ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิสัยของ "หญิงหม้าย ชายบวชนาน" มักเป็นเช่นนี้  (อ่าน 3368 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

หญิงหม้าย ชายบวชนาน

ขบวนการโปรโมตพระอรหันต์ ทำมาหาเงินแบ่งกันทั้งคนโกนหัวไม่โกนหัว และมักลงท้าย ก็มักกลายเป็นอรหอย เพราะถูกจับได้ว่าแอบไปมีเมีย ไม่ใช่จะเพิ่งมาเกิดถี่ในสมัยนี้ มีมานานแสนนานแล้ว

สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ฝ่ายอาณาจักรกับฝ่ายศาสนจักรใกล้กันมาก ยิ่งพระเจ้าแผ่นดิน อย่างรัชกาลที่ 4 ท่านเคยผนวชมานานถึง 27 พรรษา เวลาเกิดปัญหาเรื่องอรหอย...ท่านเห็นเป็นเรื่องขนมผสมน้ำยา สั่งลงโทษไม่ละเว้นทั้งตัวพระ ทั้งสีกา คฤหัสถ์


    :96: :96: :96:

   ลองอ่านพระราชโองการ ต่อไปนี้ (ศาลไทยในอดีต ประยุทธ สิทธิพันธ์)
   อนึ่ง สตรีที่เป็นหม้าย ผัวหย่า ผัวตาย ร้างมานาน ขึ้นคานอยู่ หรือหญิงสะเทิ้นที่ตั้งแต่เล็กยังไม่เคยพบชาย ขึ้นคานอยู่นานๆ ย่อมสืบเสาะหาผัวที่ไม่มีภรรยา วิสัยคนที่เป็นคฤหัสถ์ ก็มีภรรยาทุกคนด้วยกัน ไม่ใคร่มีใครว่างเปล่าอยู่ ฝ่ายพระสงฆ์บวชอยู่นาน ไม่มีภรรยา เป็นคนว่างเปล่าอยู่ ถ้าให้สึกออกมาได้เป็นผัวจะดี

    พระสงฆ์เล่าบวชอยู่นาน ได้ยศถาบรรดาศักดิ์แต่ในหลวงทรงตั้งให้เป็นพระราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ รับนิตยภัตไตรปีได้ แลเทศนาบ้าง บังสุกุลบ้าง แลรับนิมนต์ไปในการพิธีอื่นๆบ้าง หรือเป็นพระครู เจ้าอธิการ แลอนุจรก็ดี ได้เทศนาบังสุกุลรวบรวมเฟื้องสลึงตำลึงบาทไว้ได้มาก

    ถ้าเราเกลี้ยกล่อมให้สึกออกมาเป็นผัว คงจะมอบหมายเงินทองที่เก็บไว้ให้แก่เรา คงอยู่ในอำนาจเรา จะใช้อย่างไรก็คงได้ดังปรารถนาทุกอย่าง ด้วยคนชาววัดบวชอยู่นาน ไม่เคยพบการชำเราชำเขา ได้พบเข้าแล้วก็ตื่นไป งมเซอะไปดังนี้
    จึงคิดอุบายเอาบุตรชายไปฝากไว้บ้าง ชักโยงพวกพ้องพี่น้องให้ไปอยู่บ้าง
    พอได้ไปมาเป็นสนสื่อ แลได้ส่งคาวหวานเปรี้ยวเค็ม
    ถวายพระสงฆ์ที่ตนชอบใจ อยากได้เป็นผัว หรือเป็นเขยนั้นเนืองๆ



    ฝ่ายพระสงฆ์เล่า เป็นชาววัด ได้อุปการะเกื้อหนุนสมดังที่คิดไว้ เมื่อยังไม่ได้สึกมักอ้อๆแอ้ๆ เข้าประจ๋อประแจ๋ประจบประแจง ฝากตัวเป็นญาติเป็นโยม เรียกโยมที่บ้าน โยมที่แพ โยมที่ตึก บ้านล่าง บ้านบน ดังนี้ ก็โดยมาก
    ครั้นสึกออกมากินอยู่ด้วยกัน หรือชำเรากันเสียก่อน แต่ยังไม่สึกบ้าง
    หญิงพอใจหาพระสงฆ์ชาววัดเป็นผัว พระสงฆ์ชาววัดที่สึกออกมาพอใจหาหญิงหม้าย หญิงขึ้นคานเป็นภรรยา
    อย่างนี้มีมากนัก ชุกชุมทุกหนทุกแห่ง จะระบุว่าคนนี้คนนั้นคู่นี้คู่นั้น จะพรรณนาไปก็ไม่สิ้นสุดลง
    แลเป็นเครื่องเคืองหูรำคาญใจ ท่านที่ไม่แผล ไม่พอใจฟัง   

    เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอเตือนสติท่านทั้งปวง...ให้รู้ว่า
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน มีพระราชหฤทัยประสงค์ จะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ มิให้มัวหมองเป็นมลทิน แลให้รุ่งเรืองเป็นประโยชน์แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน


    :91: :91: :91:

    จึงโปรดเกล้าฯ ให้ระวังตัวกลัวผิดด้วยกันทั้งชาววัดชาวบ้านว่า
    ตั้งแต่นี้สืบไป ถ้าผู้หญิงหาพระเป็นผัว หรือพระหาผู้หญิงหม้ายหญิงขึ้นคานเป็นภรรยา
    แลทำการสนสื่อไปมาเพื่อเมถุนสังวาสแล้ว มีผู้มาโจทนาว่ากล่าว สืบได้ความเป็นสัจ
    จะให้ปรับไหมมีโทษตามพระราชบัญญัติ แลจะปรับพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้เคียงในที่รังวัด 3 เส้น 15 วา ได้รู้เห็น
    ให้ทำวัดถากหญ้ารื้อขนอิฐปูนไปใช้ในการบุญ กว่าจะครบกำหนดตามกำหนดรังวัดที่ใกล้แลไกลตามสมควร


    เมื่อสตรีใดๆ มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องพระสงฆ์ หรือพระสงฆ์มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องผู้หญิง คือหาภรรยาแต่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่ก็ดี มีอยู่สักกี่แห่งกี่ราย ก็ให้มาลุกะโทษเสียโดยตรง อย่าให้ปิดบังไว้ให้เนิ่นช้าเกิน 15 วัน จะโปรดยกโทษให้
    ถ้ามีคดีเกี่ยวข้อง แลแกล้งปิดบังไว้ ไม่มาลุกะโทษ (หาก) มีปากโจทก์หรือผู้มาฟ้องร้องว่ากล่าว หรือกราบทูลพระกรุณาให้ขุ่นเคืองฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ดี จะให้ปรับไหมมีโทษจงหนัก มีโทษเสมอกับคนที่เป็นปาราชิก ทั้งชาววัดแลชาวบ้าน จะให้เสียรังวัดกึ่งผู้ผิด


   ประกาศรัชกาลที่ 4 ฉบับนี้ จบเพียงเท่านี้...



   โทษเท่าผู้ปาราชิก ผมจำได้ระดับเดียวกับโทษขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง...ต้องเอาตัวไปตระเวนบก 3 วัน ตระเวนน้ำ 3 วัน แล้วเอาตัวไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง

    กฎหมายนี้ ถ้าใช้ในสมัยนี้ ช้างมีมากแถวเมืองสุรินทร์ จุดขายให้คนไปเที่ยวสุรินทร์ คงเพิ่มจากไปดูการละเล่นช้าง...เป็นไปดูเนื้อตัวหน้าตา อรหอย ไฮโซ ไฮซ้อ ที่เป็นตะพุ่นหญ้าช้าง คงน่ารักน่าชังนะครับ ถ้ามีให้ดูในยูทูบ คงมีคนคลิกเข้าไปดูกันเป็นแสนเป็นล้าน.

    กิเลน ประลองเชิง


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/354507
http://ข่าวศาสนาและวัฒนธรรม.sabuyblog.com/ , http://ho.files-media.com/ , http://www.posttoday.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 03, 2013, 08:45:43 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: วิสัยของ "หญิงหม้าย ชายบวชนาน" มักเป็นเช่นนี้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2013, 11:29:14 am »
0
ช่างตั้งคำ ผัน คำ เหลือเกิน นะคะพวกเราอย่า นำพระรัตนตรัย มาแผลงตามเขาดีกว่า อ่านแล้ว ก็พิจารณา พระสงฆ์ไทยมี ร่วม แสนกว่ารูป ที่ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ก็มีไม่น้อย

  การออกสื่อ เชิง แคลนพระที่บวชว่า บวชแสวงหาเมีย อย่างนี้ ไม่ถูกต้องทั้งหมด นะคะ

   :34: >:(
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: วิสัยของ "หญิงหม้าย ชายบวชนาน" มักเป็นเช่นนี้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 07:02:39 am »
0
ใช้ปัญญา พิจารณาให้ดี นะคะ พระที่ดี มีมากกว่า พระที่ไม่ดี นะคะ

  ต้องระวังเจริญสติปัญญาไปด้วยนะคะ เพราะเรื่องพวกนี้ อาจจะทำให้คนทั่วไป ปรามาสพระสงฆ์ที่ดีไปด้วย นะคะ

 st11 st12
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ