« เมื่อ: มกราคม 11, 2013, 10:34:20 am »
0
แง่คิด 'ฉลาดทำบุญ' พระไพศาล วิสาโล
โครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ จัดโดย บมจ.ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 เพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสอนพระพุทธศาสนาให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและพนักงานที่สนใจเข้าร่วมฟังโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยเน้นการนั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังธรรมะ
สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ โครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ได้นิมนต์ "พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล" พระนักเผยแผ่หลักธรรมคำสอนที่พุทธศาสนิกชนรู้จักดีรูปหนึ่งของเมืองไทย ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ มาให้แง่คิดของการทำบุญอย่างถ่องแท้
หัวข้อที่พระอาจารย์ไพศาลได้ยกมาในครั้งนี้คือ "ฉลาดทำบุญ" ซึ่งได้กล่าวในตอนต้นว่า
"การทำบุญเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เวลาพูดถึงการทำบุญ คนไทยจะมองเพียงอย่างเดียวคือการให้ทาน แล้วยังมีความรู้เกี่ยวกับการทำบุญอย่างจำกัด จึงทำให้การทำบุญนั้นเกิดประโยชน์น้อย"
ตามหลักพระพุทธศาสนานั้นจะให้ความสำคัญกับการทำบุญเป็นอย่างมาก และยังมีพุทธภาษิตที่กล่าวไว้ว่า
"บุญย่อมนำให้เกิดสุขในการสิ้นชีวิต"
นั่นก็หมายความว่า ในขณะสิ้นชีวิตทุกคนคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก
แต่ในความเป็นจริงนั้น ถ้าหากเรารู้จักการทำบุญ เราก็จะมีความสุขได้แม้กระทั่งในเวลาสิ้นชีวิต
แต่ในปัจจุบันคนเราอยากจะสร้างความสุขให้กับตนเองด้วยการมีเงินทองมากมาย ชื่อเสียงและเกียรติยศ
แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นเพียงแค่ความสุขชั่วคราว และเป็นความคิดแบบผิดๆ
แม้ว่าเราจะมีเงินทองมากมายสักแค่ไหน มีชื่อเสียงและเกียรติยศสักเท่าไร ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ตายอย่างสงบ
แต่การทำบุญนั้นมันจะช่วยสร้างความสุขให้กับตัวเราอย่างแท้จริงในขณะที่เรากำลังทำบุญ
แต่หลังทำบุญและต่อเนื่องไปจนถึงเวลาที่เรากำลังจะตาย นึกถึงบุญเมื่อไหร่เราก็จะมีความสุขและเราก็จะไปสู่สุคติ
"อาตมาจะขอยกเรื่องราวของคุณยายท่านหนึ่งที่ได้เสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคมะเร็งลำไส้
ในขณะที่รักษาตัวอยู่นั้น มีพยาบาลถามคุณยายว่า คุณยายชีวิตนี้เคยทำอะไรแล้วมีความสุขมากที่สุด
คุณยายตอบว่า หล่อพระ หลังจากนั้นพยาบาลก็ได้ถามถึงเรื่องราวในวันหล่อพระ
คุณยายก็เล่าเรื่องในวันที่ไปหล่อพระให้พยาบาลฟัง คุยกันไปประมาณ 20 นาที
คุณยายก็บอกกับหมอว่า แปลกเหลือเกิน อยู่ๆ ความปวดก็หายไปเลย
เมื่อนึกถึงความดีที่ได้ทำ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า "บุญย่อมทำให้เกิดสุขในเวลาสิ้นชีวิต"
ภูมิปัญญาของคนไทยในสมัยก่อน เวลาทำบุญมักจะนึกถึงการนิพพานเป็นอันดับแรก หรือการที่จะไปเกิดบนสวรรค์ เพราะว่าคนไทยในสมัยก่อนนั้นอยากที่จะตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า
แต่การทำบุญในปัจจุบันมักจะขอให้มีเงินทอง ขอให้มีบ้าน ขอให้มีรถ
นึกถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองในขั้นต้น ไม่ได้คิดที่จะนึกถึงเผื่อแผ่ให้กับผู้อื่น
มัวแต่คิดว่าถ้าเผื่อให้กับผู้อื่นนั้น จะทำให้บุญของเราลดน้อยลง
เป็นความคิดที่ผิดมากและแสดงให้เห็นว่ายังไม่เข้าใจในเรื่องของการทำบุญ
ซึ่งการทำบุญเผื่อแผ่ให้กับผู้อื่นนั่นแหละที่จะทำให้เรานั้นได้บุญมากขึ้น

การทำบุญนั้นจะต้องทำบุญด้วยใจที่ปล่อยวางให้ได้มากและมุ่งประโยชน์ให้กับผู้รับ
อย่ามุ่งประโยชน์หาตัวเอง เวลาให้ทานกับผู้อื่นไปแล้วก็คือเป็นของเขาไม่ใช่ของเราอีกต่อไป
อย่ายึดติดกับของที่เราให้ไป จะช่วยทำให้เราปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
ถ้าหากเราฝึกปล่อยวางได้แล้ว เราจะสามารถปล่อยวางในเรื่องอื่นๆ ได้ เช่น ความโกรธ ความเกลียด ความทุกข์
และควรอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย เราจะได้บุญมาก การทำบุญในพระพุทธศาสนา สามารถทำได้เยอะมาก ทำไปเพื่อ 2 ประการ คือ
ทำให้ความยึดติดถือมั่นลดน้อยลง การปล่อยวางมีมากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันทำให้เรามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นมากขึ้นและไม่เบียดเบียนผู้อื่น
การปฏิบัติธรรมจะเจริญก้าวหน้าหรือไม่นั้น การทำบุญที่ถูกต้อง ต้องหมั่นตรวจสอบตัวเองว่า
เราทำบุญแล้วใจเราเย็น สงบหรือไม่ เราทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ใจเราสงบหรือไม่
หรือว่า เราเป็นทุกข์เพราะว่า หาเงินทำบุญน้อยกว่าคนอื่น
แสดงให้เห็นว่า เราทำบุญไม่ถูกต้อง เอาค่าของเงินไปเทียบกับบุญที่เราจะได้ จริงๆแล้วบุญนั้นอยู่ที่ใจ
ถ้าเราวางใจทำบุญถวายทานโดยไม่ยึดมั่นถือมั่น นึกถึงแต่ประโยชน์ของผู้รับ
เราจะได้บุญมาก หรือแม้กระทั่งเราไม่มีเงินไปทำบุญ แค่เราอนุโมทนาก็ได้บุญแล้ว ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNakExTURFMU5nPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE15MHdNUzB3TlE9PQ==http://www.thairath.co.th/,http://kong.in.th/