ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "หลวงพ่อ"...เป็นห่วง  (อ่าน 959 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
"หลวงพ่อ"...เป็นห่วง
« เมื่อ: มีนาคม 28, 2014, 07:11:04 pm »
0


"หลวงพ่อ"...เป็นห่วง
โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อวันเสาร์ ที่ 15 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสไปกราบนมัสการ หลวงพ่อจรัญ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้พูดคุยเกี่ยวกับบ้านเมืองเล็กน้อย ท่านได้ปรารภถึง "ข้าราชการไทย" ว่าน่าเป็นห่วงหลายเรื่อง โดยเฉพาะข้าราชการ ซึ่งเป็นข้าราชการใน "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ของเรา และได้เงินเดือนจากภาษีของประชาชน

ปัจจุบันนี้ "ข้าราชการ" เป็นกลุ่มใหญ่ที่มีความสำคัญในอันที่จะจรรโลงประเทศให้อยู่รอดปลอดภัย เป็นที่พึ่งของประชาชน ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร และปฏิบัติราชการอย่างมีคุณธรรม เฉกเช่นเดียวกับที่ "ข้าราชการ" ต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับการที่พระองค์ปกครองประเทศชาติภายใต้ "ทศพิธราชธรรม" พระองค์ท่านทรงมีพระจริยาวัติที่งดงามปฏิบัติต่อปวงประชาชนทุกระดับอย่างเป็นธรรม ถูกต้อง ทั่วถึง ทั้งประเทศ จวบจนทุกวันนี้ ดังเป็นที่ปรากฏ ทรงได้รับการยกย่องและยอมรับจากองค์กรของนานาชาติ อาทิ องค์การสหประชาชาติ (UN) องค์การอนามัยโลก (WHO) โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง"


 :25: :25: :25:

ท่านหลวงพ่อจรัญได้ให้หนังสือผู้เขียนมาเล่มหนึ่ง ชื่อว่า "พัฒนาคุณธรรมของข้าราชการ" เพื่อยกระดับจิตใจ ซึ่งได้พิมพ์มาเกือบ 30 ปี และมีข้อมูลของท่านศิริ เกวลินสฤษดิ์ อธิบดีกรมแรงงาน เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2532 ได้บันทึกข้อความตามหนังสือ "ผมเองเห็นว่าราชการที่ดีนั้น นอกจากจะมีความรู้ ความสามารถที่ดีแล้วยังต้องมีคุณธรรมประจำตัว จึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตราชการ"

หลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้บันทึกสาระสำคัญมากว่า 27 ปี แล้วว่า....

การพัฒนา : ประชาชนในผืนแผ่นดินไทยของเรา ประมาณ 47 ล้านคนเศษ (ขณะนี้ 64 ล้านคนเศษแล้ว 27 ปี ประชากรเพิ่มอีก 17 ล้านคน) ประชาชนที่น่าเป็นห่วง คือ มวลชนที่ตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ในถิ่นทุรกันดารและกลุ่มชนที่ยากไร้ ขาดปัจจัยสี่ เมื่อเขาได้เข้าไปเยี่ยมดูและก็จะรู้สึกเช่นว่านั้นอย่างสมจริง เพราะความทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก เครื่องอุปกรณ์บำรุงความสุขต่างๆ ไม่มี เป็นที่ประหลาดใจไหมท่าน เมื่อเราได้สนทนาถึงธาตุแท้หยั่งถึงในหัวใจของเขาแล้ว ก็จะปรากฏเห็นชัดจากรอยยิ้มที่ริมฝีปากของเขา ประกอบทั้งแววตาที่สุกสกาวที่บ่งบอกถึงความสุขใจ ที่เป็นไปโดยธรรมชาติธรรมดาอย่างไม่ต้องฝืนใจแต่ประการใด

 :96: :96: :96:

มวลชนที่เรียกตนเองว่า "คนเมือง" อยู่ในที่อันเจริญด้วยแสงสี ยวดยานการคมนาคมสะดวก อุปกรณ์สุขภัณฑ์พร้อมมูลเรียกว่า สามารถเสพสุขได้ตามที่ปรารถนาสุด แต่ตัณหาและกิเลสจะชักจูงลากไป ผู้ที่ "ขาดสติยับยั้ง" ไม่คอยปรามและข่มกิเลสที่เป็นมารมาคอยกระซิบบ่อยๆ ว่า "อย่าทำอย่างนั้นเถอะ ทำอย่างนี้เถอะ" ล้วนสนุกสนานทั้งนั้น พากันตกหลุมพรางของ "กิเลส" ที่แสนจะเพลิดเพลิน

"กิเลส" บางตัวเย้ายวนกวนใจอย่างลึกซึ้ง ผูกมัดรัดหัวใจให้สงบลงอยู่แทบ "เท้า" เคยรักกันสนทนากัน "รู้เรื่อง" แต่มาบัดนี้ "พูดกันไม่รู้เรื่อง" เพราะ "อำนาจของกิเลส" ที่มาพราก เราให้เห็นต่างไปทุกชั้นทุกระดับ แม้ครอบครัวและรากหญ้า เหล่านี้เป็นเพียงสภาพธรรมดาๆ ที่ กำลังจะว่าไม่ธรรมดา ของคนเมืองสู่สถาบันครอบครัว และรากหญ้าทั่วทุกหย่อมหญ้าของประเทศไทย


 st12 st12 st12

หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่าน ผู้เขียนได้ฟัง เห็น อ่านสื่อ เกือบทุกประเภท รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์หัวสีต่างๆ ได้เสนอแสดงออกมา แม้แรกๆ ก็เสนอข่าวสารเอนเอียงกันไปอีกข้างอย่างเมามัน แต่ ณ วันนี้ เวลานี้ เหตุการณ์ต่างๆ ก็กระชับมาตามลำดับสอดคล้องกับคำพยากรณ์ของพระอาจารย์โหราจารย์ทุกๆ สำนัก ตั้งแต่ดวงเมือง เลข 7, 12 ตัว ไพ่ยิปซี นั่งทางในต่างๆ แนวโน้มพยากรณ์จะสอดคล้องในทางเดียวกัน ซึ่งบางสื่อไม่เคยพูดถึง "หายนะ" ไม่เคยระบุต้อง "หันหน้ามาเจรจากัน หันหน้ามาปรึกษาหารือกัน" บัดนี้สื่อมวลชนทุกแขนงได้สื่อสารออกมาด้วยความห่วงใยบ้านเมือง เกรงว่า คนไทยด้วยกันจะห้ำหั่นกัน เกิดการเกลียดชังกันจนนำไปสู่สงครามกลางเมือง เหมือนระวันดา

แม้แต่ท่านอาจารย์ ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ท่านพูดทางสื่อเสมอๆ ว่า "ระบบประชาธิปไตย" เป็นสิ่งที่ดี ต้องดำเนินให้ถูกต้อง เป็นธรรม การมีส่วนร่วม ภาคประชาชนตามสากลปฏิบัติโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเฉพาะสื่อสารแบบกระสุนปืน "Magic Bullet Theory" หรือการสื่อสารแบบสร้างหรือกำหนดสถานการณ์ให้เกิดขึ้น (Agenda Setting) นั้นสำคัญเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ หาไม่แล้วข้อมูลที่ได้ ไม่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน นั่นคือ ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ หรือเทาเทา แต่ละข้างเอนเอียง 100% ก็จะเกิดม่านกำแพงทับบังตา ทำให้ห้ามหั่นฆ่ากันได้ ด้วยคนไทยด้วยกันเอง อาจารย์เสนอว่าขอให้ข้อมูลที่เป็นจริง ถูกต้อง แก่ผู้รับสื่อ (Receiver) ซึ่งก็คือ "ประชาชน"

 :49: :49: :49:

ทุกคนก็ต้องใช้วิจารณญาณไตร่ตรอง แยกแยะข้อมูลให้ดีก่อนจะเชื่ออะไรหรือตัดสินใจอย่างไรก็ตาม แต่ท้ายสุด ข้อเสนอของทุกสื่อได้เสนอให้ "กลุ่มขัดแย้ง" ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดใจเข้าปรึกษาหารือกัน ด้วยความจริงใจบริสุทธิ์ใจ เพื่อประเทศชาติ เพื่อ "พ่อหลวง" ของเราจะได้เกิดสันติสุข

หลวงพ่อจรัญให้ข้อคิด "สติ" ตัวยั้งคิด ตัวรู้จักยับยั้งชั่งใจ จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการครองชีวิตในสังคมปัจจุบัน ได้สะท้อนภาพสำนึก จากมวลชนที่อยู่ในระดับ "ผู้บริหารแผ่นดิน" ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "ข้าราชการการเมือง" และหรือ "ข้าราชการ" ของแผ่นดิน?.

ผู้เป็นข้าราชการนั้นแล้วเป็นผู้มีพื้นฐานการศึกษาดีพอควร (อย่างน้อยก็ปริญญาตรีขึ้นไป) พร้อมทั้งมีวุฒิเข้าขั้นมาตรฐานของหน้าที่การงานเป็นอย่างดี ส่วนมากคนต้องการเป็นข้าราชการเพราะเป็นงานที่มีเกียรติสุดทั้งแก่ตนเองและวงศ์สกุล ไม่ว่างานนั้นจะเป็นข้าราชการสามัญ ข้าราชการเมือง รัฐวิสาหกิจก็ตาม เป็นสิ่งดีทั้งนั้น ดูๆ ก็มีหน้ามีตา มีเกียรติศักดิ์ศรีสมจริง


 :32: :32: :32:

แต่ข้อเท็จจริงวันนี้ เราคนไทย 64 ล้านคน ต้องหันหลังกับมาดู "ข้อห่วงใย" ของหลวงพ่อจรัญ และ อธิบดีกรมแรงงาน ได้บันทึกไว้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2532 ที่ท่านพูดมา 27 ปี แล้วว่าคนไทย ข้าราชการต้องมีสติ มีคุณธรรม จริยธรรม ติด "เบรกชีวิต" คิด ทำให้ดี รอบคอบ มีสติก่อนตัดสินใจ อย่าวู่วามของทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง กลุ่มข้าราชการ กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มประชาชน ต้องมาไตร่ตรองอีกครั้งหนึ่งจะดีกว่าเกิดสงครามกลางเมือง นำหายนะมาสู่ประเทศเรา

ผู้เขียนไคร่ขอนำพระบรมราโชวาท ของพระเจ้าแผ่นดินของเรา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อครบ 200 ปี กรุงรัตนโกสินทร์

 ans1 ans1 ans1

"คุณธรรมที่ทุกคนควรปฏิบัติ"
1.การรักษาความสัจ ความจริงใจต่อตนเอง ที่จะประพฤติปฏิบัติต่อสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม
2.การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัจความดีนั้น
3.การอดทน อดกลั้น และอดออมที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต
4.การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริตและรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง


หลวงพ่อจรัญ บอกว่า "หลักชีวิต" (แก่นชีวิต) ชีวิตที่เตรียมพร้อม มี 3 เสาหลัก
1.วิชาการ - ความรู้ (ความรอบรู้)
2.ประสบการณ์ - รู้เห็นมาก (รัตตัญญู)
3.ปฏิบัติการ - ภาคปฏิบัติที่ดีเด่น ถูกต้องทันเหตุการณ์
4.จุดยืนที่มั่นคง
    ก.จุดยืน ทางความคิด
    ข.จุดยืน ทางวิชาการ
    ค.จุดยืน ทางปฏิบัติการ


หลักปฏิบัติเพื่อชีวิตมี 5 ข้อ
1.ยึดหลัก กฎของกรรม เป็นแนวทางปฏิบัติ
2.รู้จักใช้ความคิด
3.การริเริ่มงานที่ดี และใหม่อยู่เสมอ
4.การรู้จักทำ ทำด้วยรู้ ทำด้วยประหยัด ทำได้ดี ทำให้ทันต่อเวลา
5.ทันเหตุการณ์ ทันสมัย


หลักใจเพื่อความมั่นคงมี 3 ประการ
1.ใฝ่รู้ - วิชาใหม่เสมอ ทันต่อเหตุการณ์
2.ขยัน ซื่อสัตย์ กตัญญู มีความภักดีและใฝ่สันติ
3.มีมโนธรรมสูง (ไม่ใจต่ำ)


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

ท้ายสุด วันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวัน "ข้าราชการพลเรือน" ของทุกปี ที่กำลังจะมาถึงในอีก 5-6 วัน ข้างหน้า ผู้เขียนขอแสดงความยินดีภูมิใจกับเพื่อนข้าราชการที่ได้รับรางวัล "ครุฑทองคำ" เหนืออื่นใด ขอให้ข้าราชการทุกภาคส่วน ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราก็จะได้ชื่อว่าเป็น "คนไทย" ที่ดีมีความกตัญญูกตเวทีต่อแผ่นดินไทย ของเราก็น่าจะเพียงพอ และเชื่อว่าความสุขสันติภาพก็จะกลับมาโดยเร็ว ก็ด้วยพลานุภาพแห่งองค์พระสยามเทวาธิราชของเรา ประทานพรมาให้คนไทยทั้งประเทศโดยเร็วนะครับ


ที่มา:มติชนรายวัน 26 มี.ค.2557
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1395826442&grpid=&catid=02&subcatid=0207
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ