ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'มจร' เดินสายสานสัมพันธ์ 'เถรวาท-มหายาน'  (อ่าน 1911 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29312
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



'มจร' เดินสายสานสัมพันธ์ 'เถรวาท-มหายาน'

'มจร'เดินสายสานสัมพันธ์เถรวาท-มหายาน ร่วมสัมมนาพุทธศาสนิกชนชาวจีนกว่า 3 พันคน จับมือพระพม่าอบรมเยาวชนกว่า 2 พันคน : สำราญ สมพงษ์ รายงาน

     แม้นช่วงเดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้ายแห่งปี ก่อนจะเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่งานเผยแพร่พระพุทศาสนาและการสานสัมพันธ์กับองค์กรพุทธด้วยกันทั้งภายในและต่างประเทศของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)  ก็ไม่เคยหยุดยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อความสงบสุขสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลก

     โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านต่างประเทศของ มจร ภายใต้การกำกับดูแลของพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ  รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ได้มีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศเป็นระยะอย่างเช่นล่าสุดระหว่างวันที่ 16- 19 ธันวาคม พร้อมคณะได้เดินทางไปร่วมสัมมนาเนื่องในเทศกาล “พระไภษัชยคุรุไวฑูรยะประภาราชพุทธเจ้า จอมราชันย์แห่งศาสตร์การแพทย์”  ณ วัด Ling Quan Temple Wuhan Chinese  โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวจีนเข้าร่วมงาน กว่า 3,000 คน  นับเป็นความร่วมมือของนักวิชาการพุทธเถรวาทและมหายาน



    การจัดงานครั้งนี้ พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ พร้อมคณะได้เข้าร่วมกิจกรรมและหารือความร่วมมือเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนากับผู้นำหน่วยงาน องค์กร มากกว่า 10 ประเทศ

    การจัดงานครั้งนี้ เป็นการยกย่องพระพุทธเจ้าในฐานะเป็นยารักษากายและใจของมนุษย์ตั้งแต่การเกิดจนถึงตายและชีวิตหลังความตาย การประชุมได้มีข้อสรุปเป็นอันเดียวกันว่า “พระพุทธเจ้าเป็นยารักษากายและใจของมนุษย์โดยความเอื้ออาทรช่วยเหลือมนุษย์ด้วยจิตที่เมตตาถึงแม้ว่าบางคนยังไม่เข้าใจถึงความปรารถนาดีของพระพุทธเจ้าแต่พระองค์ก็ไม่เคยท้อแท้ที่จะช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ เมื่อมนุษย์ได้รับการช่วยเหลือจากพระพุทธเจ้าผู้ที่พ้นจากความทุกข์นั้นก็จะดำรงตนเพื่อความเป็นพระโพธิ์สัตย์ โดยการช่วยเหลือบุคคลอื่นต่อไป

      พระไภษัชยคุรุไวฑูรยะประภาราชพุทธเจ้า  จอมราชันย์แห่งศาสตร์การแพทย์ จะมีพระวรกายสีน้ำเงินประดุจดังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่มหาศาล พระหัตถ์ขวาอยู่ในท่าภาวนา พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรยา หรือ หม้อยา  ลักษณะของพระพุทธรูปแบบนี้ถ้าในความเชื่อในประเทศไทยก็คือ “พระกริ่ง” ที่มีการสร้างขึ้นในประเทศไทยนั้นเอง

      ชาวจีนถือว่าพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ เป็นจอมราชั้นแห่งศาสตร์การแพทย์ คือ ศาสตร์ที่พระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งศาสตร์ทั้งปวง การแพทย์ทางพระพุทธศาสนานั้นจะเน้นการรักษาแบบองค์รวม เน้นความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ ของการรักษา ได้แก่ กาย วาจา ใจ โดยใช้ใช้สมุนไพรใบยา การภาวนา การสวดมนต์ การใช้ สมาธิจิต



      ด้วยเหตุที่ความอ่อนแอในทางสุขอนามัยของสรรพสัตว์เป็นตัวขัดขวางการบำเพ็ญเพียรเพื่อสู่การหลุดพ้น เป็นเหตุให้พระไภษัชยพุทธเจ้าต้องเสด็จมาเพื่อโปรดสรรพสัตว์  ซึ่งชาวพุทธมหายาน เชื่อว่า พระองค์ทรงเข้าร่วมในกิจกรรมทางการแพทย์ทุกขั้นตอน พิธีกรรมในการปรุงยาพระองค์ทรงเป็นประธานและผู้ลงมือกระทำการเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งยา ในการรักษา

       ส่วนการภาวนานั้น พระองค์ทรงประทานคาถาในการภาวนาเพื่อความเชื่อมั่น แน่วแน่เพื่อให้เกิดการมีสุขภาพที่ดี การทำสมาธิเพื่อน้อมอัญเชิญพระองค์เข้าสู่ตัวเรา หลอมรวมพระองค์กับเราให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความเจ็บป่วยทั้งปวงจะถูกหลอมละลายเป็นอากาศธาตุ พระองค์และเราเข้าสู่ศูนยตาสภาวะ เราออกจากสมาธิในสภาวะว่างเปล่านั่นคือ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หายไปด้วย
       
      ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันในวงการแพทย์อย่างกว้างขวางว่า สมาธิจิตเป็นยาวิเศษชนิดหนึ่งในการบำบัดความเจ็บป่วย การรักษาในแนวทางแห่งพุทธนี้ไม่เพียงได้ความสุขทางกายเพียงประการเดียว สมาธิจิตที่ได้เป็นยานพาหนะนำพาเราเข้าสู่การหลุดพ้น สู่ความเป็นพุทธะในที่สุด บังเกิดความสุขอันนิรันดร นี้เป็นความเชื่อที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นของชาวพุทธในประเทศจีน



      หลังจากเดินทางกลับจากประเทศจีน พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณพร้อมคณะก็ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ ประเทศพม่าทันที  ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม โดยภารกิจวันแรก ได้เดินทางไปเยี่ยมศูนย์ฝึกอบรมเยาวชน ของ ITBMU ซึ่งมีเยาวชนมาปฏิบัติธรรมประมาณ 2,000 คน และมีอาสาสมัครมาช่วยงานดูแล และช่วยปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ระหว่างการอบรมอีกประมาณ 150 คน

       ซึ่งจัดฝึกอบรมเยาวชนเป็นประจำตลอดปี จำนวน 6 ครั้ง  แบ่งเป็นการจัดอบรมใหญ่ 2 ครั้ง และครั้งย่อย อีก 4 ครั้ง   และการอบรมครั้งเป็นการอบรมใหญ่ครั้งที่ 2 ประจำปี 2555

      ในการนี้ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศได้กล่าวปาฐกถากับเยาวชน ในการให้กำลังใจ และกระตุ้นเยาวชนให้เห็นถึงความสำคัญของการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี เป็นประชาชนที่ดีและมีคุณภาพของประเทศ ผ่านกิจกรรมการฝึกอบรมคุณธรรมเช่นว่านี้

       วันต่อมาได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจกรรมของวัดฮองเมยโยน ปาฉาน เป็นวัดของชาวไทยใหญ่  มีการจัดกิจกรรมปาฐกถาธรรม โดย prof. Dr. Khammai Dhammasami จากนั้นได้มีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมสอนพระพุทธศาสนาในวันหยุด ของประเทศพม่า รวมถึงแนวทางการการวิจัยร่วมกันด้วย


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20121229/148318/มจรเดินสายสานสัมพันธ์เถรวาทมหายาน.html#.UOEqN6zjrRc
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: 'มจร' เดินสายสานสัมพันธ์ 'เถรวาท-มหายาน'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 02:21:39 am »
0
ยุคนี้เป็นยุคเจริญ ของพระพุทธศาสนา สัมพันธ์ อาศัยช่วง พุทธชยันตี
แต่ รอบบ้านผ่านเมือง ก็มีการทำร้ายชาวพุทธ เพิ่มขึ้นนะครับ

  :25: :c017:
บันทึกการเข้า