ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "บุญเบิกฟ้า" ทำนายทิศฟ้าร้อง เตรียมสู่ฤดูกาลเพาะปลูก งานบุญใหญ่ ณ มหาสารคาม  (อ่าน 1267 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ปรับพิธี “บวงสรวงแม่โพสพบุญเบิกฟ้า”

"บุญเบิกฟ้า" ทำนายทิศฟ้าร้อง เตรียมสู่ฤดูกาลเพาะปลูก งานบุญใหญ่ ณ มหาสารคาม

        ประเทศไทยของเรานั้น เป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรมและประเพณีที่มีอยู่อย่างมากมายและหลากหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตมาตั้งแต่อดีต ที่ได้สืบทอดมาสู่ปัจจุบัน โดยแต่ละประเพณีนั้นก็ต่างมีความงดงามของขนบธรรมเนียม พิธีการปฏิบัติและความหมายแตกต่างกันออกไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ประเพณีบุญเบิกฟ้า” งานประเพณีของจังหวัดมหาสารคาม
       
       “ประเพณีบุญเบิกฟ้า” นับเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่มีเอกลักษณ์ ที่ได้มีการสืบทอดและมีความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของเกษตรกรของจังหวัดมหาสารคามมาอย่างยาวนาน โดยจะจัดขึ้นช่วงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุก ๆ ปี ซึ่งจะตรงกับช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และในปีนี้ทางจังหวัดมหาสารคาม ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงแม่โพสพบุญเบิกฟ้า ที่ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหมี่ ตำบลเขวา อำเมือง พร้อมกับมีการจัดงานกาชาด ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม ภายใต้ชื่องาน “งานบุญเบิกฟ้าและกาชาด ฉลอง 150 ปี มหาสารคาม” โดยงานจะจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 เเละในวันที่ 22 สิงหาคมของปีนี้ จังหวัดมหาสารคามจะครบรอบ 150 ปี หลังจากได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2408


“แม่โพสพ” เทพธิดาของเหล่าเกษตรกร ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน

        ประเพณีบุญเบิกฟ้าเป็นประเพณีที่ชาวมหาสารคามได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ ซึ่งได้ถูกจารึกไว้ในหนังสือใบลานที่วัดบ้านหนองหล่ม อำเภอเมืองมหาสารคาม และวัดบ้านองบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ว่า เมื่อถึงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุก ๆ ปี จะเป็นวันเทวาเปิดประตูน้ำให้ฝนตกลงสู่โลกมนุษย์ และจะเป็นวันที่มีเสียงฟ้าร้องเป็นครั้งแรกของปี จึงได้มีการจัดพิธีบวงสรวงแม่โพสพบุญเบิกฟ้า เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพระแม่โพสพและทำนายทิศฟ้าร้อง

บรรยากาศการรำบวงสรวงแม่โพสพ “พิธีบวงสรวงแม่โพสพบุญเบิกฟ้า”

        เมื่อครั้งอดีตนั้น เกษตรกรจะจัดพิธีบวงสรวงกันที่ยุ้งฉางเก็บผลผลิตของตนเอง แต่เนื่องจากโลกได้พัฒนาและวิถีชีวิตของเกษตรกรได้เปลี่ยนไปจากเดิม เกษตรกรไม่ได้เก็บผลผลิตไว้ที่ยุ้งฉางเหมือนอดีต อีกทั้งประเพณีเริ่มเลือนหาย นายไสว พราหมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม จึงได้หาแนวทางนำประเพณีโบราณของท้องถิ่นนำมารวมเข้ากับเรื่องความเชื่อและผนวกเข้ากับงานกาชาด และได้จัดพิธีบวงสรวงแม่โพสพบุญเบิกฟ้าครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “งานบุญเบิกฟ้าและกาชาดจังหวัดมหาสารคาม” เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2532 เพื่อให้เกษตรกรทั่วทั้งสารทิศมาร่วมกันทำพิธีบวงสรวงสืบทอดประเพณีอันดีงามที่มีมาตั้งแต่อดีตไม่ให้เลือนหายไป และยังได้จัดเป็นงานประจำปีของจังหวัดมหาสารคามมาจนถึงปัจจุบัน


ภาพวาดสัตว์ประจำทิศทั้ง 8 ที่ “พิพิธภัณฑ์เมืองมหาสารคาม”

        พิธีบวงสรวงแม่โพสพบุญเบิกฟ้า จะมีการตั้งปรัมพิธีที่ประกอบด้วย กระทงใหญ่เก้าห้องใส่เครื่องบัดพลีหรือเครื่องถวายต่างๆ อาทิ หมากพลู ข้าวตอก ดอกสามปีบ่อเหี่ยวหรือดอกบานไม่รู้โรย ถั่วงา อาหารคาวหวานวางไว้บนกองข้าว เพื่อบวงสรวงและแสดงความกตัญญูต่อพระแม่โพสพ และจะมีการทำนายทิศฟ้าร้อง ว่าฟ้าจะร้องครั้งแรกที่ทิศใดจากทั้งแปดทิศ ซึ่งในตำนานได้กล่าวไว้ว่า แต่ละทิศจะมีสัตว์ประจำทิศนั้นๆ เช่น ทิศบูรพามีครุฑเป็นสัตว์ประจำทิศ , ทิศอาคเนย์ มีแมวเป็นสัตว์ประจำทิศ ,ทิศทักษิณมีราชสีห์เป็นสัตว์ประจำทิศ ,ทิศปัจจิม มีพญานาคเป็นสัตว์ประจำทิศ โดยคำทำนายของแต่ละทิศก็จะแตกต่างกันออกไป
       
       และในปีนี้คำนายทิศฟ้าร้อง ได้ทำนายว่า "ฟ้าร้องที่ทิศอีสานหรือตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีวัวเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูดิน ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ ฝนจะดีตลอดปี ข้าวกล้าในนาจะงอกงามสมบูรณ์ดี คนจะมีความสุขเกษมตลอดปีอย่างถ้วนหน้า"


เกษตรกรนำปุ๋ยไปหว่านบำรุงดิน

        อีกทั้งในวันนี้ เกษตรกรจะถือเอาฤกษ์สำคัญนี้ นำปุ๋ยคอกที่ได้จากมูลโค-กระบือ ที่ใช้ในการไถ ไปหว่านในไร่นาอย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะเมื่อครั้งอดีตยังไม่มีเทคโนโลยีทุ่นแรงเหมือนในปัจจุบัน เกษตรจะใช้เคียวเกี่ยวข้าวและเก็บเกี่ยวผลิตผลต่างๆ ก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในเดือน3 ซึ่งจะตรงกับช่วงบุญเบิกฟ้าพอดี จึงใช้ฤกษ์นี้นำปุ๋ยไปหว่านเพื่อทดแทนทดแทนบุญคุณของแผ่นดินโดยมีสำนึกที่ว่าเมื่อดินเป็น ผู้ให้อาหารหรือผลิตผลอาหารแก่มนุษย์ มนุษย์จึงต้องรู้จักทดแทน เป็นอีกหนึ่งกุศโลบายของผู้เฒ่าผู้แก่ ในการบำรุงดินหลังจากการเพาะปลูก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเพาะปลูกพืชผลครั้งต่อไป
       
       ประเพณีบุญเบิกฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ ตราบใดที่ลูกหลานหลานยังไม่ได้ลืมเลือนวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ ประเพณีเก่าแก่นี้ก็จะยังอยู่คู่จังหวัดมหาสารคามและให้ผู้คนรุ่นหลังได้รับรู้และร่วมสืบทอดต่อไปตราบนานเท่านาน     


        ans1 ans1 ans1 ans1

       สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น (รับผิดชอบ จ.ขอนแก่น,ร้อยเอ็ด,กาฬสินธุ์,มหาสารคาม) โทร.0-4324-4498-9[/col
or]

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000009518
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา