ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวบ้านร้องจัดการ "แก๊งแสบลอบขุดวัตถุโบราณวัดดัง" (ชมภาพ)  (อ่าน 1351 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29314
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ชาวบ้านร้องจัดการ "แก๊งแสบลอบขุดวัตถุโบราณวัดดัง"

แก๊งแสบลักลอบขุดวัตถุโบราณสมัยทาราวดีในวัดดังเป็นโพรงใหญ่ ชาวบ้านโวยกรมศิลป์-หน่วยงานเมินรับผิดชอบ เกรงพระพุทธรูปด้านบนพัง

วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายภาคภูมิ  จิตต์โสภณ ผอ.สถานีวิทยุชุมชน มะขามขวัญเรดิโอ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ว่าชาวบ้านโทรมาร้องเรียนจำนวนมากว่า มีบุคคลที่เป็นพระภิกษุสงฆ์และฆราวาสทำผิดกฎหมายโบราณสถาน เข้าลักลอบขุดหาพระเครื่องในยามวิกาล ที่วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม ต.อู่ทอง มีการขุดค้นทำลายสิ่งก่อสร้างและชั้นใต้ดิน
     ทำให้เกิดความเสียหายแก่พระอาราม และยังขโมยเอาวัตถุโบราณออกไปจากวัดจำนวนมาก
     ที่สำคัญชั้นใต้ดินที่ขุดเป็นโพรงขนาดใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปางไสยาสน์
     หลวงพ่อสังฆ์ ศรีสรรเพชญ์  ที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธามาช้านาน
     เกรงว่าจะพังลงมาแต่ปัจจุบันไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกรมศิลปากร


นายภาคภูมิ กล่าวว่า ตนในฐานะคนในพื้นที่รับรู้เรื่องนี้มานานแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงกลัวอิทธิพล แต่ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงๆ เพราะบริเวณที่ถูกลักลอบขุดวัตถุโบราณเป็นถ้ำเก่าของวัดเขาพระฯ ส่วนด้านบนมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์หลวงพ่อสังฆ์ ศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดเขาพระและเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปมาช้านาน
     ทางผู้นำท้องถิ่นได้ประสานไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า
     บริเวณที่ถูกลักลอบขุดนั้นเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อองค์หลวงพ่อสังฆ์ที่อยู่บ้านถ้ำ
     และส่วนหนึ่งจะมีชิ้นส่วนของวัตถุโบราณเช่นพระพุทธรูปปางต่างๆ สลักจากเนื้อหิน เทวรูปจักรนารายณ์เนื้อหินทราย สมัยทาราวดี สมัยอู่ทองตอนต้นตอนปลาย และพระถ้ำเสือ





ปัจจุบันได้ถูกลักลอบขุดออกไปแล้วจำนวนมากหลายร้อยชิ้น ทางผู้นำชุมชนเกรงว่าจะกระทบเทือนหลายอย่างว่าสิ่งที่ขุดค้นพบจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร
    เพราะขณะนี้ทราบมีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นนักโบราณคดี นำเอาพระพุทธรุปออกไปก็มาก
    อ้างเอาไปซ่่อมแซมแต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา เหลือเพียงซากปรักหักพังที่วางอยู่รอบอุโบสถวัด
    เหมือนของไร้คุณค่าที่ชาวบ้านช่วยกันเก็บรวบรวมไว้ ส่วนที่สภาพดีๆถูกลักลอบเอาไป 
    อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขามาดูแลโดยเฉพาะกรมศิลปากร


นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า จริงๆแล้วพื้นที่นี้ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่ก็คือ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.)
    และทราบว่าตอนนี้ยังมีวัตถุโบราณอีกหลายร้อยชิ้นที่ยังไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนและถูกปล่อยปะละเลย
    โบราณวัตถุเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบค้นประวัติศาสตร์
    ถ้ามีหน่วยงานเข้ามาทำให้ถูกต้องน่าจะเกิดประโยชน์ในการที่เราจะพัฒนาเมืองโบราณอู่ทองต่อไป




ด้านนางสมบุญ เขียวเซนต์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.อู่ทอง กล่าวว่า ได้ข่าวมาว่ากรรมการวัดอนุญาติให้ขุดเพื่อทำเป็นที่ท่องเที่ยว แต่พอกรรมการไม่อยู่มีกลุ่มบุคคลมาลักลอบขุดกันเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะกลัวอันตรายและพวกนี้มาขุดกันตอนกลางคืน
    เริ่มขุดกันมาตั้งแต่วันลอยกระทงปี 55จนถึงปัจจุบันก็ยังขุดกันอยู่
    พบของพระพุทธรูปโบราณมากมายที่สภาพดีนำออกไปขายหลายชิ้น
    ส่วนที่แตกหักปล่อยทิ้งวางไว้อย่างไร้คุณค่าอย่างที่เห็นอยู่โดยรอบบริเวณวัด
    และยังทราบว่ามีคนนอกมาร่วมเป็นกรรมการเอาของที่ขุดได้ออกไปอ้างว่านำไปซ่อมแซมแต่ก็ไม่เอามาคืน


เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลเพราะทางวัดก็รู้ว่ามีการลักลอบขุดแต่ไม่ยอมดำเนินอะไร อ้างว่าจะทำเป็นที่ท่องเที่ยว แต่โบราณวัตถุที่ได้ที่สภาพดีกลับไม่เห็นแม้แต่เงาเหลือเพียงที่สภาพชำรุด เรื่องนี้ถ้ายังปล่อยไว้โดยที่ไม่มีหน่วยงานเข้ามาดำเนินการโบราณวัตถุที่คาดว่ายังมีอีกมากจะต้องถูกขุดค้นออกไปจนหมด



สำหรับวัดเขาพระฯเป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่า ตั้งแต่สมัยทวาราวดี เพราะมีโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางต่างๆ ซึ่งสลักจากเนื้อหิน เทวรูปจักรนารายณ์เนื้อหิน บนยอดเขาพบซากเจดีย์อยุธยา   1 องค์ และยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองแกะสลักด้วยหินเขียวธรรมชาติ ประดิษฐานไว้ในมณฑปบนยอดเขาอีกด้วย..

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/crime/184123
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ