ทรงสอนว่าฌานวิสัยเป็นอจินไตย
ถ้าเป็นลักษณะของรูปฌานสี่นะครับ
ดูลักษณะเอาคงไม่ได้หรอกครับ ดูอาการก็ได้แค่คิดไป ต้องทำเอาเอง อย่างน้อยถึงอุปจารสมาธิ จึงจะมีโอกาสเดาทางได้ถูกสัก 10%
เพราะอาการของฌานนั้น ถ้าจะบอกว่าทำงานอะไรก็มักได้ผลดี คนที่ฉลาดมากๆหรือประสบการณ์เยอะจัด เขาก็อาจพลิกแพลงทำอะไรให้เรียบง่ายแต่ได้ผลดีคล้ายๆคนได้ฌานได้เช่นกัน
ถ้าเพิ่งออกจากฌานใหม่ๆอาจมีอาการตาลอยให้เห็น รอสักพักหนึ่งจึงจะปรับจิตลงมาคลุกเคล้ากับสิ่งเร้าภายนอกได้ ก็ตัดสินไม่ได้ เพราะเจอนิมิตแค่ระดับอุปจารสมาธิ ก็พาให้ตาลอยตาเยิ้มได้เช่นกัน
ดูเหมือนคนที่สติสมาธิมากกว่าและสติสมาธิน้อยกว่าชาวบ้าน มักจะถูกโลกตัดสินว่าบ้าทั้งคู่ครับ
เรื่องเมตตา กรุณาและอ่อนโยนนั้น บางครั้งก็เหมือนขัดกัน คือมีเมตตาสูงมากก็จริง แต่ก็อุเบกขาสูงไปด้วย จะแตะต้องอะไรๆก็ให้น้อยที่สุด ไม่ทำอะไรเกินจำเป็น ถ้าไม่เดือดร้อนมากก็แทบจะปล่อยให้ไปตามบุญตามกรรม คือถ้าไปช่วยด้านหนึ่ง มันก็กระทบอีกด้านหนึ่ง..จึ่งอาจไม่ช่วยเลย หรือแค่ช่วยไปตามเรื่องเฉพาะหน้า
เวลาจิตกระเพื่อมก็อาจจะไม่ค่อยพอใจเท่าไร ช่วงไหนจิตทรงสมาธิดีจึงยิ่งต้องระวังตัวมากๆ ด้วยอำนาจจิตสูง ถ้าเผลอโกรธมันจะส่งผลแรงและเร็ว ถ้าไม่ระวังจิต เผลอคิดสื่อสารอะไรก็เป็นโทรจิตออกไปเลย แม้คนที่เราสื่อสารออกไปหาจะไม่ได้ฌาน ขอเพียงในขณะนั้นเขาตั้งจิตแน่วแน่ประมาณว่ากำลังอธิษฐานจิตอะไรสักอย่าง ก็รับการสื่อสารได้ครับ
ซึ่งเรื่องประจวบเหมาะแบบนี้เกิดขึ้นในวัดได้ จึงต้องระวังมาก ต้องพยายามรักษาสติให้สมดุลกับสมาธิใว้เสมอครับ เรื่องนี้ทำให้มีแนวโน้มจะปลีกตัวเสียอีก เว้นแต่คนทำได้เป็นวสี อันนี้ไม่ทราบครับ
วิธีที่ดีที่สุดคือ ฝึกสติฝึกรู้สึกตัวให้เยอะๆ ขยันเรื่องฝึกสติให้มากๆ ฝึกมันทุกวินาทีที่นึกได้ นั่งสมาธิเสริมบ้าง รักษาถือศีล 5 ให้แน่นๆ ไม่ใช่นั่งตามอยากหรือนั่งเป็นหลักนะครับ ให้นั่งสมาธิแค่เสริม แต่ฝึกสติเป็นหลัก ถ้านั่งสมาธิแล้วก้าวหน้าค่อยเอียงไปทางสมาธิเยอะๆ ถ้าไม่ก้าวหน้าก็เอียงกลับมาทางฝึกสติ ช่วงไหนสมควรทำให้จิตสงบก็นั่งสมาธิไป ช่วงไหนทำการงานต้องฝึกสติก็ฝึกไป รู้อาการตัวเอง ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ถ้าได้ถึงอุปจารสมาธิก็พอจะเทียบเคียงอาการเอาได้บางส่วน แต่ถึงตอนนั้น ฌานห่างไปนิดเดียวเองครับ
จะเห็นว่าอะไรที่คนทำฌานทำได้มันก็ไม่พ้นไปจากโลก ยังอิงแอบอยู่กับโลก จึงแยกให้ออกได้ยาก
ต่อให้ใช้กายเนื้อเหาะขึ้นไปเห็นได้คาตา คนก็ไม่เชื่ออยุ่ดี เพราะเครื่องบินก็ทำได้ไม่แปลกอะไร จับอะไรมาเทียบกันก็แยกแยะให้แตกต่างได้ยาก เพราะโดยการแสดงออกมันก็เหมือนๆกัน
สรุปว่าควรลองปฏิบัติครับ

แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 55 14:18:53
จากคุณ : BlueDelphi