ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สัปปายะ-สัประยุทธ์ 'เขาคิชฌกูฏ'  (อ่าน 1174 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29307
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สัปปายะ-สัประยุทธ์ 'เขาคิชฌกูฏ'
« เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 01:05:05 pm »
0

สัปปายะ-สัประยุทธ์ 'เขาคิชฌกูฏ'

ก่อนหน้านี้มีข่าวการปลดเจ้าอาวาสวัดสระเกศออกจากกรรมการมหาเถรสมาคม เพราะพบข้อสงสัยการใช้จ่ายเงินงบประมาณ 67 ล้านบาทในการจัดงานพระราชเพลิงสมเด็จเกี่ยว

เสียเวลาเจรจาจนได้ข้อยุติอยู่หลายวัน กว่าม็อบจะยอมตักดินออกจากถนน เพื่อเปิดเส้นทางให้ผู้แสวงบุญขึ้นไปยังบนเขาคิชฌกูฏได้ อันที่จริงม็อบกับผู้แสวงบุญไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่เหตุเกิดขึ้นเพราะม็อบทะเลาะกับพระสงฆ์ใน 2 กรณีคือ

1.ผลประโยชน์การจัดคิวรถ รับผู้แสวงบุญขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏ ทำให้ผู้ประกอบการไม่พอใจ รวมตัวกันเป็นม็อบเทดินปิดถนน ด้วยหลักคิดที่ว่า ไหน ๆ ไม่ได้ประโยชน์แล้ว ก็ทำให้วัดและพระสงฆ์ไม่ได้ผลประโยชน์ไปด้วย

2.จากเรื่องการจัดคิวรถลุกลามไปถึงเรื่อง เงินลงขันจัดงาน และ เงินของวัด เข้าใจว่าเป็นการตั้งประเด็นมาเพื่อทำให้วัดขาดความชอบธรรมมากกว่า


      :96: :96: :96: :96: :96:

      จะอย่างไรก็แล้วแต่ กรณีของเขาคิชฌกูฏ​ จ.จันทบุรีนี้บอกให้รู้ว่า ศาสนากับผลประโยชน์กลายเป็นของคู่กันมากขึ้น ก่อนหน้านี้มีข่าวการปลดเจ้าอาวาสวัดสระเกศออกจากกรรมการมหาเถรสมาคม เพราะพบข้อสงสัยการใช้จ่ายเงินงบประมาณ 67 ล้านบาทในการจัดงานพระราชเพลิงสมเด็จเกี่ยว
      นอกจากนี้ยังมีการเปิดโปงฐานะการเงินของเจ้าอาวาสและความร่ำรวยของญาติพี่น้อง

      ปรากฏการณ์ทั้งหมดนี้บอกให้รู้ถึงอาการป่วยไข้ของพุทธศาสนาบนแผ่นดินไทย ที่สมควรถูกสังคยานาหรือปฏิรูป
      ได้ฟังมาว่า ในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีแนวคิดอยู่เหมือนกันว่า จะกำหนดให้วัดทุกแห่งทั่วประเทศ ต้องเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณะ เพราะเงินของวัดเป็นเงินศรัทธาของญาติโยม ไม่ใช่เงินของเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาสไม่สามารถนำไปใช้จ่ายได้ตามอำเภอใจ แต่เจ้าอาวาสจำนวนไม่น้อย นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของทรัพย์เหล่านี้


      ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

     ตามหลักของพุทธศาสนา สอนให้คนรู้จักสละ หรือ ละทิ้งในสิ่งที่ตัวเองหวงแหน ดั่งพุทธชาดกตอนพระเวสสันดร ที่ยอมสละลูกเมียให้กับชูชกผู้มากด้วยความโลภ พระพุทธเจ้ากำหนดให้กิจของสงฆ์มี 4 ประการ คือ นุ่งห่มจีวร บิณฑบาต อยู่โคนไม้ ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า

     เหตุที่ต้องกำหนดให้พระสงฆ์ต้องออกบิณฑบาตทุกวันก็เพื่อให้ชาวบ้านได้ฝึกแบ่งข้าวปลาอาหารให้กับผู้อื่น ดั่งจะเคยได้ยินว่า บิณฑบาตโปรดสัตว์ อันเป็นการฝึกให้คนรู้จักการสละ
 
     ผิดจากโลกปัจจุบัน ที่เห็นพระสงฆ์บางรูปชอบสะสมทรัพย์สินและชื่อเสียง ตรงกันข้ามกับการมุ่งหาความหลุดพ้น วัดแทนที่จะได้ชื่อว่า เป็น "สัปปายะ 7" นั่นคือ สถานที่หรือสรรพสิ่งที่เกื้อกูลต่อการบำเพ็ญศีลบำเพ็ญธรรม พอมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง สัปปายะ ก็กลายเป็น สัประยุทธ์ อย่างที่เห็นกันนั่นแล.


      ดินสอพอง


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.dailynews.co.th/Content/Article/295670/สัปปายะ-สัประยุทธ์+_เขาคิชฌกูฏ_
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2015, 01:06:54 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สัปปายะ-สัประยุทธ์ 'เขาคิชฌกูฏ'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 22, 2015, 01:30:01 pm »
0
สำหรับกรณี นี้ ส่วนตัว จะไม่ขอ ไป เขาคิชกูฏ อีกต่อไป เพราะคิดแล้ว หลายรอบ ว่า

  รอยพระพุทธบาท ที่แท้ นั้น อย่างน้อยในประเทศไทย มี 3 ที่ ไม่ได้ไปยากเย็นอะไร คือ

  1. รอยพระพุทธบาท สระบุรี
  2. รอยพระพุทธบาท วัดเขาวงพระจันทร์
  3. รอยพระพุทธบาท วัดเขาพระพุทธฉาย
  4. รอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทสี่รอย
 
  แค่ 3 รอยนี้ ให้ได้กราบไหว้สักการะ เถอะครับ ก็เพียงพอ แต่การเป็นพุทธศาสนิกชน แล้ว
 

  บ๊าย บาย เขาคิดชกูฏ จันทบุรี

  :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ