แนะ 'ขันติธรรม' หัวใจพหุวัฒนธรรม..รับอาเซียน
อธิการบดี มจร ย้ำ “ขันติธรรม” คือหัวใจสำคัญของพหุวัฒนธรรม เป็นฐานรับประชาคมอาเซียน
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยร่วมกับคณะอนุกรรมการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นความรู้คู่คุณธรรม และการสอนสอดแทรกจริยธรรมในการสอนฯ ของกลุ่มเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาเขตภาคกลาง เพื่อพัฒนาบัณฑิตอุดมคติไทย
ซึ่งนำโดย รศ. พลอากาศตรี นิกร ชำนาญกุล ประธานเครือข่าย ได้ร่วมกันจัดสัมมนา เรื่อง “พหุวัฒนธรรมกับการพัฒนาบัณฑิตไทยในบริบทอาเซียน” ณ สำนักงานอธิการบดี ห้อง ๔๐๑ มหาจุฬาฯ วังน้อย โดยมีคณาจารย์กว่า ๗๐ ท่านจากสถาบันต่างๆ ๕๐ สถาบัน เดินทางมามาร่วมกิจกรรมสัมมนาในครั้งนี้
ในการสัมมนาครั้งนี้ พระธรรมโกศาจารย์, ศ.ดร. อธิการบดี กล่าวว่า “แม้ว่าประชาคมอาเซียนจะพยายามเน้นหนักทั้งประชาคมความมั่นคง และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน แต่สิ่งที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญคือเสาด้านสังคมและวัฒนธรรม ดังที่ประเทศจีนพยายามจะมุ่งเน้นมิติด้านนี้โดยการจัดตั้งสถาบันขงจื้อเพื่อสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนในประเทศต่างๆ และเสานี้เป็นการมุ่งเน้นให้กลุ่มคนในอาเซียนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขท่ามกลางความแตกต่าง”
“ขันติธรรม (Tolerance) เป็นหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันกับกลุ่มคนต่างๆ ที่มีความแตกต่าง เพราะจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอดทดต่อความแตกต่างกันทางศาสนา ภาษา ชาติพันธุ์ ความเชื่อ และอุดมการณ์ทางความคิด แนวทางนี้จะนำไปสู่การเคารพ และการยอมรับนับถือ วัฒนธรรมที่หลากหลาย วิธีการแสดงออก และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป อีกทั้งพร้อมที่จะรับฟัง และปฏิบัติต่อบุคคลที่มีความแตกต่างกัน” พระธรรมโกศาจารย์กล่าวย้ำ
พระศรีคัมภีรญาณ, รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการสนับสนุนท่าทีดังกล่าวโดยยกประเด็นที่พระพุทธเจ้าทรงให้ความสำคัญต่อความอดทนคือความอดกลั้นเป็นตบะอย่างยิ่ง ฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่พลเมืองอาเซียนที่อาศัยอยู่ร่วมกันจะต้องวางท่าทีต่อความแตกต่าง โดยการศึกษา เรียนรู้ เข้าใจ และอยู่ร่วมกับคนที่แตกต่างกันได้อย่างมีความสุข
“การจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขในอาเซียนจำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องร่วมพัฒนาในสามมิติหลักคือ การสนับสนุนด้านการศึกษาเพื่อจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมอื่นๆ การบริหารองค์กรให้สอดรับความเป็นไปท่ามกลางความแตกต่าง และการสังเคราะห์กลุ่มคนต่างๆ ที่ด้อยโอกาส หรือสนับสนุนกลุ่มคนยังไม่พร้อม ให้เกิดความพร้อมเพื่อจะได้เดินไปสู่เป้าหมายคือความสุขของกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในประชาคมอาเซียน” พระศรีคัมภีรญาณกล่าว 
เพื่อให้บัณฑิตไทยมีขันติธรรมที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความแตกต่าง และอดทนที่จะฟัง และปฏิบัติต่อกลุ่มคนที่มีความแตกต่างทั้งศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม ดังนั้น ต่อไปนี้ เครือข่ายจะพยายามการทำวิจัย หรือพัฒนาการเรียนการสอนที่ทำให้บัณฑิตได้ตระหนักรู้ต่อคุณค่าและความสำคัญของพหุวัฒนธรรมและขันติธรรมมากยิ่งขึ้น”
การจัดงานสัมมนาครั้งนี้ เป็นโครงการที่คณะอนุกรรมการดำเนินกิจกรรมการสอนที่มุ่งเน้นความรู้คู่คุณธรรม และการสอดแทรกคุณธรรมในการสอน ของเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาในเขตภาคกลาง เพื่อพัฒนาบัณฑิตอุดมคติไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่อนเยี่ยมเพื่อน และประชุมสัญจรตามมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ร่วมเป็นเครือข่ายกว่า ๘๐ สถาบัน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ร่วมการจัดวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนากิจกรรมและโครงการของเครือข่ายในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ อีกทั้งหาแนวทางในการมอบรางวัลเชิดชูคนดีทั้งอาจารย์และนิสิตของสถาบันต่างๆ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างการสร้างความดีแก่สังคม และประเทศชาติต่อไป ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20120929/141183/แนะขันติธรรมหัวใจพหุวัฒนธรรมรับอาเซียน.html#.UGe3KqDvolh (หมายเหตุ : อธิการบดี มจร ย้ำ “ขันติธรรม” คือหัวใจสำคัญของพหุวัฒนธรรม : พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส รองอธิการบดี มจร รายงานผ่านทางเฟซบุ๊ก)
ผู้เขียน
หัวข้อ: แนะ 'ขันติธรรม' หัวใจพหุวัฒนธรรม..รับอาเซียน (AEC) (อ่าน 2037 ครั้ง)