ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'ไทยแลนด์คลินิก' เมตตาธรรม..สู่อินเดีย  (อ่าน 1415 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29300
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



'ไทยแลนด์คลินิก' เมตตาธรรม..สู่อินเดีย

สถานพยาบาล "ไทยกุสินาราฯ-ไทยแลนด์คลินิก" เมตตาธรรมจากชาวพุทธไทยสู่ชาวอินเดีย : พระครูปริยัติโพธิวิเทศ (ดร.คมสรณ์ คุตตธมฺโม) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกุสินารา - อินเดีย www.watthaikusinara-th.org

    สถานพยาบาล "ไทยกุสินาราเฉลิมราชย์" แห่งนี้เริ่มมาจากเมื่อครั้งเริ่มงานสร้างวัดตั้งแต่ปี ๒๕๓๗ โดยท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนรังษี หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย ประธานดำเนินงานสร้าง วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย พุทธสถานแดนปรินิพพานของพระพุทธองค์   ...เมื่อคนงานอินเดียเกิดการเจ็บป่วย ท่านก็แบ่งยาที่เตรียมไว้เพื่อรักษาคณะสงฆ์, นายช่างไทยที่มาอาสาสร้างวัด รักษาคนงานท้องถิ่นด้วย ขณะเดียวกันคนงานเมื่อรักษาโรคหายดีแล้ว เมื่อญาติพี่น้องลูกหลานคนงานเจ็บป่วย ก็มาขอยาเพื่อรักษาโรคจากพระสงฆ์ไทยเป็นประจำ
 
     ท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี จึงมีดำริสร้างสถานพยาบาลเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อดูแลรักษาคนท้องถิ่น และถือเป็นการดูแลคนงานไปในขณะเดียวกันด้วย สถานพยาบาลจึงได้เริ่มเปิดทำการขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ โดยมี นายธวัธชัย ทวีศรี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ในสมัยนั้น ร่วมกับ มูลนิธิฮารนาม ซิงห์ ฮารบันส์ กอร์ กรุงนิวเดลี โดยมี คุณกูรมัค ซิงห์ สัจจเทพ เป็นประธาน
 
    จากการสร้างคลินิกเล็กๆ ภายใต้การดูแลของ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ให้บริการที่ผู้ป่วยที่มารับการรักษา โดยเก็บค่ารักษา ๘ รูปี (๘ บาท) รักษาทุกโรค (วันพระรักษาฟรี) ต่อมามีชาวอินเดียเจ็บป่วยมารับบริการมีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ขยายสถานพยาบาล โดยย้ายไปฝั่งที่ดินตรงข้ามวัด ซึ่งมีบริเวณกว้างกว่าแห่งเดิม โดยได้รับพระราชทานแผ่นศิลาฤกษ์ การก่อสร้างอาคารจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๘
 
     จนเมื่อตัวอาคารสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ประกอบพิธีเปิดที่ทำการสถานพยาบาลอาคารหลังแรกเมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ โดยประธานาธิบดีของอินเดีย ดร.เอพีเจ อับดุล กาลาม ได้ให้เกียรติสูงสุดมาเป็นประธาน
 
      สถานพยาบาลแห่งนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษาร่วมบริจาคตั้งกองทุน ทุนละ ๘ รูปีเท่านั้น ประชาชนท้องถิ่นทั้งใกล้ไกล ต่างเดินทางเข้ามารับรักษาโรคแต่ละวันเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยวันละประมาณ ๒๐๐ คน สถิติตั้งแต่เริ่มต้นการให้บริการ มีผู้ป่วยถึงวันนี้ มีจำนวนกว่า ๖ แสนรายแล้ว
 
      ปัจจุบันสถานพยาบาลมีนายแพทย์ชาวอินเดียอยู่ประจำ ๓ ท่าน และเภสัชกร ๒ ท่าน 
      นับเป็นกิจกรรมนำศาสนา สร้างศาสนสัมพันธ์อันดีระหว่างวัดไทยในอินเดีย และชุมชนท้องถิ่น
      รวมทั้งเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินเดียได้เป็นอย่างดียิ่ง

 
     ในฤดูกาลแสวงบุญของชาวพุทธ ระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคม ของทุกๆ ปี กระทรวงสาธารณสุข  กรมการแพทย์ของไทย ได้จัดส่งทีมแพทย์มาอยู่ประจำการ เพื่อดูแลรักษาผู้แสวงบุญชาวไทยที่เจ็บป่วยเป็นพิเศษอีกด้วย โดยจัดส่งทีมแพทย์ ๒ ทีม มีนายแพทย์ ๔ ท่าน และพยาบาล ๖ ท่าน ทีมหนึ่งอยู่ประจำรักษาที่สถานพยาบาลวัดไทยกุสินาราฯ และอีกทีมอยู่ประจำการ ณ วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร อินเดีย

 



     นอกจากนี้ สถานพยาบาลมีหน่วยพยาบาลฉุกเฉินเตรียมการ หากเกิดกรณีเร่งด่วนที่ต้องรีบให้รักษา  นับเป็นการสร้างความมั่นใจด้านสุขภาพ สำหรับผู้แสวงบุญที่เดินทางไปประเทศอินเดีย หากเกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้เป็นอย่างดี
 
     ขณะนี้ สถานพยาบาลได้เพิ่มบริการจากการตรวจทั่วไป (O.P.D.) ด้วยการเปิดบริการห้องแล็บ รับตรวจเลือดและบริการกายภาพบำบัดแก่คนไข้ทั่วไป และคลินิกรักษาสุขภาพฟัน ในราคาเพื่อการกุศลอีกด้วย  สำหรับโรคที่พบและได้ทำการรักษามีดังนี้ ๑.โรคปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ทั่วไป ๒.โรคผิวหนัง โรคที่เกี่ยวกับสตรี ๓.โรคเบาหวาน ความดันโลหิต ๔.โรคไข้ตัวเหลือง ๕.โรคระบบทางเดินอาหาร ๖.โรคเท้าช้าง ๗.โรคมาลาเรีย และอื่น ๆ
 
     ในส่วนของอาคารด้านหลังใช้เป็นสถานที่รักษาโรคทางใจ คือใช้เป็นที่อบรม ศึกษาปฏิบัติธรรม แบบธรรมโอสถ ตามคติการสร้างสถานพยาบาลแห่งนี้ว่า "กุสินาราคลินิกเพื่อร่างกายและจิตใจ" (Kushinagar Clinic for Body and Mind)
       
     สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานนามอาคารนี้ว่า "อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์" เพื่อเป็นสิริมงคลแก่สถานพยาบาล ให้ดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วไป โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ชาติ ศาสดาใดๆ และเป็นศูนย์ฝึกอาชีพแก่ชาวอินเดียในท้องถิ่นอีกด้วย
       
     การดำเนินงานในปัจจุบัน สถานพยาบาลยังต้องการเงินบริจาคเข้ากองทุน
     เพื่อบริหารดำเนินงานให้อยู่ได้ ประมาณ ๑ แสนบาทต่อเดือน

 
     ขออนุโมทนา ทุกท่านที่มีส่วนร่วมสนับสนุนบริจาคให้การช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุนสถานพยาบาลของพระสงฆ์ไทย ณ แผ่นดินพุทธภูมิ ในนามชาวพุทธไทยเป็นที่ยอมรับรู้จักของชาวอินเดียทั่วไป  จนคนอินเดียเรียกติดปากว่า "ไทยแลนด์คลินิก" และชาวพุทธผู้มาแสวงบุญจากนานาชาติ ต่างก็พลอยได้รับอานิสงส์ เป็นหลักประกันด้านสุขภาพ เมื่อเดินทางไปไหว้พระที่อินเดียเป็นอย่างดี
 
    สาธุชนผู้ประสงค์ร่วมบริจาคปัจจัยเข้ากองทุนรักษาพยาบาล ติดต่อได้ที่...
    ธนาคารทหารไทย สาขาสุรวงศ์ ออมทรัพย์ มูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์-อินเดีย เพื่อสถานพยาบาล 
    บัญชีเลขที่ 078-2-14799-5


    ในประเทศอินเดีย : ติดต่อได้ที่ธนาคาร ICICI BANKA/C. Number 036401000468   WAT THAI KUSINARA CHARITABLE TRUST  FCRA, KAROL BAGH,NEW- DELHI 110005
 
    “อโรคยา ปรมา ลาภา....สทา โสตฺถิ ภวนฺตุ เต สพฺพทา”
    ขอความเป็นผู้ไม่มีโรค จงเป็นลาภอันประเสริฐ..บังเกิดแด่ทุกท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ ฯ ....
    ขอเจริญพรและอนุโมทนา


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20121025/143139/ไทยแลนด์คลินิกเมตตาธรรมสู่อินเดีย.html#.UIn2PaDvoli 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ