ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตรังค้นพบ "สุสานหอย..อายุหลายสิบล้านปี"  (อ่าน 1444 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29314
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ตรังค้นพบ "สุสานหอย..อายุหลายสิบล้านปี"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2013, 06:57:14 pm »
0


ตรังค้นพบ "สุสานหอย..อายุหลายสิบล้านปี"

อบต.ในเตา อำเภอห้วยยอด เตรียมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว หลังค้นพบสุสานหอยอายุหลายสิบล้านปีพร้อมโครงกระดูกมนุษย์โบราณ

วันนี้  1 ก.พ.  นายประเสริฐ  ศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในเตา  อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธชาติ  มุณีโน กรรมการผู้จัดการศูนย์เกษตรเชิงอนุรักษ์ ตำบลในเตา ได้ร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบซากฟอสซิลหอยที่เกาะติดตามฝาผนังเขาวังกรั้ง และโครงกระดูกมนุษย์โบราณ เศษหม้อดิน เครื่องปั้นดินเผา ซึ่งมีอยู่ทั่วบริเวณ
     และชาวบ้านเชื่อว่ายังมีอยู่อีกจำนวนมาก แต่ไม่กล้าแตะต้อง เนื่องจากกลัวความอาถรรพ์ป่า
     โดยถ้ำเขาวังกรั้ง  อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ เขาย่า ตั้งอยู่ที่บริเวณหมู่ที่ 4 บ้านไร่เหนือ ตำบลในเตา เชื่อมต่อ ตำบลเขาไพร อำเภอรัษฎา จ.ตรัง


สำหรับการเดินทางไปยังเขาวังกรั้งต้องใช้การเดินเท้าบุกป่า ผ่านลำน้ำ และสวนยางพาราดั้งเดิมของชาวบ้านเป็นระยะทางประมาณ 2 กม.  เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า 
     ลักษณะของสุสานหอยตั้งอยู่บนเนินดิน ติดกับหน้าผาภูเขา โดยมีเปลือกหอยหลายชนิด 
     แต่ที่เห็นชัดมากที่สุดเป็นหอยโล่ ซึ่งเป็นหอยน้ำจืดที่ตายรวมกันเป็นฟอสซิล บ้างก็เป็นก้อน
     บางก้อนติดกับหน้าผา บางก้อนใหญ่มากประมาณ 3 เมตร
     คาดว่าอายุหลายสิบล้านปี และบริเวณโดยรอบยังเป็นป่าทึบที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ
     เนื่องจากยังพบเห็นลูกนกเขาไฟซึ่งเป็นสัตว์ปีกหายาก มักอยู่ในป่าดงดิบ
     และยังมีถ้ำเล็กๆที่ติดอยู่กับสุสานหอยซึ่งมีฝูงค้างคาวจำนวมากภายในถ้ำ และหินงอก หินย้อยสวยงามตลอดทาง




นายประเสริฐ  ศรีแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนในเตา กล่าวว่าการค้นพบในครั้งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว จึงอยากให้นักโบราณคดีเข้าตรวจสอบพื้นที่ เพราะเชื่อว่าเป้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชุมชนโบราณ โดยเฉพาะชาวบ้านอยากทราบอายุของฟอสซิลที่ค้นพบ และค้นหาร่องรอยทางประวัติศาสตร์อื่นๆเพิ่มเติม และหวังว่าหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวจะเข้ามาสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กว้างขวางมากขึ้น และจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนต่อไป.



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/182051




อัปโหลดเมื่อ 1 ก.พ. 2013 โดย chanadith9
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ