ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'อันซีน..องค์พระธาตุพนม' นอกงาม..ในงามกว่า  (อ่าน 2052 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



'อันซีน..องค์พระธาตุพนม' นอกงาม..ในงามกว่า

อันซีนในองค์พระธาตุพนม ภายนอกที่ว่างามยังแพ้ความงามที่ซ่อนอยู่ภายใน
ท่องไปแดนธรรม เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพนายชินทัต เวียร์สุวรรณ
     
        พระธาตุพนม จ.นครพนม สูง ๕๒ เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม
        กว้างด้านละ ๑๑.๒๕ เมตร ยอดฉัตรเป็นทองคำหนัก ๑๐ กิโลกรัม
        เป็นเจดีย์สำคัญของภาคอีสาน มีอายุเก่าแก่และงดงามกว่าพระธาตุองค์อื่นๆ
        โดยประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนม ซึ่งมีทำเลเป็นโคกสูงกว่าบริเวณที่ประดิษฐาน เดียวกัน เรียกว่า "ภูกำพร้า" บางแห่งเรียกว่า "ภูก่ำพร้า"  หน้าวัดมีซุ้มประตูใหญ่ ๑ แห่ง และประตูเล็ก ๒ แห่ง บนประตูมีรูปโทณพราหมณ์ กำลังตวงพระบรมธาตุด้วยทะนานทอง  เมื่อเข้าไปภายในวัดจะถึงพระอุโบสถ และวิหารคต

 
       การก่อสร้างพระธาตุพนมองค์นี้ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่ในตำนานแห่งพระธาตุพนม กล่าวว่า พระยาสุวรรณพิงคละ พระยาคำแดง พระยาอินทปัตถะนคร  พระยาจุลนีพรหมทัต  พระยานันทเสน ช่วยกันสร้างขึ้น ตามคำแนะนำของพระมหากัสสปเถระ เมื่อ พ.ศ.๘ และในตำนานเล่มเดียวกันนี้ได้เล่าถึงวิธีการสร้างไว้ว่า
 
       "องค์พระธาตุพนมได้ก่อขึ้นด้วยแผ่นอิฐดินดิบ และอนุญาตให้ชาวบ้านนำข้าวของเงินทอง มาบรรจุไว้ภายใน แล้วสุมไฟเผาทั้ง ๔ ด้าน เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน พออิฐสุกและเย็นลงดีแล้ว ก็ได้นำพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ภายใน"

 



       ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดีหลายท่าน ลงความเห็นใกล้เคียงกันว่า พระธาตุพนมได้สร้าง เมื่อประมาณ ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว และสร้างด้วยอิฐเผา ไม่อิฐดิบสลักเป็นลวดลายวิจิตรพิสดาร การก่อสร้างประณีตสวยงาม ได้รับการบูรณะจากกษัตริย์ผู้ครองนครเวียงจันทน์ และทางบ้านเมืองของไทยเสมอมา ชาวท้องถิ่นเคารพบูชาพระธาตุแห่งนี้ ทุกคนช่วยกันรักษาดูแลอย่างดีที่สุด
 
       อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม  พ.ศ.๒๕๑๘ องค์พระธาตุพนมได้ล้มลงท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก สร้างความเศร้าสลดใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ รัฐบาลจึงได้รีบเร่งจัดตั้งคณะกรรมการ บูรณะพระธาตุพนมให้คืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ระหว่างการบูรณะได้มีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุที่เชื่อกันว่าเป็นพระอุรังคธาตุ บรรจุอยู่ภายในองค์พระธาตุพนม ตามตำนานอุรังคธาตุด้วย
 
       เมื่อการบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุพนมสำเร็จเรียบร้อย สมเด็จพระสังฆราช ได้เสด็จไปทรงยกยอดฉัตรทองคำ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๒ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ไปทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ องค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๒ หลังจากนั้นได้มีการสมโภชพระธาตุพนมอย่างมโหฬาร
 
      งานไหว้พระธาตุพนม ระหว่างวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ถึงแรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ รวม ๗ วัน ๗ คืน มีพุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและชาวลาว เดินทางไปร่วมงานบุญนี้อย่างเนืองแน่น







ภายนอกงามภายในงามยิ่งกว่า
      "ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าภายในองค์พระธาตุพนมจะมีการประดับตกแต่ด้วยศิลปะปูนปั้นอันวิจิตร พร้อมประดับอัญมณีมีค่าหลากหาย ทั้งทับทิม พลอยและแร่รัตนชาติหลากชนิด นอกจากนี้ยังเป็นที่รวบรวมของมีค่าที่เคยบรรจุไว้ในองค์พระธาตุพนมเมื่อครั้งที่พังลงมา"
 
     ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นคำบอกเล่าของนายชินทัต เวียร์สุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักส่งเสริมจริยธรรมองค์การ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้ซึ่งมีโอกาสเข้าไปถ่ายภาพในองค์พระธาตุพนม
 
    พร้อมกันนี้ ได้เล่าให้ฟังว่า นับเป็นความโชคดี ประมาณ ๓ ปีก่อน เมื่อครั้งไปช่วยงานโรงเรียน ตชด. จ.นครพนม และ จ.หนองคาย โดยได้นำคณะศรัทธาจากสมาคมสโมสรนักลงทุน ๔ ท่าน นำผ้าดิ่นทอง น้ำมันหอม และดอกไม้ ไปถวายบูชาพระอุรังคธาตุที่วัดพระธาตุพนม
 
      เมื่อทำพิธิธีเสร็จก็มีสถาปนิกที่ควบคุมงานการประดับตกแต่ในองค์พระธาตุพนมได้ออกมาชวนให้ชมสิ่งมหัศจรรย์ ในองค์พระธาตุพนม โดยเข้าใจว่าตนเองเป็นครูบาอาจารย์ทางไสยศาสตร์พาคณะศรัทธาทำพิธี โดยมีชาวบ้านมาร่วมพิธีนับร้อยๆ คน ทั้งนี้ได้ปีนขึ้นไป ๔ ชั้น

      โดยในแต่ละชั้นมีความสำคัญแตกต่างกันออกไป
      ชั้นแรกเป็นพื้นเสมอกับภายนอก
      ส่วนชั้นที่ ๒ เป็นที่ประดิษฐานของพระนามาภิไธย่อ สก. โดยผนังทั้ง ๔ ด้านมีรูปธรรมจักร ราชรถ ประดับ
      ส่วนชั้นที่ ๓ เป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ
      ชั้นที่ ๔  เป็นที่ประดิษฐานของมณฑปทองคำประดับด้วยอัญมณีมีค่าสุดจะประเมินไม่ได้
      ส่วนชั้นที่ ๕ ไม่ได้ขึ้นไป โดยช่างบอกเพียงว่า ไม่มีอะไรมีเพียงบันไดขึ้นไปเพื่อเปลี่ยนไฟที่อยู่บนยอดพระธาตุพนมเท่านั้น



ขอบคุณบทความและภาพจาก
www.komchadluek.net/detail/20120914/140013/อันซีนองค์พระธาตุพนมนอกงามในงามกว่า.html#.UFMmXqDvolg
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ