ฮือฮา.! พระเครื่องเชียงใหม่อายุกว่า 1,300 ปี..ตกผลึกขาวใสคล้ายเม็ดพระธาตุ
เชียงใหม่ ฮือฮา วัดไชยสถาน พบพระเครื่องตกผลึกขาวใสเป็นเม็ดพระธาตุ สร้างความอัศจรรย์แก่ศิษยานุศิษย์ เผยเป็นกรุจาก เวียงท่ากาน อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ผู้สื่อข่าวถ่ายรูปกดชัดเตอร์ไม่ลงต้องขออนุญาตก่อนจึงถ่ายภาพได้ ....
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ต.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดไชยสถาน (พระพุทธเจดีย์ 9 ยอด) หมู่ 1 ต.ป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น โดยมีพระเครื่องพระเปิมขึ้นเป็นเกล็ดพระธาตุ จากกรุเวียงท่ากาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อายุกว่า 1,300 ปี ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างแห่กันมาดูเป็นจำนวนมากไม่ขาดสาย เพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ จึงรุดไปหาข้อเท็จจริง
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่ามีประชาชนจำนวนมากมารุมดู ที่พระเครื่ององค์พระเปิมมีเม็ดพระธาตุขึ้นเต็ม โดยมีลักษณะ เป็นสีขาวตกผลึกขาวใสเป็นเกล็ดหรือเม็ดพระธาตุ ขึ้นตามองค์พระเปิมทั้งด้านหน้าและด้านหลังเมื่อนำกล้องส่องมาส่องดู หรือดูด้วยตาเปล่า พบว่า
เป็นผลึกขาวใสอยู่จริง ชาวบ้านเรียกว่าเกล็ดพระธาตุหรือเม็ดพระธาตุ ไม่ใช่เป็นเชื้อราขึ้นเมื่อเปิดออก ชาวบ้านพร้อมลูกศิษย์ หลวงปู่พระครูวรวรรณภรณ์ (หลวงปูอิ่นคำ) เจ้าอาวาสวัดฮือฮาไปตามกัน บางคนเชื่อว่าพระธาตุที่เสด็จมาเกาะอยู่บนองค์พระเครื่องพระเปิมแสดงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์ และแสดงปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์ ของจริงอายุกว่า 1,300 ปี
ส่วนพระเครื่ององค์พระเปิม กว้างประมาณ 2.5 ซม.สูงประมาณ 3 ซม. บรรจุอยู่ในกรอบทองชุบ จากกรุเวียงท่ากาน ซึ่งทางวัดจะนำมามอบให้สำหรับผู้ที่ร่วมอนุโมทนาร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี 2555 นี้
จากการเข้านมัสการหลวงปู่พระครูวรวรรณภรณ์ (ครูบาอิ่นดำ) เกจิล้านนาชื่อดังเจ้าอาวาสวัดไชยสถาน เจริญพรว่า การเกิดปาฏิหาริย์พระธาตุเสด็จมาที่พระเครื่ององค์พระเปิมในครั้งนี้ ทางลูกศิษย์ได้ไปเห็นก่อน เพราะใกล้วันทอดกฐินที่จะมีการจัดงานทอดกฐินสามัคคีขึ้นในวันที่ 11 พ.ย.55 เวลา 13.09 น. เพื่อไปดูความเรียบร้อย หลังศิษย์ไปพบเข้าจึงมาบอก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้เป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญ
โดยทางคณะกรรมการของวัดได้จัดมอบชุดพระเครื่องกรุเวียงท่ากาน จำนวน 500 กอง ประกอบด้วยพระ 3 องค์ มี พระลือโขง พระเปิม และพระรอด สำหรับเจ้าภาพ 1 กอง กองละ 29,999 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อรวบรวมปัจจัยในการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปวัตถุนานาชาติ
เพื่อเก็บรวบรวมศิลปวัตถุโบราณอันมีค่าไว้เป็นหมวดหมู่ พร้อมเปิดให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้เข้าชมเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้า และปลูกฝังให้เห็นคุณค่าของศิลปวัตถุโบราณและอนุรักษ์ไว้ต่อไป
โดยจะก่อสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น โครงสร้างและฐานรากเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กบุด้วยไม้สักทองทั้งหลัง สถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 15 ล้านบาท ซึ่งภายในงานจะมีนักบุญจาก 4 ประเทศ อาทิ ไทย สิงคโปร ไต้หวัน และฮ่องกง เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ ยังได้รับเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพฯ เป็นองค์ประธานอุปถัมภ์ รวมถึงพระราชปริยัติเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดท่าตอน พระราชวิริยาลังกา เจ้าคณะอำเภอสามพราน วัดไร่ขิง จ.นครปฐม พระราชสารเวที วัดสัมพันธวงศาราม กรุงเทพฯ พระอาทรวิริยกิจ วัดเทพลีลา กรุงเทพฯ พระพิพัฒน์วราภรณ์ วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) กรุงเทพฯ และพระโสภณธีรคุณ วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ เป็นองค์อุปถัมภ์
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานกรรมการฝ่ายฆราวาสอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าส่วนหลวงปู่พระครูวรวรรณาภรณ์ (ครูบาอิ่นคำ) อายุ 85 ปี เป็นเกจิล้านนาชื่อดังที่มีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก ทั้งไทยและต่างประเทศ
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
ขณะที่ขอถ่ายรูปภาพนั้นกดชัดเตอร์ไม่ลงมีแต่แสงแฟลช
กดชัดเตอร์ถึง 10 ครั้งก็ไม่ลง จนหลวงปู่ครูบาอินคำว่าต้องขออนุญาตก่อนจึงกดชัดเตอร์ลง
ทำให้ผู้สื่อข่าวขนลุกยกมือไหว้สาธุ 3 ครั้งก่อนจะถ่ายภาพได้ในที่สุด.ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/301267