ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระมหาธรรมเจดีย์ฯ ณ เวฬุวัน อินเดีย กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน กระทำมหาสักการะ (จบ)  (อ่าน 2754 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29367
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



พระมหาธรรมเจดีย์ฯ ณ เวฬุวัน อินเดีย กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน กระทำมหาสักการะ (จบ)
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา... สู่งานการพัฒนาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในเวฬุวันมหาวิหาร ที่ได้เริ่มเขม็งเกลียวในต้นเดือน ก.ย. ๒๕๕๗ ระหว่างกลางพรรษาและเดินหน้าสู่ความเป็นรูปธรรมตามแนวคิดของอาตมา นับตั้งแต่วันที่ ๑๕ ก.ย. ๒๕๕๗ เมื่อฝ่ายช่างฝีมือจากหริภุญไชย ๓ คน เดินทางมาถึงราชคฤห์/อินเดีย โดยการจัดการของ รจนา วานิช และคณะ จึงได้เห็นคนงานอินเดียเต็มพื้นที่ลานพระโอวาทปาติโมกข์

รวมถึงพระภิกษุและศรัทธาชาวไทยกลุ่มหนึ่ง แม้อาตมาเองก็ไม่เว้น เมื่อได้ไปวางแผนอำนวยการสร้างพระแท่นโอวาทปาติโมกข์ที่ต่อเนื่องกับซุ้มพระพุทธรูปองค์น้อยที่ประดิษฐานอยู่ก่อนแล้ว อันเป็นสัญลักษณ์ให้ศาสนิกชนเชื่อว่าสถานที่ดังกล่าวนี้เป็นที่ทรงประทับประทานพระโอวาทปาติโมกข์ แด่พระอรหันตขีณาสพ ๑,๒๕๐ รูป เมื่อวันมาฆบูชา ก่อนพรรษาที่ ๒ ของพระพุทธองค์...

 :25: :25: :25: :25: :25:

อาตมาได้วางร่างแบบที่สำเร็จจากการภาวนา เป็นรูปดอกบัวทรงกลมขนาดใหญ่ ผุดปรากฏขึ้นตรงกลางลานพระโอวาทปาติโมกข์พอดีเหมือนนัดกันไว้กับซุ้มพระพุทธรูปองค์น้อย ที่สร้างมาประมาณ ๓๐ กว่าปีแล้ว โดยมีกลีบบัว ๔๕ กลีบ ล้อมประดับโดยรอบไปจรดก้านบัว แสดงความหมายบูชาพระพุทธกิจ ๔๕ พรรษาของพระพุทธองค์ และได้มีการขุดเจาะเป็นห้องสถูปลงไปใต้ใจกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกประมาณ ๒ เมตร กว้างยาวพอเหมาะ โดยมีห้องสี่เหลี่ยมขนาด ๕๐x๕๐ ซม. ลึกประมาณ ๓๐ซม. อยู่ตรงกลาง

เพื่อประดิษฐานหัวใจพระพุทธศาสนาที่อัญเชิญมาจากภูเขาคิชฌกูฏ อันมีความเป็นมงคลและสำคัญอย่างยิ่งกับการสืบอายุพระพุทธศาสนา ซึ่งได้จารึกพระคาถาหัวใจพระพุทธศาสนาด้วยอักษรบาลีโบราณ ด้วยช่างแกะสลักหินชาวราชคฤห์ ที่บัดนี้ประดิษฐานอยู่ใจกลางแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ในเวฬุวันฯ อันเป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงประทับประทานพระโอวาทปาติโมกข์ และทรงจำพรรษาอยู่ถึง ๕ พรรษา ณ เวฬุวันมหาวิหารแห่งนี้...



สำคัญอย่างยิ่งในห้องสถูปดังกล่าวมีพระไตรปิฎกอักษรโรมันบาลีประดิษฐานอยู่ ครบสมบูรณ์พร้อมเครื่องสักการบูชา ทั้งผ้าไตรจีวรและบาตร อันเป็นเครื่องหมายของพระพุทธศาสนา พร้อมรูปฝ่ามืออธิษฐานธรรม ณ ที่ประดิษฐานหัวใจพระพุทธศาสนาดังกล่าวของพระภิกษุรูปหนึ่งที่ทำหน้าที่สืบทอดพระพุทธศาสนา ที่มีดอกบัวปรากฏสวยงามอยู่ฝ่ามือซ้าย

และเมื่อก่อปิดสถูปที่ยกสูงขึ้นเหนือพื้นดินร่วมเมตรให้กลายเป็นพระแท่นแก้วรองรับ “พระพุทธบัลลังก์โอวาทปาติโมกข์” ที่สร้างขึ้นตามแบบจากการภาวนาโดยฝีมือช่างหริภุญไชย เพื่อประดิษฐานแผ่นหินอ่อนขนาด ๑๐๐x๑๕๐ ซม. ที่จารึกพระคาถาโอวาทปาติโมกข์เป็นอักษรบาลีโบราณและอักษรไทยบาลี เพื่อบูชาพระพุทธคุณของอักษรไทย มีตราธรรมจักรสีทองประดับเด่นอยู่ตรงกลางแผ่นหินอ่อนสีขาว ที่อัญเชิญไปจากประเทศไทย โดย สุรพลเตชะหรูวิจิตร และคณะ...


 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

บัดนี้รอการยกฉัตร ๓ ชั้นสีเงิน ขึ้นตั้งเหนือพระพุทธบัลลังก์ฯ ในวันที่ ๒๒ ต.ค. ๒๕๕๗ นี้ ที่คณะศรัทธาชาวไทยมากกว่า ๒๐๐ ชีวิต จะเดินทางไปร่วมถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ณ เวฬุวันมหาวิหาร/อินเดีย โดยมีฝ่ายรัฐบาลแห่งรัฐพิหาร/อินเดีย ร่วมต้อนรับ โดยประธานรัฐสภาฯ และรัฐมนตรีบางท่าน...

บัดนี้ธัมมลักษณ์ของพระพุทธศาสนาในความหมายแห่ง “พระมหาธรรมเจดีย์โอวาทปาติโมกข์” ได้อุบัติเกิดขึ้นแล้วในชมพูทวีป ปีพรรษาพุทธศักราช ๒๕๕๗ จะเป็นครั้งเดียวเท่านั้นที่จะผุดปรากฏบนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ที่ทรงประทับและทรงประทานพระโอวาทปาติโมกข์ เพื่อสถาปนาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบเนื่องอายุต่อไปสิ้นกาลนาน... การผุดปรากฏพระมหาธรรมเจดีย์ฯ บนลานพระโอวาทปาติโมกข์เป็นนิมิตหมายที่สำคัญยิ่งของการขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาสืบต่อไปอย่างมีเอกภาพ...เอกธรรม



ในระหว่างรอคอยการปูหินอ่อนสีขาวลงบนลานพระโอวาทปาติโมกข์ที่ตัดกับหินแกรนิตสีแดงบนพระแท่นโอวาทปาติโมกข์ ที่ยกบัลลังก์สีขาวขึ้นรองรับพระโอวาทปาติโมกข์ ภายใต้ร่มเศวตรฉัตรแห่งพระมหาธรรมราชา...ได้เกิดปรากฏการณ์ที่อัศจรรย์หลายประการ อันนำไปสู่ความสำเร็จที่ยากจะเกิดขึ้นในแผ่นดินฮินดูที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลอินเดีย และสำคัญยิ่งเมื่อถึงวันมหาปวารณา (ออกพรรษา)

วันที่ ๘ ต.ค. ๒๕๕๗ พระราชาธิบดี จิกมี และพระราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ได้เสด็จฯ มากราบสักการะพระมหาธรรมเจดีย์ฯ ที่เพิ่งอุบัติเกิดขึ้น โดยอาตมานำกล่าวบูชาสักการะและถวายพระพรทั้สองพระองค์ที่ได้ทรงบาตร โดยอาตมารับบิณฑบาต ณ พระแท่นโอวาทปาติโมกข์ นับเป็นครั้งแรกที่สำคัญยิ่งต่อการถวายมหาสักการบูชาพระมหาธรรมเจดีย์ฯ ณ เวฬุวันฯ แห่งนี้ โดยถือว่าทั้งสองพระองค์คือ พระราชา พระราชินี แห่งชมพูทวีป.. การเสด็จฯ มาครั้งนี้ จึงเท่ากับเป็นการมากระทำมหาสักการะอนุโมทนา เฉลิมฉลอง พระมหาธรรมเจดีย์ฯ อย่างสมควรแก่ฐานะโดยธรรม


 ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

ซึ่งเท่ากับว่าบัดนี้การกระทำอธิการกุศลในครั้งนี้ ได้รับการอนุโมทนาจากผู้เป็นตัวแทนแห่งพระราชาในชมพูทวีปได้สำเร็จสมบูรณ์ด้วยดีแล้ว จึงสมควรแก่การกล่าวว่า นี่คือ มหาสักการบูชา ณ พระมหาธรรมเจดีย์ฯ...

นอกจากนั้นพระราชาธิบดี จิกมี ได้อาราธนานิมนต์อาตมาให้ไปเยี่ยมเยียนประเทศภูฏานโดยการรับรองของพระองค์....จึงได้รับนิมนต์ตามอาราธนา... การเสด็จฯ มาเวฬุวันฯ ในครั้งนี้ของกษัตริย์แห่งภูฏาน อันเป็นพุทธกษัตริย์หนึ่งเดียวในชมพูทวีป ที่มีพระราชประสงค์เพื่อมาปฏิสันถารกับอาตมาเป็นการเจาะจง การถวายมหาสักการบูชาพระมหาธรรมเจดีย์ฯ จึงเกิดขึ้นด้วยความไม่บังเอิญด้วยประการฉะนี้ เอวัง


 เจริญพร


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/323733/พระมหาธรรมเจดีย์ฯ-ณ-เวฬุวัน-อินเดีย-กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน-กระทำมหาสักการะ-จบ-
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29367
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 
ask1 ans1 ask1 ans1

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปาฏิหาริย์แห่งธรรม ณ เวฬุวันฯ อินเดีย ตอนที่ ๑
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15739.0

ปาฏิหาริย์แห่งธรรม ณ เวฬุวันฯ อินเดีย ตอนที่ ๒.
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=15740.0
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ