้ตัวโครงสร้างเดิมเป็นศาลาทรงไทย อายุกว่า 100 ปี ก่อนหน้านี้ทางวัดได้มีการปรับปรุงศาลาให้สูงขึ้นก่อนที่น้ำจะท่วมใหญ่เมื่อปลายปีจนสารมารถเป็นที่พักอาศยของชาวบ้านที่บ้านถูกน้ำท่วม แต่ได้มีการขยายตัวศาลาเพิ่มเติม แต่ความสูงของหลังคาของศาลาหลังเดิมกับหลังใหม่ไม่เท่ากัน 

จึงได้ดีดตัวเสาและหลังคาของศาลาหลังเก่าให้สูงเท่ากันโดยว่าจ้างช่างในราคา 5 หมื่นบาท เพื่อความสวยงามและรักษารูปแบบศาลาหลังเดิมเอาไว้ด้วย






ขณะเกิดเหตุเพราะในวัดอยู่ระหว่างเตรียมตัวจะทำวัด ได้ยินเสียดังสนั่นรีบออกมาดูพบว่าศาลาพังลงมาทั้งหลัง  แต่เรื่องน่าอัศจรรย์ที่พระพุทธรูปที่อยู่บนศาลาการเปรียญที่ชาวบ้านกราบไหว้เวลาทำบุญวันพระและเป็นที่ถือศีลปฎิบัติธรรม ไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย  ทางวัดเองมีงบประมาณน้อยหลังจากนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ

นายการระเวก ว่างนอก อายุ 45 ปี ช่างรับเหมาดีดศาลาการเปรียญกล่าวว่า การดำเนินการดีดศาลาได้ทำตัดคอเสาทุกต้นของศาลาแล้วใช้แม่แรง และลอกดีดชักตัวเสาศาลาขึ้นแต่ด้วยตัวคานและเสาศาลาเก่าจึงทำให้เวลาที่ดีดขึ้นไปรับน้ำหนักไม่ไหวจึงทำให้ศาลาพังลงมาขณะเกิดเหตุคนงานเก็บข้าวของเตรียมที่จะเลิกงานอยู่แล้วจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ



ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/137872
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ