ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เตือนจุดประทัดไหว้เจ้าไม่ระวัง เสี่ยงตาบอด-นิ้วด้วน  (อ่าน 1387 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29314
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เตือนจุดประทัดไหว้เจ้าไม่ระวัง เสี่ยงตาบอด-นิ้วด้วน

สพฉ.เตือนระวังจุดประทัดไหว้เจ้าบนความประมาท เสี่ยงตาบอด-นิ้วด้วน แนะหากเกิดแผลไฟไหม้ ห้ามใช้น้ำมัน โลชั่น ยาสีฟันหรือยาปฏิชีวนะทาบนแผลเด็ดขาด หากพบบาดแผลไฟไหม้วิกฤติ ควรรีบโทรขอความช่วยเหลือจากสายด่วน 1669...


วันที่ 7 ก.พ. นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รักษาการเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลหนึ่งที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินมาก โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่จากเพลิงไหม้และการบาดเจ็บจากการจุดประทัดด้วย เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติคนไทยเชื้อสายจีนจะมีพิธีไหว้บรรพบุรุษ จุดประทัด เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท จึงขอแนะนำวิธีป้องกันเบื้องต้น คือหากจุดธูปเทียนควรดูแลและดับไฟธูปเทียนให้สนิท ไม่ควรจุดธูปเทียนในปริมาณมากๆ ในคราวเดียว

ส่วนการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ควรเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง และควรเตรียมถังน้ำไว้ใกล้มือเพื่อป้องกันไฟลุกลาม แต่ทั้งนี้ หากเกิดไฟลุกไหม้ ควรตั้งสติรีบโทรแจ้งดับเพลิง และหากมีควันในปริมาณมากให้หาผ้าชุบน้ำปิดจมูกไว้ หายใจผ่านผ้าชุบน้ำ เพราะผ้าชุบน้ำจะช่วยกรองควันพิษไว้ได้ นอกจากนี้ อีกภัยที่น่าเป็นห่วงและมีสถิติการบาดเจ็บและความสูญเสียสูง คือการบาดเจ็บจากการจุดประทัด

โดยการจุดประทัดนั้นจะต้องระมัดระวังอย่างมาก ไม่ควรจุดประทัดภายในบ้านเรือน ใกล้แนวสายไฟ เพราะประกายไฟอาจกระเด็นไปติดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และไม่จุดประทัดครั้งละจำนวนมาก เพราะแรงระเบิดจากประทัดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะการจุดประทัดที่มีสายชนวนสั้น จุดไม่ติดก็ไม่ควรจุดซ้ำ และที่สำคัญห้ามโยนประทัดใส่กลุ่มคนเด็ดขาด



“ประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุอันตรายที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย 3 ทาง คือ 1.ทางผิวหนัง คือเกิดแผลไหม้จากแรงระเบิด 2.ทางนิ้วมือ คืออาจทำให้นิ้วมือ หรืออวัยวะขาด เนื่องจากแรงระเบิด และ 3.ทางตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุด คืออาจทำให้ตาดำไหม้ ขุ่นมัว เลือดออกช่องหน้าม่านตา และอาจทำให้ตาบอดถาวรได้” นพ.ประจักษวิช กล่าว

นพ.ประจักษวิช กล่าวต่อถึงการช่วยเหลือเมื่อได้รับอัตรายจากเหตุประทัดว่า สำหรับการปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่นิ้ว หรืออวัยวะใดอวัยะหนึ่งขาดนั้น ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล พันแผลบริเวณเหนือแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัด เพราะจะทำให้รัดเส้นประสาทหลอดเลือดเสียได้

นอกจากนี้ ควรสังเกตอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ควรงดอาหารทางปาก และจิบน้ำได้เล็กน้อย เพราะอาจจะต้องรับการผ่าตัดด่วน ส่วนวิธีการเก็บรักษาอวัยวะส่วนที่ขาดคือ ให้นำสิ่งสกปรกออกจากส่วนที่ขาด ล้างน้ำสะอาด ใส่ถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปใส่ในน้ำแข็ง โดยอวัยวะที่มีกล้ามเนื้อมากๆ เช่น แขน ขา ต้องได้รับการผ่าตัดต่อเส้นเลือดให้เร็วที่สุด ภายใน 6 ชม.

ส่วนบริเวณที่ไม่มีกล้ามเนื้อ เช่น นิ้ว สามารถเก็บไว้ได้ 12–18 ชม. ส่วนการบาดเจ็บทางตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมากทันที และการปฐมพยาบาลสำหรับแผลไฟไหม้นั้น ให้ถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ถูกไฟเผาไหม้ออก โดยห้ามใช้น้ำมัน โลชั่น ยาสีฟัน หรือยาปฏิชีวนะทาบนแผลเด็ดขาด

แต่หากพบว่ามีบาดแผลไฟไหม้วิกฤติ คือมีแผลขนาดใหญ่ หรือไหม้ลวกทางเดินหายใจ และมีการอาการกลืนลำบาก เสียงแหบ หายใจลำบาก หรือมีอาการสูดควันจำนวนมาก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ให้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งจะมีทีมแพทย์ฉุกเฉินและทีมกู้ชีพคอยให้ความช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/325184
http://www.thaidphoto.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ