พระที่ไม่ได้ทำตัวให้เป็นพระ แต่ทำตัวเป็นโยมไปได้ กินใช้หรูหรา สบายกว่าโยมอีก เหล่านั้นผมกล้ารับรองว่าคงไม่ใช่พระหรอก
พระพุทธเจ้าท่านเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า สมมุติสงฆ์ คือ หลอกว่าเป็นพระสงฆ์ น่ะเอง
พระรัตนตรัย นั้น มีองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ผมขอขยายความนะครับ พระพุทธนั้น ก็คือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้านั้นเป็นผู้เลิศของที่สุดของโลก
คนไทย คนชาติอื่น ที่ศาสนาพุทธ ควรบูชาเป็นที่สุดของ สิ่งเหนือหัวครับ
ส่วนพระธรรม นั้นเป็นธรรมอันว่าได้ถูกต้องแล้ว ดีแล้ว เหมาะสมแล้ว ประพฤติตามแล้วย่อมได้ผลสู่สวรรค์เป็นอย่างต่ำ อย่างสูงคือไปพระ
นิพพานได้ แต่บุคคลเข้าถึงธรรมอย่างแท้จริงนั้น ไม่ต้องระดับอรหันต์ ก็สามารถหนี ไม่ต้องลงนรก ทำความดี
ตามคำสอนของพระธรรมนั้น หนีนรกได้ ชั่วคราว รับว่าคุ้มค่ามาก
พระสงฆ์ นั้น พระท่านถือว่า อันผู้ครองผ้าเหลืองและมีความประพฤติตนตามพระวินัยและพระธรรมนั้น เป็นพระสงฆ์ที่แท้จริงของศาสนาพุทธ
ไม่มีความจำเป็นต้องบรรลุมรรคผลหรือบรรลุอรหันต์ก่อน ถึงจะมีบุญสูงสุด แต่พระท่านถือว่าถ้าระงับกิเลสได้ชั่วคราว ด้วยการมีธรรมมะ และพุทธธะ ในหัวใจอย่างแท้จริง แม้ไม่บรรลุมรรคผลใดๆในชาตินี้ ก็มีบุญมาก
พระท่านบอก ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดทำลายศาสนาพุทธได้ จะมีก็มีแต่พุทธบริษัท4 ทำลายกันเอง คือพวกเราชาวพุทธทำลายเองล่ะครับ
ฟังแล้วปวดใจสุดๆ แต่ก็เป็นจริงตามนั้น หนังสือพิมพ์ ตีพิมพ์ความเลวของพระรูปอื่น อย่างต่อเนื่องทำให้ คนไทยเริ่มสิ้นศรัทธาในพระสงฆ์
อย่างนี้พระสงฆ์ดีๆ พลอยจะโดนเหมารวมให้หมดศรัทธาไปด้วย กลายเป็น ปลาเน่า4-5ตัว พาน้ำคลองเน่าทั้งแถบ ปลาแถวนั้นจะตายกันหมด
ผมขอคนที่อ่านนะครับ พระดีนั้นยังมีอยู่ แต่ท่านปิดบังตัวไว้ ไม่ต้องการให้คนไปกวนท่านมาก แต่มีอยู่แน่นอน ถ้าคุณยังศรัทธาพระสงฆ์
ขอให้ขยันเลือกหน่อยครับ ขยันหาพระที่ไม่ หรูหรา ชอบสบาย นั่นน่ะของจริงครับ เป็นพระไม่ค่อยลำบากกาย แต่ลำบากใจ กิเลสบีบคั้น
หรือถ้าคุณลำบากในการหาพระดี ก็ขอให้ทำบุญแต่พอดีในสถานะ คิดเพื่อบำรุงศาสนาพุทธให้อยู่ต่อไปได้ ก็เป็นบุญเช่นกัน
ถ้าไม่มีโยม พระก็อด พระคือผู้ขอ แต่ก็ควรขอให้พอดี พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ถึงพระเป็นผู้ขอ แต่ควรทำตัวให้เหมือนผึ้ง
ไปดูด เกสรความหวานดอกไม้แต่พอดี พอกิน และพอดำรงชีพได้ ไม่ใช่สูบสะจนดอกไม้แห้ง พระที่มีความเป็นอยู่เกินพอดีแสดงว่าไม่เชื่อฟัง
คำสอนของพระพุทธเจ้าครับ เป็นพระไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เอาแต่สบาย เขาเหล่านั้น เป็นแค่คนกิเลสหนา ไม่ใช่พระสงฆ์ที่แท้จริง
แต่ผมขอยืนยันว่า2500ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน มีพวกใจมารบวชพระ ตลอดแหละครับ ไม่ใช่พึ่งมามีไม่นาน แต่ข่าวมันวิ่งเร็วไปหน่อยและกระจายกว้าง เลยเหมือนจะเยอะ ขอนะครับอย่าพึ่งสิ้นศรัทธาในพระสงฆ์ทั้งหมด พระรัตนตรัย องค์ 3 เชียวนะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
อย่าพึ่งทอดทิ้งอย่างใดอย่างนึงไป ศรัทธาให้ครบ ชาวพุทธแท้เขามีพระรัตนตรัยในใจนะครับ พระไม่ดีก็ไม่ต้องมอง มองแต่พระดี
สุดท้าย ผมขอบอกว่า บุณนั้นมีเยอะหลายประเภทให้เลือกทำ มิใช่แค่เงินที่ให้แล้วเป็นบุญ
ผมขอยก บุญใหญ่ของศาสนาพุทธ โดยไม่เสียเงินเลยมาให้คุณได้พิจารณา ลองกระทำครับ
1 นึกถึงพระพุทธเจ้าท่านเป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน คือง่ายๆ คิดถึงท่านก็พอ ทำเพียงเวลาแค่ช้างกระดิกใบหูก็ได้บุญมาก วินาทีเดียวไงครับ
2 นึกถึง พระธรรม เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
3 นึกถึง พระสงฆ์ ยิ่งนึกถึงพระที่เป็นพระอรหันต์ไปแล้วยิ่งดีใหญ่ เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
4 นึกถึง ศิล ที่ตัวเองรักษา เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
5 นึกถึง ทาน ได้ให้ของกับใคร เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
6 นึกถึง เทวดาองค์ไหนก็ได้ เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
7 นึกถึง ความตาย เราทุกคนต้องตายแต่ต่างกันตรง เราได้ทำอะไรบ้างตอนมีชีวิตอยู่ เลยขอมีชีวิตอยู่โดยไม่ประมาท เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
8 นึกถึง ความเป็นทุกข์ ของร่างกายเรานี้ เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
9 นึกถึง ลมหายใจเข้าออกของตนเอง เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
10 นึกถึง พระนิพพาน ความสุขที่แท้จริง ของศาสนาพุทธ เป็น อารมณ์ หรือ กรรมฐาน แม้วินาทีเดียวก็มีบุญมาก
10 ข้อเหล่านี้ ไม่ใช้เงินทุนใดๆ ขอให้มีความคิดไปสู่เรื่องเหล่านี้เป็นใช้ได้ และเป็นบุญปริมาณมากกว่าทำทาน ด้วยครับ
ขอให้โชคดีนี้เดินทางไปกับคุณเสมอไปนะครับ โชคดียั่งยืน
ขอบคุณครับ
Zสัญญาว่าจะรักกันZ
http://pantip.com/topic/30682672