ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จัดหนักมื้อเย็น..ก่อนจะนอน เสี่ยงหลายโรค  (อ่าน 2191 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29314
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
จัดหนักมื้อเย็น..ก่อนจะนอน เสี่ยงหลายโรค
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2013, 07:33:49 pm »
0


จัดหนักมื้อเย็น..ก่อนจะนอน เสี่ยงหลายโรค

กินเยอะมื้อเย็น สวนทางหลักใช้พลังงานร่างกายอย่างสิ้นเชิง ทำบ่อยเสียสุขภาพระยะยาว

ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยเรา โดยเฉพาะสังคมเมือง มักจะทานน้อยในมื้อเช้า บ้างก็ไม่ทาน เพราะเร่งรีบไปทำงาน ส่วนมื้อกลางวันมักเป็นเมนูจานด่วน เนื่องจากมีเวลาทานแค่ 1 ชั่วโมง และจัดหนักกับมื้อเย็น เพราะไม่ต้องรีบ ได้ทานพร้อมหน้าคนในครอบครัว และคิดว่าเป็นวิธีผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนในสังคมเมืองจึงเป็นโรคอ้วนกันมาก เพราะพฤติกรรมการทานอาหาร สวนทางกับหลักการใช้พลังงานของร่างกายอย่างสิ้นเชิง!

ในความเป็นจริง เราควรทานหนักในมื้อเช้า เนื่องจากเป็นมื้อเริ่มต้นของวัน ร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงานหลังจากตื่นนอน สมองต้องการวิตามิน แร่ธาตุและน้ำไปช่วยในการทำงานของระบบประสาท ส่วนมื้อกลางวัน ทานแบบพอดีๆ แต่มื้อเย็นขอแบบเบาๆ เพราะเป็นมื้อสุดท้ายของวัน ร่างกายใช้พลังงานน้อยมากจนถึงเข้านอน

อย่างไรก็ตาม อาหารมื้อเย็นมักกลายเป็นปัญหาสำหรับหลายคน เพราะทานอย่างไม่เหมาะสม นอกจากทานในปริมาณที่มากเกินไปจนเป็นโรคอ้วนแล้ว บางคนทานอาหารชนิดที่ย่อยยาก ทำให้ปวดท้องหรือท้องอืด จนนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ส่งผลเสียในระยะยาวต่อสุขภาพ บางคนทานในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะต่อระบบการทำงานของอวัยวะในร่างกาย ส่งผลให้บางอวัยวะทำงานหนักเกินไป เช่น ทานในช่วงดึก ซึ่งร่างกายควรพักผ่อน ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักเกินความจำเป็น

เห็นไหมคะ หากทานมื้อเย็นไม่เหมาะสม เกิดผลเสียต่อร่างกายมิใช่น้อย ดังนั้น มาดูกันดีกว่าค่ะว่า เราจะทานมื้อเย็นกันอย่างไรให้เกิดประโยชน์และส่งผลที่ดีกับร่ายกาย ไม่ทำลายสุขภาพ





มื้อเย็นจำเป็นกับเราแค่ไหน?
อาหารมื้อเย็นถือว่ามีความจำเป็นนะคะ
เหตุผลแรก คือ เป็นมื้อที่เติมเต็มพลังงานและสารอาหารอื่นๆ ให้ครบตามที่ร่างกายต้องการตลอดทั้งวัน ถ้ารับประทานเพียง 2 มื้อ เราแน่ใจได้อย่างไรว่ากินอาหารครบตามพลังงานที่ร่างกายต้องการ

เหตุผลที่สอง เพื่อให้พลังงานและสารอาหารที่กินในมื้อเย็นช่วยรักษาดุลย์การเคลื่อนไหวของร่างกาย
ช่วงเวลาจากเที่ยงไปจนถึงเวลาเข้านอน ร่างกายเรายังมีการเคลื่อนไหว และมีการทำงานอยู่ ถ้าไม่กินในช่วงเวลาที่เหลือเลยพลังงานก็จะพร่องไปเรื่อยๆ เซลล์ข้างในก็จะปรับตัวให้ไม่ทำงาน กลไกการทำงานก็จะพร่องตาม เป็นผลให้ร่างกายขาดความสมดุลในการเคลื่อนไหว


และอีกเหตุผล คือ มื้อเย็นช่วยให้การกระจายสารอาหาร พลังงาน และวิตามินเกลือแร่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละวัน เพราะกระเพาะอาหารของเรามีเพดานการทำงานที่เหมาะสมตามปริมาณอาหารที่กินเข้าไป





หลักในการทานมื้อเย็นให้เหมาะสม
1.ปริมาณของสารอาหารมื้อเย็นควรน้อยที่สุด รองจากมื้อเช้า และมื้อกลางวัน โดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ควรจะได้รับพลังงาน 1,800 กิโลแคลอรีต่อวันต่อคน ซึ่งรวมทั้งอาหารหลักและอาหารว่างของแต่ละมื้อ
     ถ้าจะฝึกวินัยให้สมสัดส่วน มื้อเช้าควรได้รับประมาณ 40% (700 กิโลแคลอรี)
     มื้อเที่ยง 35%  (600 กิโลแคลอรี) และมื้อเย็น 25%  (500 หรือ 400 กิโลแคลอรี)
     สอดคล้องกับหลักการของนาฬิกาชีวิต ที่ระบุ 7.00 น.-9.00 น. เป็นเวลาที่กระเพาะอาหารแข็งแรงจึงทำงานได้ดี ดังนั้น ในช่วงเวลาเย็นไม่ใช่เวลาทองของกระเพาะอาหาร จึงไม่ควรกินอาหารในปริมาณมาก


2.ควรกินมื้อเย็นก่อนเข้านอน 4 ชั่วโมง เพราะหลังจากการทานอาหาร ร่างกายจะเกิดกระบวนการย่อยอาหารซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และหากทานโปรตีนจากสัตว์ ร่างกายก็จะใช้เวลาย่อยและดูดซึมถึง 4 ชั่วโมง
    ฉะนั้นการทานแล้วเข้านอนทันทีจะทำให้กระบวนการย่อยไม่สมบูรณ์
    เนื่องจากท่านอน รบกวนการนอนหลับ และอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน
    ที่กรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งเป็นอวัยวะที่ไม่ทนต่อกรด
    จนทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร เมื่อเป็นนานๆ ราว 5-10 ปี จะมีภาวะแทรกซ้อน
    เช่น หลอดอาหารอักเสบจนเป็นแผลฉีกขาด มีพังผืดจนตีบตันทำให้กลืนอาหารลำบาก
    มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหาร 0.1%


3.ควรเน้นผักกับผลไม้ ควรกินให้ได้ทุกวันเพื่อเสริมวิตามินและเกลือแร่ และยังต้องกินให้หลากหลาย เพราะในผักแต่ละชนิดมีสารอาหารไม่เหมือนกัน การกินคละเคล้ากันจะไปช่วยเสริมกันและกัน

4.ควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ถ้าเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ควรเป็นเนื้อปลา และเป็นอาหารที่มีความจุไขมันต่ำ จึงควรเลี่ยงอาหารประเภททอดหรือมีไขมันในปริมาณสูงนะคะ

     เมื่อพิจารณาตามหลักการดังกล่าวสรุปได้ว่า
     การกินมื้อเย็นเพื่อสุขภาพ ต้องกินในปริมาณน้อย เน้นผักผลไม้ที่หลากหลาย เป็นอาหารที่ย่อยง่าย
     ในเวลาก่อนเข้านอน 4 ชั่วโมง และฝากเพิ่มเติมถึงผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารไม่ควรทานรสเผ็ดจัด


ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องใส่ใจในเรื่องสัดส่วนการทานอาหารให้เหมาะสมในแต่ละมื้อ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งในระยะสั้นและยาวกันนะคะ การมีสุขภาพร่างกายที่ดี แข็งแรง เป็น ลาภอันประเสริฐจริงๆ ค่ะ.

"PrincessFangy"
twitter.com/PrincessFangy

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.dailynews.co.th/article/822/182998
http://www.hereping.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ