ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่รักของภิกษุ : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 2286 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29367
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ที่รักของภิกษุ : ธรรมะยู-เทิร์น
« เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2014, 11:14:19 am »
0

ที่รักของภิกษุ : ธรรมะยู-เทิร์น โดยอิทธิโชโต

    "คนเกียจคร้านย่อมไม่พบความสุข... ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนหมู่มาก" พุทธพจน์

ถ้าอยากเป็นที่รักของเพื่อนภิกษุ เธอจงมีศีลให้ถึงพร้อมเถิด หากบวชมาแล้วไม่รักษาศีลเขาก็เกลียดตายแล้ว เรื่องของศาสนา เรื่องของพระธรรมเป็นขั้นเป็นตอน เป็นเรื่องของการประพฤติพรหมจรรย์ เมื่อเธอรักษาศีลดีแล้ว เธอก็จักเป็นที่รักของเพื่อนภิกษุ

สังคมของพระมีพระวินัยไว้ขัดเกลาตนเป็นข้อวัตร ส่วนฆราวาสก็มีหลักศีลธรรมไว้ครองใจตน ครองใจผู้คน คนเรามักว่าคนอื่นเก่ง แต่ลืมดูตนเอง แต่ถ้าเราดูตนเองบ่อยๆ พิจารณาตนเองบ่อยๆ เราจะเห็นตนเอง และจะไม่ว่าคนอื่น แต่ถ้าเราไม่มีสติ ไม่มีธรรมะ มันก็จะไหลไปตามกิเลส ไปตามอารมณ์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ ธรรมะเกิดขึ้นที่จิตใจเรา มันก็สามารถรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตในใจ ปัจจุบันธรรมก็เกิดขึ้น

 :25: :25: :25: :25: :25:

ดังนั้น ถ้าจะให้ธรรมะมันเกิดขึ้นทันกิเลส ก็ต้องกลับมาอบรมจิตใจ เจริญสติ หากุศโลบายให้กับตัวเรา จะบริกรรมพุทโธ หรือมีสติอยู่กับลมหายใจก็ได้ ให้ทำบ่อยๆ

ครูบาอาจารย์ หรือพระพุทธเจ้า ท่านเป็นแบบ เป็นครูผู้แนะนำมาแล้ว ผู้เดินมาแล้ว ท่านก็ทำมาให้เป็นตัวอย่าง ท่านก็สอนครูบาอาจารย์ สอนลูกศิษย์ลูกหา จนผ่านพ้นทุกข์ไปเยอะแยะแล้ว พวกเราถือว่าโชคดี ที่มีครูบาอาจารย์ชี้ช่องทางบอกไว้แล้วก็ค่อยๆ เดินไป เช่น ท่านบอกว่าให้ภาวนาอานาปานสตินะ ให้ลมหายใจเป็นช่องทางเดินของสติ อาศัยมันไปก่อน หรืออาศัยพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปก่อน อาศัยพระรัตนตรัยไปก่อน อาศัยคุณงามความดีไปก่อน แต่อย่าไปเกาะความไม่ดี เพราะความไม่ดีจะเป็นโทษกับตัวเอง



แต่เมื่อไร คนนั้นเกาะความดีไปตลอด ความดีนั้น จะพาเขาเจริญเอง เกาะไปเรื่อยๆ ทุกข์ยากลำบากไม่ใช่ไม่มี มันมีมาตลอด ระหว่างการเดิน มันทุกข์แน่ๆ เกาะความดีนี้ ทุกข์มาก บางคนถอดใจเลยไม่อยากจะไป แต่ว่าอานิสงส์ของการเกาะความดี แม้ว่ามันจะทุกข์ แต่มันจะสุขในวันข้างหน้า

เหมือนเราทำงาน ลำบากไหม ลำบาก ทุกข์ไหม ทุกข์ แต่จะสบายในวันข้างหน้าไหม สบายแน่ๆ เหมือนกัน แต่ถ้าเราเกาะสิ่งที่ไม่ดี เช่นว่า ไปเอาของเขามา มันไม่ดีใช่ไหม มันสบายวันนี้ แต่มันจะลำบากในวันข้างหน้า


 st11 st11 st11 st11 st11

เพราะฉะนั้น ทำดีก็ลำบาก ทำไม่ดีก็ลำบาก เพียงแต่ว่า คนที่เลือกทำดี ลำบากวันนี้ แต่สบายในบั้นปลาย หรือจะเอาทุกข์ในบั้นปลายก็พิจารณา ใคร่ครวญ จะให้กิเลสมันใช้เรา หรือเราจะบริหารจัดการกิเลส ให้มันมาทำความดี มาอยู่กับความดี ก็แล้วแต่เราจะเลือก

อย่างไรก็ตาม เกาะความดี ไปเรื่อยๆ จะทำให้จิตใจมีกำลังมากขึ้น สามารถอยู่กับปัจจุบันได้อย่างเท่าทันกิเลส กิเลสก็จะตามไม่ทัน สุดท้าย เมื่อเรามีคุณงามความดีเต็มเปี่ยม ไม่เพียงแต่เราจะเป็นที่รักของตนเอง เรายังเป็นที่รักของครอบครัว เป็นที่รักของภิกษุ เป็นที่รักของสังคม ทั้งหมดก็เนื่องมาจากเรารู้จักเกาะ ...เกาะคุณงามความดีในปัจจุบันนั่นแล


ขอบลคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20141030/194977.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ