ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สร้าง “ลูกชาวนามืออาชีพ” ตอบโจทย์เรียนไป“ไม่จน-ไม่เหนื่อย-เท่ห์”  (อ่าน 1758 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

“สันหลังของชาติ” กลายเป็นอาชีพที่คนรุ่นใหม่ปฏิเสธ


สร้าง “ลูกชาวนามืออาชีพ” ตอบโจทย์เรียนไป“ไม่จน-ไม่เหนื่อย-เท่ห์”

เมื่อพูดถึงปัญหา “แน่นอก”ชนิด “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น “ข้าวไทย”ที่ผู้ใหญ่ใจดีหลายฝ่ายกำลังช่วยกันหาทางออกให้ชาวนาได้ลืมตาอ้าปากกันอีกครั้ง!แต่หากมองย้อนไปให้ถึงรากหญ้าปัญหา “ทำนา แต่ไม่ได้นา”ทำให้อาชีพที่ถูกขนานนามว่าเป็น “สันหลังของชาติ” กลายเป็นอาชีพที่คนรุ่นใหม่ปฏิเสธ
             
สถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ คณะเศรษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมจัดงาน

      สถาบันวิชาการด้านสหกรณ์ คณะเศรษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  และ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)จึงร่วมกันจัด “โครงการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ชาวนามืออาชีพ” กล่าวถึงโครงสร้างปัญหาของชาวนาไทยที่ทำนาแล้วไม่ได้นาว่า ชาวนาไทยกำลังเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายความอยู่รอด นอกจากนี้ก็ยังมีการถ่ายทอดโรงเรียนชาวนามืออาชีพออกมาในรูปแบบการ์ตูน เพื่อดึงดูดให้เด็กเยาวชนสนใจ

       รศ.จุฑาทิพย์ ภัทราวาท ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการด้านสหกรณ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ชาวนามืออาชีพ กล่าวว่า ความเสี่ยงของชาวนาไทยคือ การเผชิญกับความไม่รู้และขาดทักษะการทำการเกษตรสมัยใหม่ จึงมีการออกแบบหลักสูตรโรงเรียนลูกชาวนาเพื่อสร้างชาวนามืออาชีพประกอบด้วย ความรู้ด้านการประกอบอาชีพ และความรู้ในการดำเนินชีวิต เมื่อวิเคราะห์ปัญหาโครงสร้างชาวนาไทยจึงมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญคือ
    1. การแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
    2. การขาดทักษะและความรู้ ทั้งความรู้เท่าทันกลไกตลาด การลดต้นทุนการผลิตและการจัดการ จึงตกเป็นเหยื่อธุรกิจการผลิต การขายปุ๋ยและสารเคมี และ
    3. ขาดวิถีชีวิตที่พอเพียงทั้งการส่งลูกเข้าเรียนในเมืองทำให้หมดตัวกับการศึกษา เป็นหนี้เงินกู้จากกับดักเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ นอกจากนี้ยังถูกกระหน่ำจากปัจจัยภายนอกทั้งการถูกนายทุนผูกขาดกดราคาตลาดทำให้ไม่มีอำนาจต่อรอง กฎหมายที่ไม่เอื้อต่อชาวนารายย่อย นโยบายรัฐที่แก้ปัญหาปลายเหตุโดยไม่แก้ที่ต้นเหตุคือการติดอาวุธทางปัญญาให้กับชาวนาไทยรุ่นใหม่”


“โครงการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ชาวนามืออาชีพ”
       

       ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สสค.ระบุสถิติเยาวชนไทยเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาเพียง30% ขณะเด็กส่วนใหญ่ 70% ทะยอยหลุดจากระบบการศึกษาตั้งแต่ป.6นั้นต้องเข้าสู่ระบบแรงงานแบบไม่ตั้งตัว ทำให้ไม่มีทักษะเพียงพอในการประกอบอาชีพ สร้างปัญหาการว่างงานจึงเห็นควรว่า เทรนด์การศึกษาไทยยุคใหม่ต้องเน้นเรื่องการมีงานทำ
       
       “ประเด็นสำคัญคือ ต้องเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้จากการถ่ายทอดเป็นการลงมือทำ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ ขยายผลหลักสูตรทั้งในและนอกระบบ เพื่อส่งเสริมการเรียนทักษะอาชีพ และอาศัยความร่วมมือจากสื่อเพื่อต่อสู้กับกระบวนการความคิดที่รู้สึกว่าเป็นชาวนา เป็นเกษตรกรแล้ว“เหนื่อย จนไม่เท่ห์”   
        โดยทำให้เด็กเยาวชนรุ่นใหม่เห็นว่า ชีวิต “ชาวนามหาเศรษฐี ทำได้จริงอย่างไร?”
        ซึ่งเป็นการต่อสู่กันในความคิด เพื่อแก้ปัญหาลูกชาวนาลูกเกษตรกรละทิ้งไร่สวน เพราะมีค่านิยมที่ทำนา ไม่ได้นา ล่าสุดอายุเฉลี่ยของเกษตรกรไทยก็พุ่งสูงขึ้นเป็น 55 ปีและจะสูงถึง 65 ปี หากปัญหาไม่ได้แก้ไขใน 10 ปีนี้”

       
       
ด.ญ.อมรลักษณ์ คงขิม

      ด้าน ด.ญ.อมรลักษณ์ คงขิม อายุ 14 ปี โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 2 หนึ่งในเยาวชนที่ร่วมโรงเรียนลูกชาวนา จ.อยุธยา กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากโรงเรียนลูกชาวนาคือการเป็นเกษตรกรที่ดี เช่น การใช้ปุ๋ยชีวภาพจากฮอร์โมนไข่ที่ทำจากไข่ นม น้ำตาล ฉีดรอบนาข้าวแทนยาฆ่าแมลง ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตและดีต่อสุขภาพทั้งพ่อแม่และผู้บริโภค นอกจากนี้การที่ได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนที่เป็นลูกชาวนาด้วยกันทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกชาวนา เพราะถ้าไม่มีชาวนาแล้วคนไทยก็ไม่มีข้าวกิน และในอนาคตก็อยากเป็นชาวนารุ่นใหม่ที่มีการวางแผนการผลิต การแปรรูป และต้องมีการรวมกลุ่มกันเพื่อตั้งสหกรณ์เพื่อมีอำนาจต่อรองจากทุนภายนอก

        :49: :49: :49:

       สำหรับ “เนื้อหาในพ็อกเก็ตบุ๊คการ์ตูนชาวนามืออาชีพ” นั้น สะท้อนถึงปัญหาหัวอกพ่อลูกชาวนาไทยคู่หนึ่ง ที่แม้ลูกชายจะเติบโตอย่างมีความสุขในท้องนา แต่สังคมกับคิดตรงข้าม“เพื่อนร่วมชั้นเดียวกันเล่าว่า พ่อทำนามาตั้งแต่ผมเกิดจนตอนนี้พ่อก็ยังเป็นแค่ชาวนาจนๆเหมือนเดิม ถึงผมจะชอบไปนากับพ่อ แต่เพื่อนๆที่โรงเรียนชอบว่า ชาวนาน่ะ ยังไงก็จนไปทั้งชีวิต..”
       
       ตัวละครได้สะท้อนปัญหา และทางออกร่วมกันว่า อยากจะเห็นชาวนาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีเพื่อนร่วมอาชีพที่สามารถปรึกษาหารือกันได้ ใช้ชีวิตสมฐานะไม่ต้องมีหนี้สิ้นติดตัว สุขภาพแข็งแรงชีวิตแจ่มใส ชาวนาต้องไม่ใช่คนที่ไม่มีความรู้ แต่เขาเก่งไม่เหมือนคนอื่น


        :96: :96: :96:

       ความหวัง “ชาวนา (รุ่นใหม่) มืออาชีพ” จึงต้องเชี่ยวชาญทั้งการปลูกข้าว การวางแผนบริหารและมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ต่อไปโรงเรียนชาวนา หรืออาจจะขยายเป็นมหาวิทยาลัยชาวนา เป็นที่พึ่งและทางออกของปากท้องของคนไทยได้เต็มปากเต็มคำดังเช่นในอดีต


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9560000089848
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ