ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : การเข้าถึงธรรมะนิพพานอย่างแท้จริง 1.  (อ่าน 2382 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29367
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สมาธิชาวบ้าน : การเข้าถึงธรรมะนิพพานอย่างแท้จริง 1.

    เมื่อเริ่มฝึกปฏิบัติจิตจะมีความคิดมารบกวนนำพาให้เข้าใจไปว่าสิ่งที่เราเห็นคือการบรรลุธรรมของตน ซึ่งในความเป็นจริงมันเป็นธรรมขั้นจินตนาการ คือแม้จะรู้ธรรมะบ้าง แต่ไม่ได้รู้เองเห็นเอง จิตไม่ได้รู้แจ้งเอง แต่รู้แบบจินตนาการธรรมคิดและเข้าใจไปเอง

    ต้องทำความเข้าใจว่า เมื่อฟังธรรมะแล้วจินตนาการไป เหมือนฟังคนเขาเล่าเรื่องเชียงใหม่ให้ฟัง เราฟังทุกวันว่าเชียงใหม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้คิดว่าเราถึงเชียงใหม่แล้ว รู้จักเชียงใหม่ทุกแง่มุม ซึ่งแบบนี้เป็นลักษณะการรู้จักเชียงใหม่แบบนึกเอาเองตามที่ได้ฟัง จริงๆ แล้วไม่เคยไปเชียงใหม่ สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเราเข้าถึงธรรมด้วยจินตนาการเท่านั้น ไม่ได้ถึงอย่างแท้จริง


     :25: :25: :25: :25: :25:

    การปฏิบัติธรรมเปรียบเสมือนการบอกแนวไปทางเชียงใหม่ ว่าไปทางไหนดี พูดบางครั้งบางคราว เช่น บอกว่าทางนี้ต้องไปอย่างนี้ พอถึงตรงนี้ต้องทำอย่างนั้น นี้มันเป็นวิธีการบอกให้ฟังว่าจะไปเชียงใหม่ไปยังไง ทำยังไง การที่เดินไปมันก็มีขั้นตอนมัน พอเริ่มต้นจากหยาบๆ พอออกทางนี้ไปจะไปเจออะไร เพราะฉะนั้นการสอนบอกทิศทาง ผู้ปฏิบัติไม่ต้องหลงทางเสียเวลาไปถึงทางนี้ ก็เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เจอทางทำยังไงบอกวิธีการด้วย นำธรรมไปให้จิตมันไปทิศทางไหน ถ้าทำไปเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้งไม่ไปลังเลสงสัยไม่นานก็ถึงเชียงใหม่ มันจะยากลำบากอย่างไรก็เป็นของมันอย่างนั้น

    บางครั้งเจออุปสรรคระหว่างการปฏิบัติ แต่เมื่อมาถามครูบาอาจารย์ว่าเจออุปสรรคอย่างนั้นอย่างนี้ ครูบาอาจารย์แนะนำแก้ไขให้ผ่านอุปสรรคไปได้ เมื่อใจมันผ่านอุปสรรคได้เรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงเชียงใหม่ ถึงเวลานั้นไม่ต้องไปฟังใครเล่าเรื่องเชียงใหม่เพราะว่าเราไปอยู่ที่เชียงใหม่แล้ว



    ขั้นต่อมาถึงเชียงใหม่แล้วก็จริง แต่ยังไม่รู้ความลับของเชียงใหม่อีกหลายๆ อย่าง หากครูบาอาจารย์รู้ก็จะบอกให้ฟังได้ เช่น อากาศเป็นอย่างไร เปรียบเมื่อเราเข้าถึงธรรม จากนั้นเป็นทางที่จิตเดินไปสู่ปัญญา เช่นเดียวกับการปฏิบัติสมาธิ เมื่อจิตทิ้งสมมติบัญญัติต่างๆ ไม่มีความคิดครอบงำเป็นจิตที่มีความเป็นเดิมแท้ จิตประภัสสร คืออาการเดิมของจิต ก่อนที่จะไปยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ ไม่ถูกครอบงำจากความคิด ไม่มีความเป็นเจ้าของต่างๆ หรือก่อนที่จิตจะมาเป็นเจ้าของธาตุ 4  ดิน น้ำ ลม ไฟในร่างกาย

    หากไม่ถูกครอบงำจากความคิดแล้วจิตย่อมเป็นอิสระ การบรรลุธรรมด้วยจิตที่ว่างปราศจากความคิดจึงเป็นธรรมมะที่รู้จริง เมื่อจิตหยุดคิดเรียกว่าว่าง เกิดปัญญารู้แจ้ง หากรู้ธรรมะจากอ่านหรือการฟัง จิตยังไม่รู้แจ้งมันเพราะต้องเข้าสู่ภาวะของจิตเดิมแท้ให้ได้ก่อน จิตจึงจะเกิดปัญญารู้แจ้งในธรรม.



ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/261014/98069
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ