ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปลุกเยาวชนตื่นรู้ ท่องพุทธวจน มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ  (อ่าน 1463 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29489
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ปลุกเยาวชนตื่นรู้ ท่องพุทธวจน มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ

ผ่านไปแล้วหนึ่งปีกับ “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการที่เปรียบเสมือนการฉีดวัคซีนธรรมะ เพื่อให้เด็กอยู่ในศีลในธรรม ผลปรากฏว่า เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เห็นได้จากความชื่นชมยินดีของบรรดาผู้ปกครอง เช่น ในการจัดประกวดรอบแรกของปีที่ผ่านมา มีผู้ปกครองของเด็กออทิสติก โทรศัพท์ไปขอบคุณที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โคราช ว่า

พอลูกได้มาท่องพุทธวจนแล้วทำให้ลูกมีสมาธิดีขึ้น หรือที่จังหวัดสมุทรสงครามก็มีผู้ปกครองคนหนึ่งบอกว่า รู้สึกงงกับพฤติกรรมของลูกที่เปลี่ยนไป เพราะอยู่ ๆ ก็มากราบเท้าแม่ ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งพอไปถามคุณครูถึงได้รู้ว่า ลูกเข้าร่วมโครงการท่องพุทธวจน และได้ท่องพระสูตรที่ว่าด้วย “การตอบแทนคุณบิดามารดาอย่างสูงสุด” แสดงว่าการที่เราให้เด็กได้ท่องบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนเข้าใจความหมายเขาก็จะนำไปปฏิบัติเอง

 :96: :96: :96:

จากที่เรามักจะคิดว่า เด็กคงจะท่องพุทธวจน หรือคำสอนของพระพุทธเจ้ากันแบบนกแก้วนกขุนทอง ท่องไปเรื่อย ๆ ไม่รู้อะไร แต่พอได้ยินผู้ปกครองสะท้อนมาอย่างนั้น ทำให้เข้าใจเลยว่า เรานี่แหละคิดผิด เข้าใจเด็กผิดอย่างแรง เพราะถึงแม้เขาจะท่องไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ต้องจำได้ เขาได้ซึมซับและมีความซาบซึ้ง จนสามารถนำกลับไปปฏิบัติได้จริง และที่สำคัญการที่เด็กท่องนั้นยังมีคุณครูที่โรงเรียนช่วยอธิบายความหมายด้วย เพราะฉะนั้นจะไม่ได้อะไรเลยคงไม่ใช่

ต้องถือว่าโครงการครั้งแรกประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็สามารถปลุกให้เยาวชนตื่นรู้หันมาท่องพุทธวจนได้นับหมื่น ๆ คนจากการจัดทีมเข้าร่วม “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 1



นางปราณี สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการมูลนิธิชวนน้องท่องพุทธวจน (Nongtong buddhawajana Foundation) กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของมูลนิธิคือ ปลูกฝังเยาวชนให้ใช้คำสอนของพระพุทธเจ้า เสมือนเป็นเสาเขื่อน เสาหลักของจิตใจ ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และส่งเสริมให้เยาวชนยึดมั่นในการทำความดี มีจิตใจมั่นคง มีธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและเป็นเกราะป้องกันให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติดและอบายมุขทั้งปวง

อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามในครอบครัวและชุมชน ระหว่างนักเรียน มารดาบิดา ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ และชุมชน รวมถึงเป็นการร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อความเจริญ และตั้งมั่นของพระสัทธรรม ทรงไว้ซึ่งคำสอนขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้รุ่งเรือง ยั่งยืน ยาวนาน สืบไป

จากวัตถุประสงค์ของมูลนิธิและกิจกรรมที่ได้ทำจนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้คณะทำงานเกิดกำลังใจที่จะสานต่อและเกิดเป็นโครงการสำหรับปีนี้เป็น “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 2 ขึ้นมา โดยเป็นการต่อยอดโครงการครั้งที่ 1 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานองค์กรทั้งรัฐและเอกชนมากมายโดยมีความมุ่งหวังเดียวกัน คือ เพื่อขยายผลโครงการปลุกเด็กและเยาวชนให้ยึดมั่นการทำความดี มีธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว



สำหรับกิจกรรมใน “โครงการชวนน้องท่องพุทธวจน” ครั้งที่ 2 จะมีด้วยกัน  4 ประเภท คือ

1. ประกวดท่องพุทธวจนประเภททีม 10 คน ชิงโล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และท่องแดนพุทธภูมิตามรอยพระพุทธเจ้า ณ ประเทศอินเดียและเนปาล (ระดับประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) หรือเทศบาล รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2557)

2. ประกวดโรงเรียนรัตนะ 5 ต้นแบบ เป็นเลิศและสร้างสรรค์ “เผยแผ่พุทธวจน” ชิงโล่รางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และท่องแดนพุทธภูมิตามรอยพระพุทธเจ้า ณ ประเทศอินเดียและเนปาล (ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาทุกสังกัด รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 31 ส.ค. 2557)

3. ประกวดคลิปวิดีโอท่องพระสูตรหน้าเสาธง ชิงเงินรางวัล 20,000-60,000 บาท และเพื่อคัดเลือกโรงเรียนและรวมตัวนักเรียนจำนวน 10,000 คน มาร่วมแสดงพลังอริยะประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าพร้อมกัน ในวันที่ 9 ก.ค. 2557 ที่อินดอสเตเดี้ยม หัวหมาก(ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาทุกสังกัด รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2557)

4. ประกวดวาดภาพพุทธวจน เพื่อนำไปจัดทำสมุดระบายสีพุทธวจน 100 พระสูตร ชิงทุนการศึกษา 5,000 บาท (ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาทุกสังกัด รับสมัครออนไลน์ถึงวันที่ 10 ส.ค. 2557)



นอกจากกิจกรรมการประกวดดังกล่าวแล้ว มีสิ่งที่น่ายินดีคือ ปีนี้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมด้วยการให้นักเรียนที่มาเข้าคอร์สวิทยาศาสตร์ 400 คน ปิดภาคฤดูร้อนได้ท่องพุทธวจน โดยเริ่มจากพระสูตรพื้นฐานก่อน คือ พระสูตรที่ว่าด้วยการตอบแทนคุณบิดามารดาอย่างสูงสุด เพราะเรามองว่าเด็กของ สสวท.จะเป็นเด็กที่เก่งวิชาการ การปลูกฝังให้เด็กมีความกตัญญูแต่เบื้องต้นคือคุณสมบัติที่ดีของเยาวชน  เพราะฉะนั้นถ้าเด็กเหล่านี้เป็นคนเก่งด้วย มีธรรมะและมีคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักยึดเหนี่ยวด้วยจะดียิ่งขึ้น จะทำให้เราได้ทั้งเด็กเก่ง ดี และมีคุณธรรม เป็นอนาคตที่ดีของประเทศ

เชื่อว่าหลังจากโครงการปีนี้ผ่านพ้นไป เราน่าจะยิ่งเห็นภาพของเด็กไทยที่มีคุณภาพ เป็นคนดีมีคุณธรรมที่ชัดขึ้น เพราะจะเห็นรูปธรรมที่ออกดอกออกผลมากขึ้น เพราะปีนี้โครงการมีการขยายผลอย่างกว้างขวางขึ้นอย่างน้อย ๆ ต้องมีเด็กอีกไม่ต่ำกว่า 30,000 คนที่ท่องพุทธวจนได้เพราะคาดหวังว่าจะมีทีมน้อง ๆ จากทั่วประเทศเข้าร่วมประกวดไม่น้อยกว่า 2,000 ทีม

ติดตามรายละเอียดการร่วมโครงการได้ทางเว็บไซต์ www.nongtongbuddhawajana.com หรือโทร. 08-9119-7600, 09-1771-9488.


อรนุช วานิชทวีวัฒน์


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/240627/ปลุกเยาวชนตื่นรู้+ท่องพุทธวจน+มีธรรมะยึดเหนี่ยวใจ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา