พิมพ์

[raponsan]

อวสานพีซี..?? : คอลัมน์อินโนเทค : โดย...คนชอบเล่า

      พูดถึงความแรงของยอดขายแท็บเล็ต ทุกวันนี้แม้กระทั่งค่ายใหญ่ๆ ก็ต้องเร่งพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่ๆ มากกว่า 1 รุ่นต่อปี แม้จะเปลี่ยนแค่นิดหน่อยอย่างที่เรียกกันว่า “ไมเนอร์ เชนจ์” ก็ขอให้ได้ออกข่าวว่า ฉันส่งเครื่องรุ่นใหม่ลงตลาดแล้วนะ เพื่อป้องกันแฟนคลับ ไม่ให้ปันใจไปซื้อรุ่นใหม่ (ของค่ายคู่แข่ง) มาลองใช้ เพราะเริ่มรู้สึกเบื่อๆ กับหน้าตา สีสัน รูปลักษณ์ของเครื่องเดิม

      กระแสข้างต้น ทำให้มีการหยิบยกหัวข้อ “ฤาจะสิ้นยุคคอมพิวเตอร์พีซี” มาถกเถียงกันอย่างแพร่หลายอีกครั้ง จนทำให้คนรุ่นตั้งแต่ Gen X อย่างผู้เขียนขึ้นไป ที่ชินกับหน้าจอกว้างๆ คีย์บอร์ดแบบจิ้มได้เต็มนิ้ว ของคอมพิวเตอร์ เริ่มเกิดอาการ “นอยด์” เพราะเกรงว่า
      หากฮาร์ดแวร์ที่เรียกว่า เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี (ที่ปัจจุบัน ปรับโฉมให้มีหลากหลายขนาดและน้ำหนักให้เลือกสรร ในรูปลักษณ์ของ โน้ตบุ๊ก, อัลตร้าบุ๊ก, เน็ตบุ๊ก เป็นต้น) สูญสิ้นไปจากตลาดจริงๆ ชีวิตคงรันทด เพราะหากเครื่องที่ใช้งานอยู่มีอันเจ็บไข้ได้ป่วย แล้วจะหาอะไหล่มาเปลี่ยนไม่ได้

      อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีโอกาสอ่านบทความในเว็บไซต์ ไอดีจี คอนเน็กต์ ขุมกำลังข่าวสารด้านไอทีระดับโลก ที่รวมพลทั้งนักเขียน และผู้อ่านที่เป็น ฮาร์ดคอร์ ในวงการไอที ก็ทำให้พอใจชื้นขึ้นมาบ้าง...ลองตามไปอ่านเนื้อหากัน

    คอลัมนิสต์ของเว็บไซต์นี้ ออกตัวอย่างแรง ตั้งแต่ประโยคที่สองในบทความว่า
    “พีซี จะไม่มีวันตาย ไม่ว่าจะเป็นในปี 2556 นี้ หรือไปต่อๆ ไป”
    พร้อมเรียกร้องให้ผู้ที่นิยมใช้คำว่า “ยุคหลังพีซี (Post PC era)”
    ในการวิเคราะห์วิวัฒนาการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนคำพูดใหม่เป็น “พีซียุคบวก (PC-plus era)”
    โดยให้เหตุผลทื่ทำให้ พีซี มีความเป็นอมตะสำหรับผู้ใช้งานก็คือ ประสิทธิผลในการใช้งาน

      พร้อมกันนี้ ได้ยกเหตุผลที่เชื่อว่าคงไม่มีใครยกมือค้านว่า
      ไม่มีใครสามารถวางนิ้วครั้งเดียวครบทั้ง 10 นิ้ว บนแป้นพิมพ์ตัวอักษรบนหน้าจอแบบสัมผัส
      ของอุปกรณ์ยุคใหม่ ที่ปฏิวัติตัวเองเป็น “ระบบสัมผัส” แบบเต็มร้อย
      แล้วยังพิมพ์ข้อความหรือใช้คำสั่งฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
      เทียบเท่ากับการพิมพ์จากคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ที่มีคำสั่งให้เลือกจากปุ่มได้มากถึง 101 คำสั่ง

       อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนบทความนี้ ก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อดีของอุปกรณ์พกพายอดฮิตใหม่ๆ อย่างสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต โดยมองว่า สินค้าไอที 2 กลุ่มนี้ มีแนวโน้มราคาลดลง แต่คุณสมบัติใช้งานดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบความต้องการ และไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ได้มากที่สุด เห็นจากมือถือที่ออกแบบให้หน้าจอใหญ่ขึ้นๆ มีความสามารถเพิ่มขึ้น อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เหล่านี้ สามารถใช้ร่วมกับเครื่องพีซีได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาชีพด้านไอที หรือกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นองค์กรธุรกิจ

      ...ต้องขอสารภาพว่า เหตุผลที่เลือกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะอยากแบ่งปันความสบายใจ ให้แก่ผู้อ่านที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกับผู้เขียนขึ้นไป (คาดว่าคงพอเดากันออก จากคำว่า Gen X) ว่า เรายังจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ ให้ใช้กันต่อไป...สวัสดี

ขอบภาพและบทความจาก
www.komchadluek.net/detail/20130203/150809/อวสานพีซี.html#.UQ-xQ_LcAit

[KIDSADA]

ภายใน 10 ปี นี้ ยังไม่จบ สำหรับ PC แต่อีก 10 ปีข้างหน้า อุปกรณ์ ที่เรียกว่า tablet จะเป็นที่นิยมอย่างสูง เพราะว่า มีราคาถูก ลง อย่างมาก ๆ และ เป็นกลไก ของการใช้โปรแกรม ลิขสิทธิ์

   แต่สำหรับ พีซีนั้นที่ยังไม่จบก็เพราะว่า
   จะเหลือ คนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ต้องใช้ คือ นักพัฒนา โปรแกรม เขียน โปรเจ็ค พวก tablet ยังไม่สามารถ จะทำได้ถึงแม้ จะมี App แจกฟรี แต่ก็ไม่สามารถ พัฒนา โปรแกรม ได้

   และยังคงเหลือ อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ อย่างมาก นั่นก็คือ เหล่านักเล่นเกมส์ ซึ่งปัจจุบัน โปรแกรม เกมส์  นั้นพัฒนาให้ใช้เครื่อง ที่มีประสิทธิภาพสูง อย่าง PC เท่านั้น

   คงไม่ต้องถามว่า ทำไมนักเล่นเกมส์ ยอมซื้อเครื่อง PC แพง ๆ เล่นกัน ไม่ว่า จะเป็นเครื่อง console ที่มีราคา หลัก 15000 บาท ขึ้น ซึ่งแน่นอน เครือง PC ที่มีราคา 15000 ขึ้นนั้น เรียกว่า เหยียบ CPU อย่าง I7 ได้สบาย หรือ Athlon Core 6 ก็ยังได้

     ยังไม่จบง่าย ๆ สำหรับ PC แต่ ตลาดจะเล็กลง

     ที่จะจบก็คือ เครื่อง NOtebook Netbook นี่แหละครับ ที่จะจบเพราะ คนหันไปใช้  Tablet กันเป็นจำนวนมาก