แต่ละคน ก็มีความทุกข์ ไปคนละแบบ
บ้างก็ทุกข์ เพราะการทำมาหากิน
บ้างก็ทุกข์ เพราะคนรักจากไป
บ้างก็ทุกข์ เพราะคนที่รักหักหลัง
บ้างก็ทุกข์ เพราะความรับผิดชอบ ต่อครอบครัว
บ้างก็ทุกข์ เพราะความเป็นผู้มียศ มีทรัพย์
บ้างก็ทุกข์ เพราะความเจ็บป่วย
บ้างก็ทุกข์ เพราะความตายทีกำลังจะมาถึง
และอีกสารพันปัญหา ที่แต่ละท่าน ทุกข์ และทะยอย เล่าให้ฉันฟัง ให้ฉันตอบ เพื่อท่าน จะได้ไม่มีความทุกข์ หรือ ระบายความทุกข์
วันหนึ่งของฉันช่วงนี้จึงหมดไปกับการ ปลุกปลอบ ให้กำลังใจคนที่ทุกข์ บ้างก็ยังเหนียวแน่น ในธรรม บ้างก็ขอลาจาก กันไป บ้างยังสาระวนทุกข์เหมือนเดิม
จิตตัง ทันตัง สุขา วหัง
จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้
หากท่านทั้งหลายไม่ฝึกฝนจิต ไม่ดูลมหายใจเข้าออก ไม่หมั่นภาวนาพุทโธ จิตของท่านเวลาที่เผชิญกับความทุกข์ มันจึงอ่อนแอ ปวกเปียก รันทด หดหู่ มองไม่เห็นทาง อะไร เลย นอกจาก ทุกข์ กลัดอก กลัดใจ ยิ่งขึ้น
ยามจะมี ก็ทุกข์ คนมี ก็ทุกข์ไปอีกแบบ
ยามจะจน ก็ทุกข์ คนไม่มี ก็ทุกข์ไปอีกแบบ
อย่างนี้ไม่จบสิ้น เพราะตัณหา คือ ผู้สร้างภพ ( ทุกข ์ ) นั่นเอง
ดังนั้นควรจะมองตามความเป็นจริง ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา มันเป็นธรรมดา ที่ใคร ๆ ก็ต้องเป็น ต้องมี รักษาจิต ให้แจ่มใส เจ็บ ก็พุทโธ ไปเรื่อย มัวแต่ไปทุกข์มันก็ไม่หายเจ็บ โง่สองชั้น ซวยสองต่อ กายก็เป็นทุกข์ จิตก็เป็นทุกข์ แถมทำให้วิญญาณ เป็นทุกข์ด้วยอีก
เกิดอีก มันก็ทุกข์ อีก แล้วทำไม ไม่เข็ดหลาบจำ มันเป็นซะอย่างนี้ คนเรา หลงตัว กลัวตาย หลงกาย ลืมแก่ หลงผัวหลงเมีย ลืมพ่อลืมแม่ หลงโง่ทำขั่ว ลืมนรกภูมิ
ดังนั้น ถ้าไม่อยากทุกข์ ก็ หาความสุข ด้วยการภาวนาทางจิตกันบ้าง พุทโธ พุทโธ ไป ดูลมหายใจ ดูลมหายใจออก มองเห็นตามความเป็นจริง อย่างน้อยได้สุข ทัศนะ เบื้องต้น หรือ ได้สมาธิ ก็ยังมีสุขสมาธิ เป็นเพื่อน บ้าง ชีวิต มันจะได้ทุเลาลง
บัณฑิต ย่อมกระทำความไม่หวั่นไหว ให้เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ความไม่หวั่นไหว ( อเนญชา ) มิได้เพราะมองเห็นตามความเป็นจริง ว่า สิ่งใด สิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้น ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา อย่างนี้ในเบื้องต้น
ความไม่หวั่นไหว จักมีได้ก็ต้อง สวด ท่อง บ่น สาธยาย เจริญสติ ตามดูระลึกรู้ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก มีพุทโธ ๆๆๆๆๆ อย่างนี้ ไปด้วย จักทำให้มีความสุขในเบื้องต้นได้
ขอดวงตาเห็นธรรม จงมีแก่ท่าน
ขอความสำเร็จในธรรม จงมีแก่ท่าน
ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่าน ในกาลทุกเมื่อเทอญ
เจริญพร

( เกี่ยวกับภาพ ภาพนี้มองเห็น ธรรมสองอย่าง คือ ความเกิดขึ้น และความเสื่อมไป ส่วนความตั้งอยู่ ผู้มองเห็น จักรู้กาลทั้งสาม การรู้จักกาลทั้งสาม จะมีประโยชน์ ในขณะ แห่งอนุโลม และ ปฏิโลม )