ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วัดใหญ่..เปลี่ยนไปใหญ่ ฝีมือ 'พระธรรมเสนานุวัตร'  (อ่าน 2248 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29310
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


วัดใหญ่..เปลี่ยนไปใหญ่ ฝีมือ 'พระธรรมเสนานุวัตร'
วัดใหญ่เปลี่ยนไปใหญ่ ด้วยฝีมือและผลงานพัฒนาของ “พระธรรมเสนานุวัตร” : ท่องไปในแดนธรรม เรื่อง / ภาพโดยไตรเทพ ไกรงู

    “วัดใหญ่” หรือ “วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช” เป็นชื่อที่ชาวบ้านทั่วๆ ไปเรียก “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร” จ.พิษณุโลก เป็นพระอารามหลวงมาแต่เดิม สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ปัจจุบัน มีพระธรรมเสนานุวัตร (บำรุง ฐานุตฺตโร มากก้อน ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะภาค ๕ เป็นเจ้าอาวาส
 
    ภายในวิหารของวัดเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” หรือที่ชาวเมืองพิษณุโลกเรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พญาลิไท) โปรดให้สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวราราม และพระศรีศาสดาซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ทุกๆ ปี จะมีงานนมัสการพระพุทธชินราชในวันขึ้น ๖ ค่ำ ถึงวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๓ (ประมาณปลายเดือนมกราคม) เรียกว่า “งานวัดใหญ่
 
    พระธรรมเสนานุวัตร ถือว่าเป็นพระนักพัฒนาที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลมากเมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ เมื่อครั้งยังมีสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ "พระศรีรัตนมุนี" วัดแห่งนี้ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันท่านก็เดินหน้าโครงการจัดสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย รวมทั้งจัดสร้างโรงเรียนสาธิตวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช

 



    ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนประการแรก คือ เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ ทางวัดโดยกรมศิลปากร ได้บูรณะขุดแต่งทางโบราณคดี วิหารเก้าห้องประดิษฐานพระอัฏฐารส (เดิมเนินวิหารเก้าห้อง) ให้เห็นแท่นสักการะและพื้นวิหาร รวมทั้งทางวัดได้ปรับแต่งภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้ภายในวิหารเก้าห้อง ซึ่งขณะนี้ดำเนินแล้วเสร็จ
 
    นอกจากนี้แล้วความเปลี่ยนแปลงที่ต้องเขียนถึง คือ เดิมทีนั้นร้านจำหน่ายวัตถุมงคลจะอยู่ด้านหน้าวัด แต่ขณะทางวัดได้จัดสร้างร้านให้เช่าบูชาวัตถุมงคลอย่างสวยงามไว้ด้านข้าง ทั้งนี้ พระธรรมเสนานุวัตร มีโครงการที่จะรื้อร้านจำหน่ายวัตถุมงคลเก่าออก เพื่อให้วิหารพระพุทธชินราชมีความโดดเด่น
 
    ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายใน ๑ ปี นับจากนี้ คือ โครงการจัดสร้างอาคารศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกถาวรบริเวณด้านหลังของวัด ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เมื่อสร้างเสร็จจะย้ายร้านค้าที่มีอยู่ประมาณ ๒๐๐ ร้าน ทั้งหมดไปรวมอยู่ในอาคารเดียวกัน รวมทั้งย้ายแผงขายลอตเตอรี่ทั้งหมดไปอยู่นอกรั้วด้านหน้าวัดริมแม่น้ำ เพื่อความเป็นระเบียบและสวยงาม ให้สมกับคำว่า “วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราชเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก”
 
    พระธรรมเสนานุวัตร ยังบอกด้วยว่า การบูรณปฏิสังขรณ์โบราณวัตถุภายในวัดนั้น ใช้เงินประมาณ ๒๐๐ ล้าน บาท โดยจะใช้เวลาประมาณ ๓ ปี ซึ่งมาจากหลายๆ ส่วนประกอบกัน แต่ที่มากสุดมาจากศรัทธาประชาชน เดินทางมากราบไหว้ขอพร ทำบุญ ร่วมทั้งเช่าบูชาหลวงพ่อพระพุทธชินราช ทั้งขนาดบูชาและขนาดห้อยคอ ทั้งนี้ แต่ละปีวัดจะสร้างหลวงพ่อพระพุทธชินราชทั้งขนาดบูชาและขนาดห้อยคอ
 
    “ปัจจัยทำบุญที่ญาติโยมเดินทางมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพระพุทธชินราช รวมทั้งเช่าบูชาวัตถุมงคลของวัด ทุกบาททุกสตางค์ถูกใช้ไปเพื่อการพระศาสนาทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งถูกใช้ไปเพื่อปฏิสังขรณ์โบราณวัตถุภายในวัด ส่วนหนึ่งใช้สร้างพระสงฆ์ และสร้างพุทธศาสนิกชน ผ่านมหาวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช และโรงเรียน


 



ขยายเวลาเปิดวิหารถึง ๓ ทุ่ม
 
    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงกล่าวถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารไว้ว่า "เป็นวัดใหญ่และเป็นวัดที่สำคัญกว่าวัดอื่นในเมืองพิษณุโลก มีพระมหาธาตุอยู่กลางเห็นจะสร้างตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานี หากแต่ซ่อมแซมมาหลายครั้งหลายสมัย"
 
     นอกจากนี้วัดใหญ่ยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุล้ำค่าอีกมากมาย ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ได้ทรงนิพนธ์ไว้ว่า "นมัสการพระพุทธชินราชแล้ว ดูธรรมมาสน์เทศน์ ธรรมาสน์สวด ดูเรือนแก้ว แลสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ ล้วนเป็นของดีอย่างเอก ไม่เคยพบไม่เคยเห็น "
 
     พระธรรมเสนานุวัตร บอกว่า เดิมที่นั้นวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราชจะเปิดให้ประชาชนกราบไหว้ได้ ๐๖.๓๐-๑๖.๓๐ น.เท่านั้น แต่ด้วยจำนวนคนที่เดินทางจากต่างถิ่นไกลๆ มาไม่ทันเวลา พระธรรมเสนานุวัตร จึงได้ร่วมประชุมหารือกับคณะกรรมการวัด จึงมีความเห็นตรงกันว่าควรขยายเวลาเปิดออกไปจนถึง ๒๑.๐๐ น. โดยเปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๒ ทำให้จำนวนคนมาไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราชเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก
 
    วัดใหญ่เปิดทุกวัน เวลา ๐๖.๐๐-๒๑.๐๐ น. ส่วนพิพิธภัณฑ์ในวัดเปิดเวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. พุทธศาสนิกชนสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐-๕๕๒๑-๔๘๒๔ และ ๐๘-๖๒๐๘-๓๙๖๙ หรือเข้าชมรายละเอียดอื่นๆ ของวัดได้ที่ “www.watyai.com”



ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20120928/141072/วัดใหญ่เปลี่ยนไปใหญ่ฝีมือพระธรรมเสนานุวัตร.html#.UGaCaqDvolh
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ