ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แฉ.! ผีช่วยผู้โดยสาร ขนหัวลุก สาวชุดไทยห่มสไบ  (อ่าน 1298 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


แฉผีช่วยผู้โดยสาร ขนหัวลุก สาวชุดไทยห่มสไบ

หึ่งบินไทย-สุวรรณภูมิ ขณะแอร์บัสไถลรันเวย์ อดีตผอ.ทอท.ก็ยอมรับ

ฮือฮา ว่อนการบินไทย-สนามบินสุวรรณภูมิ หลังผู้โดยสารการบินไทยเที่ยวบินไถลออกนอกรันเวย์ระบุมีแอร์โฮสเตสแต่งชุดไทย ห่มสไบ เข้าช่วยเหลือผู้โดยสาร ทั้งที่พนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินดังกล่าวยืนยันไม่มีใครแต่งชุดไทย  ขณะที่อดีตผู้บริหาร  ทอท.ยอมรับมีเรื่องชวนขนหัวลุกจริง พร้อมแฉที่มาของการตั้งศาลเจ้าที่ 6 แห่งรอบสนามบิน ลูกน้องมาร้องเรียนถูกผีหลอกประจำ และช่วงทำพิธีสงฆ์เปิดสนามบิน จู่ๆ “พ่อปู่มิ่ง” มาเข้าร่างพนักงานให้สร้างศาลเพียงตาให้อยู่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุปั่นป่วน

เรื่องลี้ลับเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินของการบินไทยไถลออกนอกรันเวย์  กำลังเป็นที่โจษขานในโลกออนไลน์ขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่า จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินแอร์บัสเอ 330-300 ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบิน ทีจี 679 เกิดอุบัติเหตุไถลออกจากทางวิ่งเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

โดยบุคคลซึ่งระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าว นั่งอยู่ตรงกลางด้านซ้ายหมายเลข 42 บี บอกเล่าผ่านรายการวิทยุรายการหนึ่งเกี่ยวกับบรรยากาศช่วงที่มีการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องอย่างโกลาหล ว่าช่วงเกิดเหตุชุลมุนไม่ปรากฏว่ามีลูกเรือคนใดแสดงความห่วงใยให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในช่วงที่เกิดเหตุจนช่วงสิ้นสุดเหตุการณ์  เท่าที่สังเกตเห็นมีเพียงแอร์โฮสเตสที่แต่งชุดไทยเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่พยายามให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร ในขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเที่ยวดังกล่าว สวมชุดยูนิฟอร์มสีม่วงในช่วงที่เครื่องบินทำการบินลง



ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังจากข้อความดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ได้สร้างความประหลาดใจและชวนขนลุกให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่ของบริษัทการบินไทยเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงและพนักงานการบินไทยยังจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น

โดยเมื่อสอบถามพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินลำดังกล่าว ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าในคืนวันที่เกิดเหตุแอร์โฮสเตสทุกคนใส่ชุดเสื้อแขนสั้นกระโปรงสั้น ไม่มีใครใส่ชุดไทยห่มสไบ และเมื่อรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนเห็นตรงกันว่าหญิงสาวในชุดไทยห่มสไบคนดังกล่าวอาจจะเป็นสิ่งศักดิ์– สิทธิ์  เทพยดา นางฟ้าของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้โดยสารทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จุดที่เกิดเหตุเครื่องบินการบินไทยไถลออกนอกรันเวย์ เป็นพื้นที่บริเวณรันเวย์ตะวันออกด้านใต้ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีดับเพลิงและกู้ภัย  เป็นอาคารที่รวมที่พักของพนักงานเอาไว้ด้วย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานและเข้าเวรในช่วงกลางคืนมักเจอเหตุการณ์ประหลาด หรือพบเห็นผู้หญิงสวมชุดไทยโบราณเดินไปมาในบริเวณห้องพัก หรือมีเสียงดังรบกวนตลอดเวลา เป็นต้น



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายโชติศักดิ์  อาสภะวิริยะ  อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเนื่องจากได้เข้ามาบริหารงานในช่วงก่อนเปิดสนามบิน ปรากฏว่าพนักงานชุดแรกที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณศูนย์ดับเพลิงมาร้องเรียนกับตนว่าถูกผีหลอกเป็นจำนวนมากทั้งกลางวันและกลางคืน

รวมทั้งยังประสบปัญหาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ครั้งใหญ่มีผู้บาดเจ็บ 30 คน และช่วงนั้นพบว่าถนนทางเข้าสนามบินบริเวณติดกับรันเวย์ตะวันออกก็มีผู้ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง  ทำให้ตนตัดสินใจทำพิธีสร้างศาล รวม 6 แห่ง และให้พนักงานสวดมนต์ทุกวันเสาร์ และมีพิธีทำบุญใหญ่

นายโชติศักดิ์กล่าวว่า ในพิธีทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2549 ก่อนที่จะเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการ ได้นิมนต์พระ 99 รูป สวดพระปริตรและสวดกัมมวาจา 8 ทิศ (ทิศตะวันออก บริเวณอาคารเอเอ็มเอฟ ทิศตะวันออก–เฉียงใต้ บริเวณสถานีกรมอุตุนิยมวิทยา ทิศใต้ บริเวณรันเวย์ตะวันออกและสถานีดับเพลิง ทิศตะวันตก–เฉียงใต้ บริเวณทางต่างระดับถนนกิ่งแก้ว ทิศตะวันตก บริเวณรอบเขื่อน และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บริเวณรอบเขื่อนด้านบน ทิศเหนือ บริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณบัสเทอร์มินอล)

รวมถึงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของเจ้าที่เจ้าทางต่างๆ ที่อยู่รอบบริเวณสนามบินฯ ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมากันแต่โบราณ


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

นายโชติศักดิ์กล่าวว่า ระหว่างที่พระกำลังสวดพระพุทธมนต์ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อนายขวัญชัย ทับโต พนักงานตรวจค้นวัตถุระเบิดของบริษัทล็อกซเล่ย์ ที่รับสัมปทานงานตรวจค้นวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ เกิดอาการตัวสั่นเหมือนผีเข้าในช่วงที่ก้มลงกราบพระ ใบหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ จากนั้นก็นั่งหลังงองุ้มเหมือนคนแก่ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่าเป็น “พ่อปู่ชื่อมิ่ง”

และบอกว่าไม่เคยมีใครสนใจเลย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และขอให้ตั้งศาลเพียงตาให้เพราะไม่มีที่อยู่ จะตั้งจุดใดก็ได้ และยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ตั้งศาลให้จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายปั่นป่วนมากกว่านี้ เมื่อพระรูปหนึ่งที่ทำพิธีสวดมนต์อยู่รับปากว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตั้งศาล ถวายสิ่งของและอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อปู่มิ่ง ชายคนดังกล่าวก็เป็นลมหมดสติล้มลงคอพับคออ่อนทันที จากนั้นไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ แต่มีอาการที่อ่อนเพลีย




คลิป ขนหัวลุก! ผีสาวชุดไทย ห่มสไบ ช่วยผู้โดยสาร กรณีบินไทยไถลรันเวย์
เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD ThaiTV

นายโชติศักดิ์ยังยอมรับว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่สิ่งที่ประสบกับตัวเองแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในฐานะคนไทยต้องยอมรับและเคารพวัฒนธรรมประเพณีความเชื่อของคนไทย เรื่องอย่างนี้ถ้าใครไม่เห็นกับตาคงไม่มีใครเชื่อ เพราะสถานที่ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้เป็นที่ที่มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก เท่าที่ทราบมาเคยเป็นสถานที่พักกองทัพของพระเจ้าตากสินมหาราช 

ดังนั้นในสมัยนั้นมีการตั้งศาลเจ้าที่ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ 6 ศาล คือ 1. ศาลพญาอนันตนาคราช 2. ศาลพญามุจลินท์นาคราช 3. ศาลท่านท้าววิรุปักเขมมหานาคราชเจ้า 4. องค์นาคาธิบดี “ศรีสุทโธ” วิสุทธิเทวา 5. ศาลพระเจ้าตาก และ 6. ศาลพ่อแก่มิ่ง


 ans1 ans1 ans1

อดีตผู้บริหาร ทอท.กล่าวด้วยว่า ที่ตั้งสำนักงานเดิมในช่วงที่มีการก่อสร้างสนามบิน เป็นจุดที่พนักงานที่เข้ามาทำงานในขณะนั้นส่วนใหญ่มักพบกับสิ่งแปลก เช่น ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องโหยหวน พบเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยเดินไปมา หรือมีเสียงต่างๆรบกวนสร้างความหวาดกลัวให้กับคนทำงานเป็นอันมาก หรือแม้แต่บริษัทผู้รับเหมาเอกชนที่เข้ามารับงานด้านการถมทรายก็เจอปัญหาเช่นกันคือ ไม่สามารถนำเครื่องมือเข้ามาตั้งในพื้นที่ก่อสร้างได้

เมื่อตั้งก็ทรุดลงไปในพื้นดิน จนมีผู้แนะนำให้ตั้งศาลและบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ผลปรากฏว่าสามารถตั้งเครื่องมือได้ และหลายๆพื้นที่ในช่วงก่อสร้างก่อนทำงานส่วนใหญ่จะต้องมีการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เพราะให้ดำเนินการปรากฏว่ามีปัญหาในการทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ และยากต่อการพิสูจน์ แต่ทุกคนก็ไม่ลบหลู่ และเห็นว่าเมื่อทำตามแล้วก็ทำให้งานราบรื่นได้


 :25: :25: :25:

ทั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องเร้นลับหรือเรื่องเหลือเชื่อเกี่ยวกับความแรงหรือความเฮี้ยนของพื้นที่ตั้งสนามบินสุวรรณภูมิ หรือที่เรียกว่าสนามบินหนองงูเห่า มีความเชื่อกันว่าสาเหตุที่ทำให้การดำเนินโครงการนี้ประสบอุปสรรคปัญหามาโดยตลอด ใช้เวลายาวนานมากเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2503 แล้วเสร็จเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2549 รวมทั้งสิ้น 46 ปี

เพราะเชื่อว่าไม่มีการทำพิธีกรรมในการแจ้งบอกเจ้าที่หรือดวงจิตดวงวิญญาณที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นหนองน้ำเดิม จนกระทั่งในสมัยนายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพฯแห่งใหม่ (บทม.)ซึ่งรับผิดชอบงานก่อสร้างสนามบิน ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการก่อสร้างศาลเทพารักษ์ ตามคำแนะนำของผู้รู้ในเรื่องนี้ เพื่อเป็นแหล่งรวมของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่แห่งนี้


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/newspaper/369505
http://www.bangkokbiznews.com/
http://hilight.kapook.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ