ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'สติ' คือ นายด่าน : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 2282 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
'สติ' คือ นายด่าน : ธรรมะยู-เทิร์น
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2014, 10:01:57 am »
0



'สติ' คือ นายด่าน : ธรรมะยู-เทิร์น
โดย อิทธิโชโต

     "ผู้มีปัญญาย่อมตามรักษาจิต" ธรรมบท
     เมื่อเริ่มที่จะปฏิบัติธรรม เราไม่ต้องมองไปข้างหน้ามาก แต่ทำอย่างไรที่จะให้มีสติเกิดขึ้นในจิต ในใจก่อนเป็นอันดับแรก เช่นเดียวกับเวลาเราเดินทาง เช่นว่า จากอุดรธานีไปกรุงเทพฯ เราจะต้องผ่านขอนแก่น ผ่านนครราชสีมา ใช่ไหม แต่ขณะนี้เราอยู่อุดร ก็ไม่ต้องคำนึงถึงขอนแก่น เพียงรู้ว่าจะต้องผ่าน แต่ให้เรามีสติรู้ปัจจุบันอยู่ที่นี่ก่อน ดูทิวทัศน์ไปว่า บ้านเมืองเขาเป็นอย่างนี้ เขาทำอาชีพอย่างนี้ จิตใจเราก็เหมือนกัน เมื่อผ่านสภาวะอารมณ์หนึ่ง จิตใจก็เป็นแบบหนึ่ง แล้วมันก็ผ่านไป เหมือนเรานั่งรถผ่านไปตามที่ต่างๆ

     อุปสรรคคือสิ่งที่มาทดสอบ ต้องฝ่าฟันและผ่านพ้นไปให้ได้ สมมุติว่าฝนกำลังตก เราจะต้องไปอีกที่หนึ่ง ไม่ใช่ว่าเราจะเดินฝ่าฝนไป พักก่อน รอให้ฝนหยุดตกก่อน รอให้มรสุมผ่านไปก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง


      :25: :25: :25: :25: :25:

     การภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องเร่งมาก แต่ต้องต่อเนื่อง การเร่งมาก สำหรับคนที่พร้อม สติปัญญาเข้มแข็ง จนเกิดผลที่จิตใจแล้ว เขาจะเกิดความเพียรจากข้างในมากขึ้น แต่สำหรับผู้ฝึกใหม่ ก็ค่อยเป็นค่อยไป การท้อแท้อาจมีบ้าง แต่ให้รู้แล้วก็พักหน่อย เบาแรงหน่อย เติมเชื้อเพลิงหน่อย ไปรับฟังธรรมะจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก่อน และให้ระลึกอยู่เสมอว่าเราต้องพยายามให้มากขึ้นกว่านี้

     เพราะฉะนั้น ต้องคิด พิจารณาให้ได้เป็นอันดับหนึ่งเสียก่อน ทำบ่อยๆ แล้วสติจะค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้นมา อาจจะบริกรรมพุทโธ หรือมีสติอยู่กับลมหายใจวันละ ๕ นาที ๑๐ นาที ครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง เหมือนเราเก็บเงินใส่กระปุกออมสิน วันละบาทก็เพิ่มขึ้น การฝึกสติก็เช่นกัน หมั่นมีสติรู้สึกตัวในทุกอิริยาบถบ่อยๆ เมื่อสติถึงพร้อมก็สามารถข่มอารมณ์ลงได้ เมื่อสติแจ่มชัดขึ้นแล้วจะรู้หมด อะไรผ่านเข้ามาในจิตจะรู้หมด



     สติที่เข้มแข็ง เหมือนนายเฝ้าด่าน ที่ไม่หลับ ใครเข้าใครออกก็รู้ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือเป็นสัตว์ ส่วนสติที่ไม่แข็งแรง เปรียบเหมือนนายด่านที่หลับ ไม่รู้เลยว่าอะไรเข้ามา หรือออกไป 

     เมื่อสติละเอียด สามารถรู้ว่าอะไรมีคุณ อะไรมีโทษ เหมือนคนเฝ้าด่าน ถ้าหลับ โจรขโมยเข้ามา ก็ไม่มีใครรู้ ก็ต้องโทษนายด่าน เพราะเขาเป็นคนรับผิดชอบ เราก็เหมือนกัน ถ้าปล่อยให้อารมณ์ไม่ดีเข้ามา หรือออกไป เราต้องรับผิดชอบ เพราะเราคือนายด่าน ดังนั้นการฝึกนายด่าน คือ สติ เป็นปราการสำคัญด่านแรกในการที่จะทำให้พบผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน คือจิตใจที่ปราศจากอารมณ์ ก็จะทำให้เกิดความโปร่ง โล่งเบาขึ้น ภายในใจ ความคิดต่างๆ นานาไม่สามารถมีอิทธิพลกับจิตใจเราได้

    หน้าที่ของนายด่านยังไม่หมด นี่เป็นเพียงปราการด่านแรกที่ต่อสู้กับกิเลสขั้นหยาบๆ เท่านั้น


ขอบคุณบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20141121/196360.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ