โรคติดโทรศัพท์มือถือ (ชมคลิป)
หลายๆ คนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชีวิตประจำวันของพวกเขาไม่อาจขาดโทรศัพท์มือถือได้ ทุกวันนี้หันไปทางไหน เราจึงเห็นผู้คนอยู่ใน “สังคมก้มหน้า” จดจ่อ จนแทบไม่สนใจคนรอบข้าง...
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดโรคสมัยใหม่ ที่เรียกว่า โรคโนโมโฟเบีย หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือ โรคติดโทรศัพท์มือถือ
นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่ติดเพื่อนแทบจะ 24 ชั่วโมง อยู่คนเดียวแล้วรู้สึกเหงา เบื่อ จึงมีมือถือเป็นเพื่อน และใช้ในการติดต่อเพื่อนวัยรุ่นเป็นโรคติดโทรศัพท์มือถือ
ถ้าอยากทราบว่า เรามีอาการติดสมาร์ทโฟนขั้นสาหัส เข้าข่ายโรคโนโมโฟเบียหรือไม่ แนะนำให้สังเกตง่ายๆ แบบนี้!
หยิบโทรศัพท์มาเช็กทันทีที่มีเสียงเตือน แม้ว่าจะยุ่งแค่ไหน คุณก็จะละทิ้งภารกิจทุกอย่างลงทันทีเช็กทันทีที่มีเสียงเตือน
ก่อนทานอาหารต้องถ่ายรูปอาหารลงเฟซบุ๊ก เวลาพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ใช้เวลาพูดคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์มือถือ มากกว่าคุยกับเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าถ่ายรูปอาหารลงเฟซบุ๊ก
แม้แต่เวลากิน มืออีกข้างก็ต้องจับโทรศัพท์ คอยเช็ก อัพเดต อยู่ตลอดเวลา
เมื่อว่าง มักจะเอาโทรศัพท์มากดๆ เล่น ดูรูป ฟังเพลง เล่นเกม ชอบมองโทรศัพท์บ่อยๆ มักจะชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มตลอดเวลา และคุณคิดว่าโทรศัพท์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ที่ขาดไม่ได้สังคมก้มหน้า
พญ.ขนิษฐา อุดมพูนสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน บอกว่า ก้มมากคอก็จะปวด ใช้นิ้วมากนิ้วก็อาจจะล็อก จิตใจไปพะวงมากก็เกิดอาการเครียด พอขาดโทรศัพท์ก็รู้สึกใจสั่น กังวลวุ่นวายหมด บางรายติดหนัก ย้ำคิดย้ำทำ อาจต้องใช้ยาร่วมด้วย เมื่อรู้ถึงข้อเสียเราก็ต้องแก้ไขที่ตัวเอง เพิ่มวินัยให้ตัวเอง จะไม่ใช้โทรศัพท์พร่ำเพรื่อโรคติดโทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือมีประโยชน์ก็มีโทษเช่นกัน ถ้าหากเราสนใจกับสังคมก้มหน้า ให้ความสำคัญกับโทรศัพท์พกพาติดตัวตลอดเวลา จะทำให้เรามีเวลาดูแลตัวเองน้อยลง วางโทรศัพท์หันมาใส่ใจตัวเองและคนรอบข้าง จะพบโลกในมุมต่างที่เราไม่คาดคิดก็ได้.ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/422499