ธรรมขันธ์ มีเท่าไหร่.?...ถึง ๘๔,๐๐๐ รึเปล่า.?
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร watdevaraj@hotmail.com โทร. 0-2281-2430
คําว่า ธรรมขันธ์ แปลว่า กองธรรม หรือ หมวดธรรม ท่านจำแนกไว้ 5 ประการคือ
1. สีลขันธ์ หมวดศีล ได้แก่ การที่บุคคลทำกายวาจาให้เรียบ ร้อย ปราศจากวีติกมโทษ คือ โทษที่จะก้าวล่วงได้ทางกาย และทางวาจา เพื่อกำจัดเสียซึ่งความโหดร้ายหยาบคายทางกายและทางวาจา ปิดทางที่ตนเองจะทำชั่วอย่างหยาบเสียได้ ทำให้เป็นคนสะอาดกาย สะอาดวาจา ไม่มีมลทินโทษ ตัดเวรภัยเสียได้ และทำให้เป็นคนมีระเบียบวินัย พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าในการดำเนินชีวิตต่อไป
2. สมาธิขันธ์ หมวดสมาธิ ได้แก่ บุคคลผู้รักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย ย่อมไม่หวาดหวั่นครั่นคร้าม สะทกสะท้านต่อภัยอันตรายต่างๆ มีจิตดิ่งแน่วแน่เป็นหนึ่งเพื่อกำจัดปริยุฏฐานกิเลส คือ กิเลสภายนอกที่กลุ้มรุมจิตอยู่ มีความตั้งใจมั่นไม่ปล่อยใจให้ตกอยู่ในอำนาจของนิวรณ์ทั้ง 5 คือ
- กามฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจ มี รูป เป็นต้น
- พยาบาท ความคิดปองร้ายผู้อื่น
- ถีนมิทธะ ความที่จิตหดหู่และเคลิบเคลิ้ม
- อุทธัจจกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ
- วิจิกิจฉา ความลังเลไม่ตกลงใจได้
ซึ่งทั้ง 5 นี้ ล้วนเป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจให้หย่อนสมรรถภาพ ไม่สามารถรวมกำลังใจให้เด็ดเดี่ยวได้ เพราะเหตุนั้น ต้องละอารมณ์เช่นนั้นให้ได้ ด้วยอำนาจสมาธิ คือความตั้งใจมั่น
3. ปัญญาขันธ์ หมวดปัญญา ได้แก่ เมื่อบุคคลกำจัดกิเลสภายนอกที่กลุ้มรุมจิตได้แล้วพิจารณาไปก็จะเกิดปัญญากำจัดอนุสัย คือกิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในขันธสันดานให้หมดสิ้นไป และปัญญานั้นนั่นแหละ ช่วยให้มองเห็นทางถูกทางผิดได้ด้วย
4. วิมุตติขันธ์ หมวดวิมุตติ ได้แก่ ความทำจิตให้หลุดพ้นจากกิเลสาสวะ คือ อุดหนุนจิตให้พ้นจากกิเลสทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง หลุดพ้นได้โดยประการทั้งปวง
5. วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ หมวดวิมุตติญาณทัสสนะ ได้แก่ เมื่อบุคคลรู้เห็นว่า จิตหลุดพ้นแล้ว สืบเนื่องมาจากวิมุตติ ชื่อว่า ญาณทัสสนะขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNekk0TVRBMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNQzB5T0E9PQ==http://www.bds53.com/
ธรรมะกำมือเดียว
ภาพนี้พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดภิกษุที่ป่าประดู่ลาย โดยทรงหยิบใบไม้ขึ้นมากำมือหนึ่ง
แล้วถามภิกษุว่า ใบไม้ในกำมือของพระองค์ กับใบไม้ทั้งหมดในป่าประดู่นี้ ใบไม้ที่ไหนมีมากกว่ากัน
ภิกษุก็ได้ตอบว่า ใบไม้ในป่านี้ทั้งหมด มีมากกว่า ในกำมือของพระองค์
พระองค์จึงทรงตรัสต่อไปว่า
เรื่องที่เรารู้น่ะเท่ากับใบไม้ทั้งป่า แต่ที่นำมาสอนเธอเท่ากับใบไม้ในกำมือ
คือ สอนแต่เรื่องทุกข์กับเรื่องดับทุกข์เท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้น ปรากฏว่ามีคนสอนกันมากมาย
ฉะนั้น พระองค์จึงมุ่งไปสอนแต่เรื่องทุกข์กับเรื่องดับทุกข์ ส่วนสูตรอื่นวิชาอื่นมีคนสอนแล้วขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/index/2/indexpic110.htm