พิมพ์

[raponsan]

14 ก.พ. ห้ามพระเณรขับ-ขี่รถ

คณะสงฆ์หนเหนือเดินหน้าประกาศห้ามพระ-เณรขับรถ คาดมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 14 ก.พ. แต่โทษไม่หนักแค่ว่ากล่าวตักเตือน ไปจนถึงสั่งระงับห้ามขอสมณศักดิ์ 1-3 ปี

วันนี้(8 ก.พ.) พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน)ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในฐานะเจ้าคณะภาค 5 (พิษณุโลกสุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก) ฝ่ายมหานิกาย เปิดเผยว่าตามที่ที่ประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์หนเหนือเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะสงฆ์หนเหนือ เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์และระเบียบคณะสงฆ์หนเหนือว่าด้วยการห้ามพระภิกษุสามเณร ขับรถยนต์หรือจักรยานยนต์พ.ศ.2557 โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1), (2), (5) แห่งกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 23 พ.ศ.2541 ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์หนเหนือนั้น เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา

ได้มีการประชุมหารือเพื่อปรับแก้รายละเอียดอีกเล็กน้อยโดยปรับลดการลงโทษในกรณีที่พระสังฆาธิการ ขับรถยนต์ หรือจักรยานยนต์และมีผู้ประสบอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเดิมที่จะไม่ให้เสนอขอสมณศักดิ์เป็นเวลา 5 ปีได้ปรับมาเป็น 3 ปี โดยหลังจากนี้จะมีการเสนอร่างประกาศดังกล่าวให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ พิจารณาประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ก.พ. นี้ จากนั้นจะมีผลบังคับใช้ในทันที อย่างไรก็ตามประกาศดังกล่าวจะมีผลเฉพาะในเขตปกครองคณะสงฆ์หนเหนือเท่านั้น

 

พระพรหมโมลี กล่าวต่อไปว่า เมื่อประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ยอมรับว่าจะเกิดผลกระทบกับพระสงฆ์บางรูปแต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อพบพระสงฆ์ขับรถแล้วจะมีความผิดในทันที เนื่องจากทางเจ้าคณะผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่จะต้องสอบถามถึงสาเหตุและความจำเป็นก่อน ทั้งนี้ให้อยู่กับดุลยพินิจของเจ้าคณะผู้ปกครองเป็นหลัก ส่วนกรณีพระสงฆ์ที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ก็ให้ใช้วิธีการลงขันกันหลายๆรูปเพื่อว่าจ้างรถรับจ้างให้คอยไปรับส่ง ระหว่างมหาวิทยาลัยกับวัดแต่ละวัดซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างประกาศคณะสงฆ์หนเหนือ เรื่องห้ามพระภิกษุสามเณรขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์และระเบียบคณะสงฆ์หนเหนือว่าด้วยการห้ามพระภิกษุสามเณร ขับรถยนต์หรือจักรยานยนต์พ.ศ.2557 มีเนื้อหาหลักคือการห้ามพระภิกษุสามเณรขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนนหรือที่สาธารณะยกเว้นการทำงานในวัด แต่ให้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าอาวาส

หากพระภิกษุสามเณรละเมิดประกาศนี้ ให้เจ้าอาวาสว่ากล่าวตักเตือนหากยังทำผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 และ 3 ให้ลงโทษตามสมควรและรายงานความผิดไปยังเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะจังหวัดตามลำดับ หากผู้ที่กระทำความผิดเป็นพระสังฆาธิการตั้งแต่ระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาสขึ้นไป เมื่อได้มีการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว 3 ครั้ง ยังกระทำความผิดอีก จะถูกลงโทษโดยระงับการขอตำแหน่งและสมณศักดิ์เป็นเวลาตั้งแต่1-3 ปี

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/214732/14ก.พ.ห้ามพระเณรขับ-ขี่รถ