ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "มังคลโกหาหล" เกิดขึ้นแล้วในโลก  (อ่าน 2899 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"มังคลโกหาหล" เกิดขึ้นแล้วในโลก
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2013, 10:17:02 am »
0


โกลาหลมี ๕ อย่าง
 
             
      ชื่อว่าโกลาหลมี ๕ อย่าง คือ
           - กัปปโกลาหล ๑
           - จักกวัตติโกลาหล ๑
           - พุทธโกลาหล ๑
           - มังคลโกลาหล ๑
           - โมเนยยโกลาหล ๑.

      :96: :96: :96:

     ในบรรดาโกลาหลเหล่านั้น พวกเทพชั้นกามาวจรสนานเกล้า สยายผม ร้องไห้น้ำตานองหน้า ใช้มือเช็ดน้ำตา นุ่งห่มผ้าสีแดง ถือเพศที่แปลกๆ อย่างยิ่ง เที่ยวบอกไปในถิ่นมนุษย์ว่า
     โดยกาลล่วงไปแสนปี กัปจักสิ้น โลกนี้จักพินาศ และมหาสมุทรจักเหือดแห้ง มหาปฐพีนี้และภูเขาสิเนรุราช จักไหม้พินาศ ความพินาศแห่งโลกจักมีถึงพรหมโลก
     แน่ะท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงเจริญเมตตา กรุณา มุทิตาและเจริญอุเบกขาเถิด
     ท่านทั้งหลายจงบำรุงเลี้ยงมารดาบิดา ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล จงตื่นอย่าประมาท.
     นี้ชื่อว่า กัปปโกลาหล.

               
     เทวดาชั้นกามาวจรนั้นแหละเที่ยวบอกไปในถิ่นมนุษย์ว่า
     โดยกาลล่วงไป ๑๐๐ ปี พระเจ้าจักรพรรดิจักทรงอุบัติขึ้นในโลก.
     นี้ชื่อว่า จักกวัตติโกลาหล.


     ส่วนเทพเจ้าชั้นสุทธาวาสทั้งหลาย ประดับประดาด้วยพรหมาภรณ์ กระทำผ้าโพกศีรษะสำหรับพรหมไว้บนเศียร เกิดปีติโสมนัสระลึกถึงพุทธคุณ เที่ยวบอกไปในถิ่นมนุษย์ว่า
     โดยกาลล่วงไป ๑,๐๐๐ ปี พระพุทธเจ้าจักทรงอุบัติขึ้นในโลก.
     นี้ชื่อว่า พุทธโกลาหล.


     พวกเทพเจ้าชั้นสุทธาวาสนั้นเองทราบวาระจิตของมนุษย์แล้ว ก็เที่ยวบอกไปในถิ่นมนุษย์ว่า
     โดยกาลล่วงไป ๑๒ ปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจักตรัสมงคล.
     นี้ชื่อว่า มังคลโกลาหล.


    เทพเจ้าทั้งหลายชั้นสุทธาวาสนั้นแล เที่ยวบอกไปในถิ่นมนุษย์ว่า
     โดยกาลล่วงไป ๗ ปี ภิกษุรูปหนึ่งจักประชุมพร้อมกันกับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วทูลถามโมเนยยปฏิปทา.
     นี้ชื่อว่า โมเนยยโกลาหล.


      :25: :25: :25:

     ในบรรดาโกลาหลทั้ง ๕ ประการเหล่านี้ มังคลโกหาหลนี้เกิดขึ้นแล้วในโลก ในเมื่อพวกเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายแตกกันเป็น ๓ พวกด้วยสามารถแห่งทิฏฐมงคล เป็นต้น.





     ครั้งนั้น เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายและมนุษย์ทั้งหลายค้นหากันแล้วๆ ไม่ได้มงคลทั้งหลายอยู่ โดยล่วงไป ๑๒ ปี เทวดาทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ก็มาประชุมพร้อมกัน คิดร่วมกันอย่างนี้ว่า
     ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย เจ้าของเรือน (พ่อเจ้าเรือน) ย่อมบอกเนื้อความแก่พวกชนในเรือน, นายบ้าน ย่อมบอกเนื้อความแก่ชนทั้งหลายผู้อยู่ในบ้าน, พระราชาย่อมตรัสบอกเนื้อความแก่พวกมนุษย์ทั้งปวงแม้ฉันใด ท้าวสักกะจอมเทพนี้ซึ่งเป็นผู้เลิศและประเสริฐ คือ เป็นอธิบดีแห่งเทวโลกทั้งสอง ด้วยบุญ ด้วยเดช ด้วยความเป็นใหญ่ (และ) ด้วยปัญญา ไฉนหนอ พวกเราจะพึงบอกเนื้อความนี้แก่ท้าวสักกะจอมเทพฉันนั้นเหมือนกัน.


      :sign0144: :sign0144: :sign0144:

     เทวดาเหล่านั้นจึงพากันไปยังสำนักของท้าวสักกะ ถวายบังคมท้าวสักกะจอมเทพผู้มีพระวรกายอันเป็นสิริ ประดับด้วยฉลองพระองค์และอาภรณ์ แวดล้อมด้วยหมู่นางอัปสร ๒ โกฏิกึ่ง ผู้ประทับนั่งแล้วบนแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ที่โคนต้นปาริฉัตร ตามสมควรแก่ขณะนั้น ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลเนื้อความนี้ว่า

     ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ขอเดชะ ขอพระองค์พึงทราบเถิดว่า บัดนี้ มงคลปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว (คือ) เทวดาและมนุษย์พวกหนึ่งกล่าวว่าสิ่งที่เห็นแล้วเป็นมงคล พวกหนึ่งกล่าวว่าสิ่งที่ได้ฟังแล้วเป็นมงคล อีกพวกหนึ่งกล่าวว่าสิ่งที่ได้ทราบแล้วเป็นมงคล. ในบรรดาทั้ง ๓ พวกนั้น พวกข้าพระองค์และพวกอื่นก็ตกลงกันไม่ได้ ดังพวกข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระองค์ทรงพยากรณ์ (มงคลปัญหา) แก่พวกข้าพระองค์ตามความเป็นจริงเถิด.

      :s_good: :s_good: :s_good:

    เทวราชแม้โดยปกติทรงมีปัญญา ตรัสถามว่า มงคลคาถานี้เกิดที่ไหนก่อน.
     เทวดาทั้งหลายก็ทูลว่า พวกข้าพระองค์ได้ฟังมงคลปัญหานี้ของพวกเทพชั้นจาตุมมหาราช ต่อจากนั้นเทวดาทั้งหลายก็ทูลว่า พวกเทพเจ้าชั้นจาตุมมหาราชทั้งหลาย (ได้ฟังปัญหา) ของพวกอากาสัฏฐเทวดา พวกอากาสัฏฐเทวดาก็ได้ฟังปัญหาของพวกภุมมเทวดา พวกภุมมเทวดาก็ได้ฟังปัญหาของพวกเทวดาผู้รักษามนุษย์ พวกเทพยดาซึ่งรักษามนุษย์ก็กล่าวว่า ปัญหาตั้งขึ้นแล้วในมนุษย์โลก.

     ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพจึงตรัสถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า (ขณะนี้) ประทับอยู่ที่ไหน.
     พวกเทวดาทั้งหลายก็กราบทูลว่า ข้าแต่เทวะ พระองค์ประทับอยู่ในมนุษยโลก.
     ท้าวสักกะตรัสถามว่า ใครได้ทูลถามปัญหานั้นกะพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.
     เทพยดาทั้งหลายทูลว่า ข้าแต่เทวะ ยังไม่มีใครทูลถาม.

     ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย เพราะเหตุไรหนอแล พวกท่านจึงละเลยพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นผู้แสดงมงคลที่ไม่มีส่วนเหลือ แล้วสำคัญเราว่าเป็นผู้ควรถาม ชื่อว่าทิ้งไฟเสียแล้ว มาใช้แสงหิ่งห้อย.
     ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย พวกท่านจงไป จงทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พวกท่านก็จักได้การตอบปัญหาซึ่งมีสิริ (มีคุณค่า) อย่างแน่นอน.
    ท้าวสักกะเทวราชจึงตรัสสั่งเทพบุตรองค์หนึ่งว่า ท่านจงทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า.


     ans1 ans1 ans1

    เทพบุตรองค์นั้นประดับองค์ด้วยเครื่องอลังการตามสมควรขณะนั้น โชติช่วงอยู่ประดุจสายฟ้า มีหมู่เทพแวดล้อมมายังพระมหาวิหารเชตวัน กราบถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง เมื่อจะทูลถามมงคลปัญหา จึงได้กล่าวด้วยคาถา...ฯลฯ..

_____________________________________________
อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต จูฬวรรค มงคลสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=317
ขอบคุณภาพจาก http://www.84000.org/tipitaka/picture/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "มังคลโกหาหล" เกิดขึ้นแล้วในโลก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2013, 06:00:03 am »
0
 st11 st12
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "มังคลโกหาหล" เกิดขึ้นแล้วในโลก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2013, 06:50:01 am »
0
 st11 st12 thk56
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ