พิมพ์

[ธัมมะวังโส]

การฝึกจิตให้เป็น สมาธิ ในขอบเขตน์พุทธศาสนา นั้น มีวัตถุประสงค์ ก็เพื่อส่งเสริมการเจริญวิปัสสนา แต่ในความเป็นจริง ของการฝึกรวมจิตให้เป็นสมาธินั้น มีสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผู้ฝึกสมาธิ เรียกว่า ปรากฏการณ์ ที่จิตกำลังเป็นสมาธิ และ เป็นสมาธิ
 
      ปรากฏการณ์ ในสมาธิ หรือ สิ่งที่ผุดขึ้นมาในจิต ที่กำลังเป็นสมาธิ และ เป็นสมาธิ มีดังนี้
     
      1.ภวังคะ ( หมายถึง จิตที่ตกไปสภาวะของผู้หลับ )
      2.นิมิต ( หมายถึง ภาพที่ปรากฏ เป็น รูปทิพย์ เสียงทิพย์ )   
      3.ญาณ ( หมายถึง จิตได้ญาณ 1 ใน 9 ญาณ )
      4.อุเบกขา ( หมายถึง ความที่จิตอิ่มตัว และ ชอบใจในความนิ่งเฉย อย่างนั้น )
      5.ปลิโพธิ  ( หมายถึง ความกังวลที่เกิดขึ้นจาก การไม่ได้ ความเป็นสมาธิ หรือ ญาณใด )
     
   ดังนัั้นผู้ฝึกสมาธิ ที่ไม่มีครู หรือ มีครูแต่ไม่แจ้งกรรมฐาน ก็อาจจะถึงความเพลี่ยงพล้ำในการภาวนานี้ได้ และความเป็นจริงก็เป็นอย่างนั้น ที่ผ่านมาจากที่ อาตมาดูแลศิษย์ และท่านที่ไม่เป็นศิษย์ ก็จะตกอยู่ในภาวะใด ภาวะหนึ่ง ที่กล่าวไว้ทั้ง 5 นั้นแหละ ดังนั้นการรับมือ กับสภาวะที่เกิดทั้ง 5 จึงต้องมีวิธีรับมือ เพราะหากไม่มีวิธีรับมือมันหมายถึง ความหลงทาง และความท้อแท้ สิ้นหวังต่อการภาวนา จนถึงความวิปริต ผิดธรรมชาติของจิต ๆ ที่มีโมหะ สูงเกินไป เมื่อบังเกิดมากขึ้นถึงที่สุด ก็คือ ความวิปัลลาศ ๆ หมายถึง ไม่มีสติ สัมปชัญญะ ควบคุมตัวเอง ควบคุมจิตของตนเองต่อไป มันได้ถึงซึ่งสภาพที่จิตปรุงแต่งหลายสิบชั้น ปกติ จิตมนุษย์ก็ปรุงแต่งอย่างน้อยก็สามชั้น แต่ถ้าจิตวิปัลลาสไปแล้ว มันจะปรุงแต่ง ถึง 7 ชั้น จิตที่ปรุงแต่ง 7 ชั้่น เรียกว่า คนวิปัลลาส หรือ คนบ้า คนที่จะช่วยถอดถอยจิตที่ถูกปรุงแต่ง ไว้ 7 ชั้นได้นี้ มีเพียงผู้เดียว คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น อย่างกรณีของ นางปฏาจารา ที่พระพุทธเจ้า ตรัสเสียงทิพย์เข้าไปถอดถอย การปรุงแต่ง ทั้ง 7 ให้กับนาง เป็นต้น ดังนั้นไม่ใช่วิสัย ของพระอริยะสาวก จะทำได้ แต่ก็มีบางท่านทำได้ นั่นหมายถึงเป็นส่วนน้อย คือ เป็นเอตทัคคะ หรือการอธิษฐานบารมีทางด้านนี้ โดยเฉพาะ จึงจะทำได้ แต่เปอร์เซ้นต์ มีน้อยมาก หรือหาไม่ได้เลย

[ธัมมะวังโส]

น้ำตกธารเสด็จ ที่อยู่หน้าอาศรม ท้องนาง เกาะพะงัน สถานที่นี้ มีธรรมชาติดีมาก สงัดมาก ในสมัยที่ไปภาวนาขณะนั้นไปกับเพื่อน สหธรรมิก 4 องค์ด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เริ่มภาวนาด้านสมาธิ อย่างจริง ๆ จัง ๆ


"ในคืนเดือนเพ็ญเดือนที่สี่ เมษายน ขณะที่ฉันภาวนาอยู่ที่อาศรมท้องนาง ณ เกาะพะงัน ฉันเห็นคนแก่คนหนึ่งเดินเข้ามาหา คนนี้ใส่ชุดขาวโจงกะเบนเหมือนพราหมณ์ ดูแล้วแปลกตาเพราะการแต่งกายไม่คุ้น ตอนที่ฉันเห็นน่าจะประมาณ ตีสอง แล้วเขามาก็เข้ามาทักทาย ถามว่าสบายดีไหม ชอบใจที่นี่หรือป่าว อยากให้อยู่นาน ๆ เจริญธรรมให้ถึงแก่นสาร ฉันฟังก็แปลกใจอยู่เหมือนกันแต่ก็คุยกันพอได้อัธยาศํย รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนเกือบรุ่งสาง ในท่านั่งสมาธิ จึงนำความสงสัยถามว่ามีใครรู้จัก คนลักษณะนี้บ้าง ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จักเลย แต่ในช่วงที่ไปปฏิบัติภาวนาอยู่นั้น จะรู้สึกสัมผัสได้ว่า มีคนคอยมอง คอยดูอยู่ แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่า ความหวาดกลัว เดิมทีฉันเอง ก็หวาดกลัวอยู่เหมือนกันในช่วงแรก เพราะไม่เคยไปปฏิบัติอยู่ในป่า ในเขา ที่ไม่มีไฟฟ้า มีแต่เสียงป่า เสียงน้ำตกที่ดัง มันวังเวงมาก ฉันจึงหวาดระแวงในตอนนั่งกรรมฐาน ในช่วงกลางคืน และยิ่งตอนเดินไปทำวัตรเช้า ด้วยสงัดมาก รู้สึกกลัวมากกว่า เพราะต้องเดินในป่าเป็นระยะทางไกล กว่าจะถึงจุดที่ทำวัตรเช้า ฉันไม่มีไฟฉาย มีแต่โคมผ้าที่ใส่เทียน จุดได้ภายใน เท่านั้น หลังจากที่คนแก่คนนี้ปรากฏตัวออกมาพูดคุยด้วย ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเพราะ คนแก่ท่านนี้ ท่านพูดว่า ผมจะคอยดูแลท่าน ๆ ไม่ต้องกังวล ในยามค่ำคืน ผมก็อยู่ใกล้ ๆ บ้านผมอยู่ใกล้ ๆ หากท่านมีภัยใด ๆ เพียงเรียกชื่อผม ดัง ๆ ผมก็จะคอยดูแลท่าน ขอให้ท่านภาวนาอย่าได้มีกังวล คำพูดของโยมท่านนี้ ให้ความอบอุ่นใจกับ พระอาจารย์มากในสมัยที่ภาวนาเริ่มต้น ในใจคิดว่า โยมคนนี้เป็นเจ้าที่ ๆ ดูแลป่าทางเขตนั้นหรือเป็นผู้ทรงศีล ที่ปฏิบัติในป่านั้นเช่นกัน .... "

ข้อความบางส่วนจาก หนังสือเพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนาของ ธัมมะวังโส ภิกขุ


สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่เสด็จประพาส ของ รัชการลที่ 5 มีการสลักพระปรมาภิไทย ไว้ทีหิน


สภาพป่าครั้งที่ไปภาวนานั้น เป็นป่าชื้น ฝนตกบ่อย ต้นหวายใหญ่ หาได้ง่ายมาก ต้นเฟริน ก็มีมาก ต้นไม้สูงใหญ่ ก็มีมากเช่นกัน ตอนที่ไปอยู่ที่อาศรมนี้มีชาวบ้านอยู่เพียง 7 หลังคาเรือน บิณฑบาตร ต้องไต่เขาหลายจุด


ปัจจุบันสภาพเปลี่ยนไปแล้ว หลังจากที่ได้กลับไปเยี่ยมเมื่อปี 2553 สภาพธรรมชาติหายไปมาก จากอาศรมเดินไปสุดทางปลายน้ำตกเป็นทะเลนั้นต้องเดินไต่เขาลงไปเรื่อย มีถึง 17 ชั้นระยะทาง 7 กม.


นี่เป็นชั้นสุดท้าย ก่อนถึงทะเลประมาณ 1 กม. จะเห็นว่าป่าเตี็ยลง

[ธัมมะวังโส]

 ปล. การตรวจทานอักษร ทำได้ยากอยู่ในขณะนี้ ท่านเห็นตรงไหนผิด แก้คำให้ถูก ก็ดูกันไปก่อน ถ้าต้องรอให้แก้ตรวจ หรือต้องรอจอที่ซ่อมกลับมานั้น คงอีกนานเลย จะทำให้ไม่มีเรื่องโพสต์ นะ

  ดังนั้น ช่วงนี้ อาจจะลำบากสายตาอยู่บ้าง ก็ยังพอมีเนื้อหาให้อ่าน นะจ๊ะ

 

[drift-999]

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ แต่คราวนี้พระอาจารย์ไม่โพสต์ในเฟค

[PRAMOTE(aaaa)]

ขออนุโมทนาสาธุ

[Roj khonkaen]

     
 
 

[ธัมมะวังโส]

การรับมือ กับ จิต ตกเข้าสู่ ภวังค์
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=16299

[ธัมมะวังโส]

พระธาตุดอยม่วงคำ


"ณ ดอยม่วงคำ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ปี พ.ศ.2528
วันนี้หลังจากฉันเพลเสร็จ ที่ วค. ลำปาง ฉันก็ออกเดินเท้าเปล่า จาก วค.ลำปางไปตามถนน แม่ทะ เดินไปประมาณ 12 กม. ก็เห็น พระธาตุบนยอดเขา เก่า ๆ ก็เลยเดินเข้าไป ข้ามทางรถไฟ ไปถึงเห็นป้ายทางขึ้นเขาว่า วัดพระธาตุดอยม่วงคำ ฉันจึงเดินขึ้นไปบนนั้น สิ่งก่อสร้างถาวรวัตถุ ก็มีศาลา หนึ่งหลัง และพระธาตุ กับ บันได ไม่มีพระสงฆ์อยู่ที่นั่นเลยเดินหาดูตามศาลา ก็ไม่มี ก็เลยไปนั่งเล่นใกล้ ๆ พระธาตุนั้น นั่งพักหายเหนื่อย ก็ดื่มน้ำในกระติกไปครึ่งหนึ่ง เพราะไม่มีใครอยู่ จึงหาน้ำฉันไม่ได้ ตอนนั้นก็เป็นเวลา บ่ายสามโมงเย็น ด้วยความเงียบสงบ ประกอบกับบรรยากาศขุนเขา ด้านบน ลมเย็นอ่อน ๆ เลยทำให้อารมณ์สงัด ต้องการนั่งสมาธิ ก็เลยสักการะองค์พระธาตุ และ นั่งสมาธิด้วยอานาปานสติ ตอนนั้นก็เกิดภาพขึ้นมาในสมาธิ เป็นภาพของพระรูปหนึ่งที่เดินไปปักกลดใกล้ ๆ กับ พระธาตุสวยงามองค์ใหญ่ เห็นแล้วชอบใจติดใจในภาพ ครั้นตอนเย็นกลับมาก็มานั่งสมาธิต่อ ที่ วค.ลำปาง ศาลาพระพุทธพิทยาจารย์ ก็เห็นภาพเดิมนี้อีก สรุปแล้วผ่านไป 1 อาทิตย์ ก็นั่งสมาธิเห็นภาพนี้อีก 5 ครั้ง รวมแล้วทั้งหมด 7 ครั้งที่เห็นภาพและเรื่องราวเดิม ๆ นี้ ครั้งสุดท้ายก็เลยวาดภาพไว้ด้วยดินสอสี สมัยนั้นวิทยาการคอมพิวเตอร์ พึ่งจะเริ่มมี ไม่มี ระบบ Google ให้ค้นหา ภาพนี้ถูกเก็บไว้ในบันทึกส่วนตัว ถึง 22 ปี จึงได้คำเฉลยจาก ครูฉันเอง ว่าเกี่ยวพันกันอย่างไร ในนั้นมีภาพและเรื่องราวที่ยังค้างคาใจ อยู่หลายอย่างเพราะที่เห็นนั้นมันเป็นเรื่อง เป็นราว เดิม ๆ ซ้ำซากไปๆ มา ๆ เหมือนดูหนังเรื่องเดิม และมีที่จดจำติดตา ไว้หลายอย่าง ...... "

ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนาของ ธัมมะวังโส

[ธัมมะวังโส]

วัดพระธาตุดอยม่วงคำ
ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่ทะ หมู่1 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
อยู่ห่างจาก อำเภอเมือง ประมาณ 17 กิโลเมตร
ซึ่งมี บันไดขึ้นที่ชันมาก ประมาณ 484 ขั้น และ
ถ้าขึ้น ไปชั้นสูงสุด จะ มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ก่อนจะถึงบันไดขึ้นชั้นสูงสุด
จะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่นอนอยู่ที่ศาลา ซึ่งเป็นที่สักการะของผู้ที่มาเที่ยววัดดอยม่วงคำ
และยังเป็นสถานที่สำคัญที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางจัดกิจกรรม"ประเพณีชวนน้องขึ้นดอย"
ให้กับนักศึกษาใหม่เป็นประจำทุกปี
โดยเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 04.30 น. - 12.00 น. โดยมีนักศึกษาใหม่ทุกคนเข้าร่วมกิจกิจกรรม
ซึ่งเริ่มออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
ไปจนถึงวัดพระธาตุดอยม่วงคำ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง รวมระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

[Akira]

รอพระอาจารย์ บรรยาย เรื่องนี้ ทั้งหมด แต่ ก็เข้าใจว่า พระอาจารย์ ลำบากเรื่องการพิมพ์ แค่ เรื่อง ภวังค์ ก็ดูเหมือนว่า ไม่ได้จบง่าย ๆ นะ เรื่องนี้

   

[kobyamkala]

 

[suchin_tum]

ขออนุโมทนาสาธุ

[kobyamkala]

ติดตามเรื่องนี้อยู่คะ

 

[PRAMOTE(aaaa)]

ปฏิบัติธรรมส่งให้ใจจดจ่อ    ก็เฝ้ารอครูอาจารย์มาเล่าขาน

ทุกเรื่องราวเราฟังได้ไม่เบื่อพาล    คุณของครูมาขับขานตํานานธรรม

    เราโชคดีที่มีครูรู้วิชชา          ไม่ต้องหาสมมุติดูครูอยู่ไหน

เรียนมรรคผลต้องเลือกเฟ้นเป็นหัวใจ    ครูไม่ใช่ก็ต้องตายเกิดตามครู

                                                  กลอนประกอบ-Pramote intharachan
     

[ธัมมะวังโส]

บรรยายแนวทาง การภาวนา สำหรับบุคคลทั่วไป ตั้งแต่เริ่มต้น
สำหรับตอนนี้ พูดถึงวัตถุประสงค์ในการภาวนา คือการตั้งเป้าหมาย ในการภาวนาเพื่อ กำหนดแนวทาง การภาวนาของตนเอง
( เป็นไฟล์ทดสอบการอัพโหลด เพื่อดูเวลาอัพโหลด สรุปแล้วใช้เวลาอัพโหลดไฟล์นี้ มากกว่า 50 นาที ความจุไฟล์ 110 mb )

ฟังเสียงบรรยายที่ลิงก์ ด้านล่าง

http://youtu.be/HPueScHec_w

[patra]

สัทธา ทั้ง 4 เป็นพื้นฐาน ถ้าไม่มี ก็หลงทาง เสียเวลา เราเสียเวลามาแล้ว 25 ปี ในการภาวนา จึงไม่อยากให้ใครมาเสียเวลาเหมือนเรา
( ไฟล์ ทดสอบ อัพโหลด ไฟล์นี้ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที )



ฟังเสียงบรรยาย ที่ลิงก์ด้านล่าง

https://www.youtube.com/watch?v=5iunKaEXYpk&feature=youtu.be

[patra]

เผยแพร่เมื่อ 19 ธ.ค. 2014

อุปสมานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐาน ที่ยกอารมณ์ ที่ได้ นิพพาน แต่ะละระดับ ขึ้นมา เป็นองค์กรรมฐาน ผู้ฝึกกรรมฐานนี้ ต้องได้ความเป็นพระอริยะก่อน หรือ ถ้าไม่ได้ก็ควรจะต้องระลึกถึง ตทังคนิพพาน หรือ วิกขัมภนนิพพาน การฝึกอุปสมานุสสติ เป็น อุปจาระสมาธิ



ฟังเสียงบรรยาย ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

https://www.youtube.com/watch?v=gysg3vTQk4U&feature=youtu.be

[PRAMOTE(aaaa)]

ขออนุโมทนาสาธุ

[kobyamkala]

 

[PRAMOTE(aaaa)]

ฟังเทศน์ อานาปานสติกันไปพลางๆก่อน

เลือกได้มีหลายไฟน์

ฟังตามลำดับไป  จากต่ำ-ไปสูง