ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถึงเวลา"สังคายนาพระวินัย"กันหรือยัง.?  (อ่าน 1525 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ถึงเวลา"สังคายนาพระวินัย"กันหรือยัง.?
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 08:36:35 am »
0


ถึงเวลา"สังคายนาพระวินัย"กันหรือยัง.?
ผศ.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ ภาควิชาสังคมวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มศว.(ที่มา:มติชนรายวัน 9 ก.ค.2556)

สถานการณ์ที่เปลี่ยน กาลเวลาปรับ หากไม่สามารถอยู่ในสภาวะสังคมได้ด้วยการปรับจะเป็นปัญหาการดำรงอยู่ เฉกเช่นข่าวในรอบ 1 เดือน

ผู้เขียนเป็นชาวพุทธโดยกำเนิดบวชเรียนมาแล้ว พระพุทธศาสนาหล่อหลอมมาทั้งชีวิต การมีสติยับยั้งชั่งใจในการดำรงตนเป็นคนนอกจากพ่อแม่แล้ว หลักธรรมคำสอน ที่สำคัญทำให้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ไม่ประมาท เข้าใจความไม่เที่ยง จึงไม่ตกใจกับสิ่งใดๆ เช่น อดีตพระมิตซูโอะสึกไปแต่งงาน หลวงปู่เณรคำนั่งเครื่องบินส่วนตัว ทั้งหมดคือความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อย่าไปกังวลใจแต่ต้องเป็นห่วง

ข่าวเรื่องพระสงฆ์โด่งดังมากช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่รอบ 1 เดือนข่าวพระดังเกิดขึ้น ตั้งแต่กรณี หลวงปู่เณรคำ ท่านมิตซูโอะ พระอาจารย์ใหญ่ชื่อดังสองสำนักท้าดวลไมค์ด้วยหลักธรรม ยังไม่นับอีก หลายกรณีที่ไม่เป็นข่าว ทั้งหมดคือข่าว แต่การแก้ปัญหาให้กระจ่างยังไม่เกิดขึ้น เป็นวาทะขี้ปากชาวบ้าน เมาธ์กันสนั่นเมือง


 :welcome: :welcome: :welcome:

ฤๅจะถึงเวลาเราต้องสังคายนา หลักพระวินัยกันใหม่หรือไม่ ผู้เขียนเป็นผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ในชีวิตนี้แม้ใครจะสั่งให้ตัดลิ้นหากไม่นับถือศาสนาอื่น ก็จะยอมให้ตัด เพื่อความเป็นพุทธในทุกภพทุกชาติ

    ต้องยอมรับการแยกแยะระหว่างพุทธศาสนากับพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
    หากเราปนกันเกิดเหตุการณ์ใดๆ เกี่ยวกับพระสงฆ์เราจะเศร้าหมอง อย่าลืมพระคือคน
    คนที่บวชไม่ใช่จะไม่มีกิเลสตราบที่ยังไม่บรรลุพระอรหันต์ ท่านยังมีกิเลสเวียนอยู่ในกมลสันดาน

    อยู่ที่การฝึกฝน สติ การข่มอารมณ์ การดำรงอยู่ สันโดษ
    หรือแวดล้อมไปด้วยลูกศิษย์ที่หลงในธรรม หรือศรัทธาในวัตรปฏิบัติ


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ผู้เขียนอยากให้มองด้วยใจเป็นธรรมกับพระสงฆ์ในโลกยุคปัจจุบัน ท่านอยู่ไม่ง่าย ข้อวัตรปฏิบัติ ศีล 227 ข้อ เข้ากับยุคสถานการณ์หรือไม่ สมัยพุทธกาลไม่ได้บัญญัติเรื่องมือถือ ทีวี ห้องแอร์ เข้าโรงแรม นั่งเครื่องบินเจ็ต ใส่แว่นดำ ถือ iPad มี Face book ใช้ LINE ความทันสมัยของสังคมปัจจุบันไม่มีใครชี้ชัด ว่าถูกหรือผิด

พระท่านปรับตัวไม่ง่าย พระอาจารย์หลายรูปปรับตัวช่วยสังคมด้วยสื่อการสอนมากมาย พระเข้าห้างเดินซื้อเทคโนโลยี เพราะต้องใช้ในการศึกษา การสอนธรรม ใครจะดูแลความเหมาะสมเช่นใด พระเดินจตุจักร พระอยู่แดนไกล เช่น อเมริกา หรือประเทศอื่นทำอย่างไร

การสังคายนาเพื่อการปรับพระวินัยให้มีมาตรฐาน เป็นเรื่องสำคัญ กระทรวง ศึกษาฯ สำนักพุทธฯ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ และมหาวิทยาลัยมหามกุฏฯ ถึงเวลาต้องเป็นเจ้าภาพสังคายนาเพื่อวางเกณฑ์ถูกผิดเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เช่น พระควรบิณฑบาตได้ไม่เกินกี่โมง สถานที่ใดเหมาะควรเช่นใด

โปรดขอให้รัฐบาลอำนวยความสะดวกให้มีการสังคายนาข้อวัตรปฏิบัติ จะเป็นความเมตตาต่อการดำรงอยู่ของพระสงฆ์ เพื่อศรัทธาสมณะสารูปถูกตามกาละยุคสมัย และเป็นการกำจัดพระนอกรีตแอบแฝงหาผลประโยชน์ให้หมดไป


 :91: :91: :91:

พระสงฆ์ที่ผู้เขียนถือเป็นเจ้าชีวิต ในการอ่านงานย่อยธรรมจากพระพุทธเจ้าสร้างคุณค่าต่อสังคมที่มรณภาพแล้ว หลวงพ่อพุทธทาส หลวงพ่อปัญญา เจ้าคุณโชดก วัดมหาธาตุฯ พระสงฆ์หลายรูปที่เป็นพระนักปราชญ์ พระนักการศึกษา ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
    เช่น ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก (ประยุต ปยุตโต) พระที่นักวิชาการทั่วโลกยอมรับในภูมิธรรม พระอาจารย์พยอม เจ้าคุณประยูร อธิการบดี มจร. ท่าน ว.วัชรเมธี และอีกหลายรูปที่พร่ำสอนให้ศิษย์ทำความดี รู้ชั่ว กลัวบาป สายปฏิบัติเรียกว่า พระป่าอีกหลายรูปที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เรากราบก็ได้บุญทางใจแล้ว

สำคัญพุทธศาสนิกชนไทยโปรดอย่ายึดติดพระ เมื่อฟังคำสอนแล้วนำไปใช้ในชีวิตตนเองให้ดี ให้เหมาะสม ใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้ดำรงตนอยู่อย่างไม่ประมาท หากจำเป็นต้องไปวัด ไปถวายสิ่งของ แต่พองาม เงินทองลาภสักการะไปถวายท่านมากมายให้ท่านไปทำอะไร
    ผู้เขียนห่วงใยพระคุณเจ้าที่มีเงินมากๆ ท่านนำไปใช้เช่นใด ท่านสร้างถาวรวัตถุมากไปไหม ลองหยุดการสร้างวัด สร้างพระให้ใหญ่โต หันมาสร้างปัญญาให้คนในสังคม มีเหตุและผล อย่าทะเลาะกันด้วยความคิดทางการเมือง หรืออาจารย์ฉัน อาจารย์เธอ ที่วุ่นอยู่ปัจจุบันนี้ เพราะพระกับโยมปรับตัวทางสังคมไม่เข้ากับหลักพระธรรมวินัยกว่า 2,500 ปี

 :25: :25: :25:

     ผู้เขียนเสนอว่า

    1. ให้สำนักพุทธฯ เถระสมาคม รัฐบาล ถึงเวลาควรมีการจัดสัมมนาสังคายนาพระวินัย พระสงฆ์ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสังคมการดำรงอยู่ของพระคุณเจ้าในปัจจุบัน
    2. วัดควรหยุดการก่อสร้างถาวรวัตถุที่ไม่จำเป็น เริ่มรณรงค์สร้างธรรม สร้างใจให้กับพุทธศาสนิกชน เพื่อเป็นความยั่งยืนทางปัญญาของชาวพุทธ
    3. สำนักพุทธฯกวดขันเรื่องศิษย์ของพระอาจารย์หลายรูป ที่ออกพ็อคเก็ตบุ๊ก การระลึกชาติได้ การเห็นนิมิต การตัดเวรตัดกรรม ทั้งพระ เถร เณร ชี ควรดูแล การสร้างความงมงายโดยขาดปัญญาไตร่ตรอง ทำให้ชาวพุทธอ่อนล้า ขาดหลักธรรมแท้จริง การตักเตือน ชี้แนะผู้กระทำทางสำนักพิมพ์ ร้านวางจำหน่าย ควรไตร่ตรองด้วย
    4. การไปวัดควรมีกาลเทศะ ไปด้วยเหตุใด ไปปฏิบัติ รับฟังธรรม ถวายสังฆทาน ไปทำบุญใส่บาตร ไปทำบุญบำรุงวัด หรือบวชพระ พิธีกรรมงานศพ แต่การไปเที่ยวตัดเวรตัดกรรม ดูหมอ ขอต่อชะตาชีวิต นั่งนอนในโลงศพ ก็ตามอัธยาศัย ปัญหาใครปัญหามัน ขอเสนอท่านเจ้าอาวาสเมตตาให้พระคุณเจ้าหลังจากทำพิธีใส่หลักธรรมไปด้วย จะเป็นบุญแก่โยมยิ่ง เพียงแค่อิทธิบาท 4 ก็นับค่ามหาศาลต่อการดำรงตนแล้ว นอกจากความสุขใจจากโชคชะตา
    5. สถาบันพระสงฆ์ไทยทั้งสายมหานิกายและสายธรรมยุต ควรมีการแถลงการณ์ในช่วงเกิดกรณีปัญหาพระสงฆ์ภาพรวม การให้สติ การชี้มุมมองไม่ให้เกิดวิกฤตศรัทธาพระสงฆ์ในแต่ละประเด็น จะเป็นมหาเถรสมาคมจะมอบ มหาจุฬาฯ มหามกุฏฯ เป็นผู้กลั่นกรองจากพระผู้มีภูมิธรรมแนวคิดถูกผิด เราควรฟังจากพระ แถลงเป็นระบบ ดีกว่าสัมภาษณ์พระอาจารย์บางรูปเท่านั้น
    6. อุบาสก อุบาสิกา กรุณาอย่าไปรบกวนพระมาก อย่าไปเฝ้าพระดั่งศาสดาองค์นั้นองค์นี้ พระอาจารย์เรา พระอาจารย์ฉัน ได้หลักคิดในธรรมกลับไปบ้านดูแลสามี ภรรยา ดูแลลูก ครอบครัว กลับไปทำหน้าที่ ครอบครัว สุขภาพ สังคม การงาน พระอยู่วัด โยมอยู่บ้าน พระอยากอยู่บ้านก็ลาสิกขาไปเป็นโยม ทุกอย่างเป็นอนิจจังเท่านั้น


 st12 st12 st12

ผู้เขียนไม่มีเจตนาดูแคลนในเรื่องใด เจอพระสงฆ์นั่งไหว้ตามแบบอย่างพุทธศาสนิกชนที่ดีทุกครั้ง ศรัทธาไม่เสื่อมคลายแม้จะเหลือพระสงฆ์รูปสุดท้ายในสยามไทย เพียงแต่เป็นห่วงใยความเปลี่ยนแปลงสังคมไทยสังคมโลก เกิดหลายสิ่งที่เราไม่เข้าใจพาลไปหาเรื่องพระเรื่องโน่นนี่นั่น จึงขอเสนอแนวคิดเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการเริ่มต้นการปฏิรูปพระวินัย การดำรงอยู่ของพระคุณเจ้าถือว่าเสียสละ พระสองแสนรูป ทำให้พระพุทธศาสนา ยังคงดำรงอยู่ในสยามไทย

ไฉน ทำไมเราจึงละเลย ไม่เตรียมการวางระบบให้ท่านอยู่ได้อย่างมีมาตรฐานสมพระสงฆ์สาวกองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เจริญแล้ว เพื่อเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานสืบสานพระพุทธศาสนาเป็นหลักอื่นอยู่ในใจเราชาวพุทธตราบทุกภพทุกชาติ


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373361880&grpid=&catid=02&subcatid=0207
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2013, 08:42:01 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ถึงเวลา"สังคายนาพระวินัย"กันหรือยัง.?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2013, 09:01:48 am »
0
ชาวพุทธที่มีปัญญา ไม่เดือดร้อน กับเรื่องนี้
แต่ ชาวพุทธ แค่ ทะเบียน ก็เม้าส์กันไป สนองตัณหา ราคะ โทสะ ของตนเอง
ใครสร้างกรรม อย่างไร ก็รับกรรม อย่างนั้น

   ส่วนตัว เชื่อว่า พระที่ดี ยังมีอยู่ ทำงานเสียสละยังมีอยู่ แต่มีจำนวนน้อย เท่านั้น เชื่อว่่าพระสงฆ์ส่วนใหญ่ ไม่ได้ปฏิบัติธรรมภาวนา กัน

 สังเกตเวลาไปวัด ปฏิบัติธรรม พระสงฆ์ลงทำวัตรสวดมนต์ ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของวัด เคยแอบเดินไป เจอนั่งดูบอล ดูมวยกันอยู่ในขณะที่เราเข้าไปปฏิบัติธรรมภาวนาที่วัดกัน


  :49:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ