« เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 09:57:33 am »
0
จัดละครเวทีพุทธประวัติมิวสิคัลข้ามปี
สสส.-กทม.จัดสวดมนต์ข้ามปี ฉลองปีมหามงคล 4 เหตุการณ์ พร้อมจัดละครเวทีพุทธประวัติแบบมิวสิคัล เรื่อง 'พุทธะ ราชะ เดอะมิวสิคัล' บทเวทีกลางแจ้งที่ท้องสนามหลวง20ธ.ค. นายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกับศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนายมานพ มีจำรัส ผู้กำกับการแสดงละครเวที "พุทธะ ราชะ เดอะมิวสิคัล" แถลงข่าวการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2555-2556 ครั้งที่ 3 พร้อมร่วมปล่อยคาราวานนำบุญ บริเวณลานคนเมือง
เพื่อออกรณรงค์แจกสื่อประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ในการจัดสวดมนต์ข้ามปีซึ่งเป็นปีมหามงคลมี 4 เหตุการณ์สำคัญ
1.ปีพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้
2.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 85 พรรษา
3.สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา
4.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฏราชกุมาร ทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยจะร่วมเฉลิมฉลองและสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล
นายมานพ กล่าวว่า ปีนี้เป็นครั้งแรกที่นำละครเวทีพุทธประวัติในรูปแบบมิวสิคัล เรื่อง “พุทธะ ราชะ เดอะมิวสิคคัล” แสดงบนเวทีกลางแจ้งที่ท้องสนามหลวง โดยมีผู้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานอาทิ ดารา นักร้องชื่อดังร่วมแสดงกว่า 100 ชีวิต
ทั้งนี้การจัดละครเวทีครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของพุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเริ่มในวันจันทร์ที่ 31 ธ.ค. นี้ เวลา 16.00 น.ที่ท้องสนามหลวง มีเนื้อหาจากพุทธประวัติในรูปแบบผสมผสานเสียงเพลงหรือมิวสิคัล ผ่านเทคนิคการแสดงหลายรูปแบบ
ประกอบด้วย 4 องก์ ได้แก่
องก์ที่ 1 พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร เป็นการนำเสนอบทนำจนถึง พระนางสิริมหามายาทรงหระประสูติกาล ณ ลุมพินี ท่ามกลางการสรรเสริญยินดีของเหล่าเทวดา
องก์ที่ 2 ธรรมดาของโลก นำเสนอพุทธประวัติช่วงทรงศึกษาศิลปะวิทยาการต่างๆ อาทิ อภิเษกสมรส เสด็จประพาสพระนคร จนกระทั่งออกผนวช
องก์ที่ 3 บำเพ็ญทุกรกิริยา ดำเนินเรื่องการขับเสภา จนกระทั่งตัดสินพระทัยกลับมาเสวยพระกระยาหาร จนถึงประทับนั่งสมาธิที่ใต้ต้นโพธิ์และนางสุชาดามาถวายข้าวมธุปายาส ในรูปแบบลูกทุ่งออร์เคสตร้า และ
องก์ที่ 4 ผจญมาร นำเสนอช่วงพระพุทธองค์ทรงผจญมาร ถึงตรัสรู้และการเฉลิมฉลองแห่งปีพุทธชยันตี
ศ.นพ.อุดมศิลป์ กล่าวว่า สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 30 องค์กร จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีครั้งที่ 3 ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งประชาชนแต่งกายสวมชุดขาวเพื่อร่วมสวดมนต์และรับฟังธรรมเทศนาจาก
พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา
พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กรรมการมหาเถรมหาคม
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
พระมหาสมปอง ตาลปุตโต
และแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน
และร่วมสักการะพระบรมเกศาธาตุจากประเทศศรีลังกา พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จากประเทศอินเดีย และพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง วัดป่าเขาล้อม อีกทั้งเป็นปีแรกที่จัดกิจกรรมในเรือนจำ 192 แห่ง สถานพินิจฯและศูนย์ฝึกฯ 52 แห่งเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมสวดมนต์ข้ามปีถวายเป็นพระราชกุศลพร้อมกัน
"ส่วนในภูมิภาคมีการจัดกิจกรรม 4 ภาคได้แก่ วัดเจดีย์หลวงวรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่,วัดพระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทราและวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช พร้อมวัด 2,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการจัดประกวดภาพถ่ายชิงโล่จากประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สสส." ศ.นพ.อุดมศิลป์ กล่าว
ด้านนายมานิต กล่าวว่า ทางกทม.ได้ระดมเจ้าหน้าที่และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ รถพยาบาลฉุกเฉิน รถสุขาเคลื่อนที่ คอยให้บริการประชาชนซึ่งคาดว่าจะมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมร่วมกับองค์กรต่างๆจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2555-1 ม.ค. 2556
โดยจะมีการจัดประกวดร้องเพลงลูกกรุงและลูกทุ่งไทย ระหว่างวันที่ 28-29 ธ.ค. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
กิจกกรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชุน วันที่ 30-31 ธ.ค.
พิธีอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.- 1 ม.ค.ที่ลานคนเมือง
และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 185 รูป กิจกกรมไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันที่ 1 ม.ค.2556ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20121220/147647/จัดละครเวทีพุทธประวัติมิวสิคัลข้ามปี.html#.UNZwb6zjrRc