ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเบิกเนตรพระพุทธรูป แปลว่าอะไรคะ.? พิธีเป็นยังไง.?  (อ่าน 11039 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

เบิกเนตร
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com

มะเดี่ยว ถาม  :  การเบิกเนตรพระพุทธรูป แปลว่าอะไรคะ พิธีเป็นยังไง

 ans1 ans1 ans1

ตอบ มะเดี่ยว  :   พิธีกรรมเบิกเนตรพระพุทธรูป ไม่ว่าเป็นพระที่จะประดิษฐาน ณ ที่ใด ในวัด หรือที่บ้าน มีพื้นฐานจากคติความเชื่อที่ต้องการแสดงความเคารพต่อพระพุทธรูปที่จัดสร้างเสร็จแล้ว ว่าเป็นพระพุทธรูปที่สมบูรณ์ควรแก่การสักการบูชา ห้ามกระทำใดๆ ที่ไม่สมควรต่อพระพุทธรูปนั้นอีก ด้วยในกระบวนการก่อสร้างพระพุทธรูปนั้น อาจจำเป็นต้องมีการกระทำที่ไม่สมควร เช่น การปีนป่ายบนองค์พระ การตะแคงองค์พระ การขัดถู การตกแต่งส่วนที่เป็นพระเกศ พระพักตร์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้พระพุทธรูปที่สวยงาม แต่สำหรับชาวพุทธผู้สร้างอาจมีความรู้สึกผิดหรือรู้สึกไม่สมควร

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงมีประเพณีการเบิกเนตรขึ้น โดยอนุมานว่า ขณะยังไม่เบิกเนตร ก็คือรูปปั้นธรรมดาที่จะตกแต่งได้ ไม่ถือว่าเป็นการไม่บังควร แต่เมื่อทำสำเร็จแล้วผ่านการเบิกเนตร ก็เสมือนหนึ่งพระพุทธองค์ที่สมบูรณ์ ไม่บังควรทำสิ่งที่ไม่สมควรแก่พระพุทธรูปอีกต่อไป นอกจากสักการบูชาเท่านั้น


 :96: :96: :96:

เรื่องนี้ พระราชสุธี (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร กรุงเทพฯ ท่านเคยเขียนเป็นความรู้ไว้ว่า พิธีกรรมเบิกเนตรนิยมประกอบพิธีสำหรับรูปหล่อที่มีขนาดตั้งแต่ 16 นิ้วขึ้นไป (โสฬสมงคล)  ส่วนพระที่มีขนาดเล็กกว่านี้ เมื่อนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกก็นำไปบูชาได้เลย 
     อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าไม่ได้ผ่านพิธีกรรมใดๆ เพียงแต่เป็นพระพุทธปฏิมากร ก็กราบไหว้บูชาได้เช่นกัน เพราะถือว่าเป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า การประกอบพิธีเพื่อให้ผู้นำไปบูชาเชื่อมั่นในพุทธคุณมากขึ้นเท่านั้น





พิธีกรรมเบิกเนตร ถ้าเป็นองค์ใหญ่มากๆ จะใช้ไม้พันด้วยสำลีนำไปแตะที่พระเนตร (ดวงตา) ทั้งซ้ายและขวา ระหว่างที่แตะนั้น พระผู้ประกอบพิธีจะบริกรรมคาถาที่ว่า "สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพพะจักขุง วิโสทายิ" แปลว่า "เทวินโท เป็นจอมแห่งเทวดาผู้มีพระเนตรมีนัยน์ตา 1,000 ดวง หรือมองเห็นไปไกลได้เป็นพันโยชน์ ชำระตาให้เกิดเป็นตาทิพย์ ให้หมดจดสว่างไสว"

พระคาถาบทนี้มีประสิทธิภาพมากมายหลายสถาน ใช้เบิกเนตรพระพุทธรูปที่สร้างหรือหล่อใหม่ก็ได้ หรือรูปปั้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทพ หรืออะไรก็ได้ทุกๆ อย่าง

นอกจากนี้ยังมีคติความเชื่อด้วยว่า พระเกจิอาจารย์ได้นำพระคาถาบทนี้มาบริกรรมเสกน้ำมนต์พ่นน้ำหมาก ตาที่เจ็บที่แดงให้หายได้ชะงัดนักแล  ทั้งนี้การพ่นนี้ไม่ได้พ่นเข้านัยน์ตา เพียงแต่พ่นผิวเผิน ผู้ถูกพ่นต้องหลับตา ฆราวาสที่เป็นหมอยาพื้นบ้านในชนบท ทั้งอดีตและปัจจุบัน หากหยิบได้ใช้เป็นก็บริกรรมพระคาถาบทใช้ได้เช่นกัน


 :25: :25: :25:

ส่วนพระสงฆ์ที่ประกอบพิธีเบิกเนตร ไม่จำเป็นต้องนิมนต์ พระเกจิอาจารย์ หรือพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่มาประกอบพิธี พระสงฆ์ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดทุกแห่งสามารถประกอบพิธีได้เอง โดยทั่วๆ ไป นิยมนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป หรือ 16 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์

ระหว่างเบิกเนตร พระสงฆ์จะเจริญชัยมงคลคาถา หรือจะสวดมนต์ในบทธัมมจักรในบทหนึ่งที่ว่า "จักขุง อุทปาทิ ญาณัง อุทปาทิ ปัญญา อุทปาทิ วิชชา อุทปาทิ อาโลโก" แปลว่า "เพื่อให้เกิดดวงตาเห็นธรรม ปัญญาเกิด วิชาเกิด ความรู้เกิด และความสว่างไสวเกิด" หรือที่เรียก "เกิดปัญญาหยั่งรู้ในสิ่งที่ควรรู้"


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakExTURNMU53PT0=&sectionid=Y25Wd1lXbHRiMlJs&day=TWpBeE5DMHdNeTB3TlE9PQ==
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ