ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อไหร่จะถึงเสียที?  (อ่าน 1837 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28595
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เมื่อไหร่จะถึงเสียที?
« เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 01:50:25 pm »
0

เมื่อไหร่จะถึงเสียที?
เรามาถึงไหนแล้ว?
ใกล้จะถึงหรือยัง?


ตอนคุณเดินทางไกล
เห็นเส้นทางคดเคี้ยวยืดยาวเบื้องหน้า
คงเคยเกิดอารมณ์อยากถามประมาณนั้นมาบ้าง
ตอนคุณทำงานหนักเหนื่อย
ในราตรีที่ยืดยาว เพื่อเร่งงานให้เสร็จทันกำหนด
ก็คงมีหลายขณะที่คิดถามตัวเอง
ไม่ต่างจากอยู่ระหว่างเดินทางไกล

ชาวพุทธที่เข้าใจว่า "พุทธ" คืออะไรนั้นมีน้อย
เพราะโอกาสที่จะเจอครูสอนให้รู้จัก "พุทธ" นั้นไม่มาก
พุทธแท้คือจิตตื่นจากโมหะหลับหลงมึนซึม
พุทธแท้คือจิตรู้ว่ากายใจไม่เที่ยง ไม่ใช่เรา
พุทธแท้คือจิตเบิกบานจากการผลาญเชื้อกิเลสได้สิ้นเชิง


คนที่เข้าใจอย่างนี้
และนำคำว่า "พุทธ" มาเป็นตัวตั้งของชีวิต
หาทางทำชีวิตให้เป็น "พุทธ" นั้น นับได้สักกี่คนในโลก
ในจำนวนคนน้อยเท่าน้อยนั้น
พร้อมจะตั้งตัวมองทุกสิ่งออกมาจากจิตแบบพุทธ
กล่าวคือ ขณะใดรู้สึกถึงความไม่เป็นพุทธ
เต็มไปด้วยความจ้องจะเอาของคนอื่น
จิตใจกระสับกระส่ายเร่าร้อน เกรี้ยวโกรธ คิดเบียดเบียนบีฑา
ก็จะทราบว่าเดินอยู่ผิดทางพุทธ
หรือเกิดคำถามเทียบวัดกับตนเองในวันวาร
ว่าเรามาถึงไหนแล้ว? อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึง?

บางคนถามด้วยความท้อ
บางคนถามด้วยความถอดใจ
ทว่าบางคนก็ถามอย่างมีความหวัง
อย่างน้อยที่สุดก็ถาม
จะต้น จะกลาง จะปลาย ก็เรียกว่าอยู่บนทาง
ไม่ได้ออกนอกทาง และมั่นใจว่าไม่ได้อยู่บนทางลงเหว


แต่เมื่อคำว่า "พุทธ" ไม่อยู่ในใจ
ไม่มีการเอา "พุทธ" มาเป็นตัวตั้งของชีวิตจิตใจ
ก็อาจมีเพียงความเชื่อว่าตนเป็นพุทธ
เคลือบอยู่บางๆที่ชั้นนอกสุดของความรู้สึก
ทำอย่างไร ตามใจกิเลสแค่ไหน
ก็ยังรู้สึกว่าตนเป็นพุทธได้อยู่นั่นเอง
แค่เชื่อว่าเป็นพุทธ ไม่แน่ว่าเป็นพุทธ
เหมือนดังที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า
ท่านไม่เรียกใครเป็นภิกษุเพียงด้วยการห่มผ้าเหลือง

การงานที่ทำ ทุกคำที่พูด
ตลอดจนความคิดความอ่านทั้งหมด
หากสอดคล้องกับความเป็นพุทธแล้ว
เราจะมีกิริยาที่งดงามเยี่ยงพุทธเสมอ
และนั่นเองคือเครื่องชี้ชัดว่าเป็นพุทธ
ตื่นนอนอย่างพุทธ
กราบอย่างพุทธ
เดินอย่างพุทธ
ขับรถอย่างพุทธ
สนุกร่าเริงอย่างพุทธ
เบื่อหน่ายหดหู่อย่างพุทธ
มีเรื่องอย่างพุทธ
หมดเรื่องอย่างพุทธ


ทุกอย่างที่อยู่ในชีวิตประจำวัน
จะแสดงความเป็นพุทธทั้งหมด
แม้ภายนอกคนอื่นดูไม่ออก
ก็รู้สึกได้จากภายในตนอยู่คนเดียว
เพราะพุทธแท้จะรวมลงชี้ไป
ที่ใจอันสงัดเงียบจากความวกวนฟุ้งซ่าน
สว่างโพลงด้วยความผ่องแผ้วบริสุทธิ์หมดจด

ความเป็นพุทธนั้น
เมื่อเข้าถึงเป็นปกติแล้ว
ก็เหมือนน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งความชื่นบาน
ทุกคนต่างเรียกหาอย่างกระหายหิว
ไม่ต่างจากหมู่คนที่คลาคล่ำ
ล้มลุกคลุกคลานกลางทะเลทราย
และต่างก็มองไปข้างหน้าอย่างไม่รู้
ว่าเมื่อใดจะลุถึงน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้น
เสียดายน้อยคนที่รู้
เสียดายน้อยคนที่สอน
ว่าจะเทียบระยะห่างจากความเป็นพุทธได้อย่างไร
และต้องเดินทางไปตามทิศไหนกันแน่


ดังตฤณ
กันยายน ๕๓
ที่มา  จากคอลัมภ์ จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว
ธรรมะใกล้ตัวฉบับ Lite ฉบับวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๓

 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อไหร่จะถึงเสียที?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 09:42:55 am »
0
อ่านแล้ว ก็สมเป็นบทกวีของนักเขียนที่มีชื่ออย่าง ดังตฤน

แต่ที่ชอบ ก็ภาพเป็น ใกล้ดอกบัว

มีความหมายดี พร้อมกับกลอนที่กัดกินใจ อย่างยิ่งยวด


      เราอาจจะทำพลาด ไม่ใช้สิ่งที่ได้มาเพื่อ เรื่องที่สำคัญ


              การได้เกิดมาเป็นมนุษย์  มีอาการครบ 32

                    การได้เกิดบนผืนแผ่นดิน ที่มีธรรม อย่างประเทศไทย


                        การได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา

                               การได้พระอริยะมาเป็นอาจารย์

                                             การที่ยังมีิชีิวิตอยู่ ไม่อัตคัตขัดสน


                                แค่ที่กล่าวมา สำหรับครูอย่างฉัน ก็ถือว่ามีคุณค่า มากแล้ว


         แล้วเราต้องเกิดมาทำไม ?

            เรากำลังทำอะไรอยู่ ?

บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร