พิมพ์

[raponsan]

คิดมีสติ...ก่อนโพสต์

โดย ชลวิทย์ เจียรจิตต์

ชลวิทย์ เจียรจิตต์ ภาควิชาสังคมวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มศว  (ที่มา:มติชนรายวัน 21 ส.ค.2556)

ในสังคมอุดมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในหลายมิติ การเข้าถึงข่าวสารข้อมูลด้วยกรอบคิดในมิติที่สร้างสรรค์ด้วยการค้นจากเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยทำให้โลกนี้ติดต่อกันได้ด้วยปลายนิ้ว ความทันสมัยทำให้ชีวิตมนุษย์ในการติดต่อไม่ว่าจะไกลใกล้แค่ไหนเรากำหนดติดต่อกันได้ ไม่เพียงแค่โทรศัพท์เท่านั้น ยังมีรูปแบบที่โลกสมัยใหม่สรรค์สร้างเพื่อความก้าวหน้าของสังคม

สิ่งที่สำคัญยิ่งที่สุดคือการใช้สติ คิด ไตร่ตรอง พิจารณา ก่อนที่จะพิมพ์ และส่งข้อความ หรือภาษาทั่วไปทับศัพท์ว่าโสต การคิดว่าข้อความที่ส่งไปเป็นสาระ หรือประโยชน์ต่อตนเอง ต้องตอบคำถามเสมอว่าไปกระทบสิทธิผู้อื่นหรือไม่ สร้างสรรค์หรือทำลาย อคติหรือสมานฉันท์ เป็นบวกหรือลบ

หากเราใช้สติที่ไตร่ตรองดีพอ เราจะยอมรับร่วมกันว่า การส่งข้อความเพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้มุมคิดมุมมองเราที่มีต่อสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา อื่นๆ จำเป็นต้องไตร่ตรองคิดก่อนพูด คิดก่อนทำ คิดก่อนโพสต์ คิดก่อนทำ ไม่ใช่...ทำแล้วค่อยคิด พอส่งแล้ว เนื้อหาทั้งหมด ข้อความมันเป็นนายเรา

 

คิดให้ดีก่อนโพสต์...คิดให้ดีก่อนโพสต์...

สรรพสิ่งมีสองเสมอ ดี เลว ถูก ผิด อยู่ที่มนุษย์เลือกสารประโยชน์จากเทคโนโลยีเรื่องอะไร หลายคนเลือกการค้นความข้อมูลเพิ่ม บางคนสร้างงานสร้างรายได้ ติดต่อทางธุรกิจ จำนวนมากที่ใช้ติดต่อเพื่อน สร้างเครือข่ายการหาเพื่อนเพื่อสร้างประสบการณ์ สร้างปัญญา บางท่านนำมาสร้างคุณค่าให้กับสังคม มีบทธรรมะทุกวัน มีคติสอนใจ หลายท่านส่งเนื้อหาคุณค่าเป็นคลิปเรื่องราวดีๆ มหัศจรรย์โลก มิติดีๆ มีเกิดใน

รูปแบบ การส่งผ่านทาง Mail, Facebook, Twitter, Line อื่นๆ ที่สามารถเชื่อมโยงได้ การที่เข้าถึงกันด้วยปลายนิ้ว เชื่อมโยงบนโลกที่ต่างจิตใจ ภาษา วัฒนธรรม แนวคิด อุดมการณ์ทุกด้าน จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ การสร้างวาทกรรมที่นำมาซึ่งความขัดแย้งในมิติต่างกรรมต่างวาระได้ ทั้งเรื่องการเมือง สังคม ศาสนา เรื่องส่วนตัว ส่วนร่วมของคนเด่น ดัง คนเด่นดัง

บางคนใช้เป็นช่องทางที่ระบายอารมณ์ โดยขาดการไตร่ตรองว่าเมื่อคนอ่านถูกจริตอาจนำไปขยายความต่อ นำไปเป็นเหยื่อกับดักให้เกิดความขัดแย้งในสังคม

วลีจีนที่บอกมาว่า "มิตรร้อยคนน้อยไป ศัตรูคนเดียวมากไปแล้ว ไม่สร้างมิตรก็อย่าก่อศัตรู" ...เป็นวลีที่น่าตรองดู

 

ขอฝากนักสื่อสารทางโลกออนไลน์ ดังนี้

    1. ก่อนจะเขียนข้อความ คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ทบทวนอย่างน้อย 4 ครั้ง ว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน ส่วนรวม และก่อนโพสต์ยิ่งต้องคิดอย่างมาก ลองให้คนที่รักที่สุด เช่น พ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูกๆ หรือเพื่อนสนิท ให้อ่านก่อนว่าดีมีคุณค่าไหม... !
    2. ควรหลีกเลี่ยงประเด็นความขัดแย้ง ทางการเมือง ศาสนา เพราะสองเรื่องหากอุดมการณ์ต่างกันขัดแย้งกันง่าย ถ้าใจไม่กว้างพอ แต่หากมีเหตุผลดีพอ ก่อนส่งทำตามข้อที่หนึ่งอย่างเคร่งครัดอีกครั้ง
    3. ควรถือว่าการส่งอะไรไปคือส่งจากบ้านเรา Facebook, Line ฯลฯ ควรนึกเสมอบ้านเรามีญาติพี่น้องเราไม่ใช่คนตัวคนเดียวมีสังคม มีครอบครัว หากข้อที่ส่งไปเสียหาย กระทบคนแวดล้อมเราด้วย อาจจะสะใจเพียงแค่ปลายนิ้ว สักพักจะเหมือนมีคนทิ่มสิ่วกับเราและครอบครัวทุกวัน
    4. มาร่วมรณรงค์ คิดก่อนส่ง ไม่ใช่ส่งแล้วค่อยคิด สติมาปัญญาเกิด สติเตลิด เกิดแต่ปัญหา ที่สังคมวุ่นวายขึ้นโรงขึ้นศาล

ฟ้องร้องกราบขอโทษ ขอขมาลาโทษ ที่ล่วงเกินไป เสียเพื่อน เสียญาติ เสียเงิน เสียเวลา เสียน้ำตา เสียใจและสำคัญคือเสียนิสัย ที่ดีมีมารยาท ให้เกียรติผู้อื่น ผู้เขียนไม่มีสิทธิไปห้ามใคร ชีวิตใครเดินเอง ลิขิตได้ ไม่ต้องเกรงกลัวใคร แต่สังคมดำรงอยู่ด้วยกรอบกฎหมาย ระเบียบข้อบัญญัติ มีค่านิยม บรรทัดฐาน การทำ พูด อ่าน คิด เขียน ให้สาธารณชนทราบ

 

ผู้เขียนยึดหลัก "ต้องสร้างสรรค์ไม่ใช่ใช้ทำลาย" มนุษย์เกิดก็ยาก อยู่ก็ไม่ง่าย ตายทุกคน สำคัญดำรงอยู่ด้วยความทุกข์ ทำร้ายตนเองด้วยความอาฆาตมาดร้าย เป็นบ่อเกิดที่จะรังแต่ทำลายความสุขตนเองและผู้อื่น แต่หากสิ่งที่เราทำไปเพื่อดำรงความยุติธรรม ทั้งเรื่องมุมมองแนวคิด ด้วยข้อมูลหลักฐาน ช่องทางการจัดการคนไม่ดี มีหลายวิธีที่ทำให้เราเป็นพลเมืองดีได้ โดยไม่ต้องเดือดร้อน

แต่การส่งข้อมูลใดๆ ที่ทำลายกันและกัน เพื่อความสะใจ เกลียด ไม่ชอบ อคติ ขอให้รู้ไว้ว่าเรากำลังแสวงหาหนทางไม่สร้างสรรค์กับชีวิต...ฝากให้คิดก็เท่านั้น เป็นห่วงสังคมไทยถ้าเราไม่หยุดคิดมีสติ

ให้ความรัก ความสามัคคี ให้อภัยซึ่งกันและกันในวันนี้ ยังวนเวียนสับสนอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด ไม่นึกถึงปัจจุบันที่เป็นอยู่กับอนาคต ของคนรุ่นหลัง....ยังโพสต์ เสียดสี ด่าว่า อคติมายา กันอยู่อย่างทุกวันนี้ เราจะไปทางไหน

 

กราบละครับ ต้องเริ่มต้นที่เราต้องหยุดส่งเรื่องไม่สร้างสรรค์ ทำร้าย ทำลายกันเอง สังคมจะสร้างสรรค์ ...ต้องคิด มีสติก่อนโพสต์ ศรัทธาประโยชน์ ตกอยู่กับตัวเราและสยามไทยดินแดนที่ใครๆ ที่กล่าวขานว่า

   "ไทยนี้รักสงบ...แต่ถึงรบไม่ขลาด"...
     หมายถึงรบกับศัตรูนะครับ ไม่ใช่มารบกันเอง.........!!!!!

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377079200&grpid=&catid=02&subcatid=0207