พิมพ์

[raponsan]

“สัปเหร่อ”ปีนตัดกิ่งต้นไทรถูกมดรุมทึ้ง พลาดตกคอหักดับ

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.วัฒนา มายุรส พงส.ผนพ.สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่า มีเหตุสัปเหร่อตกต้นไม้เสียชีวิต อยู่ข้างศาลาการเปรียญวัดป่าหนองแก้ว ชุมชนหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมสถานแห่งอุดรธานี

พบชาวบ้านกำลังมุงดูศพอยู่บริเวณลานปูนใต้ต้นไทรขนาดใหญ่ คือ นายประดิษฐ์ คุณสุนนท์ อายุ 64 ปี หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “สัปเหร่อช้าง” อยู่บ้านเลขที่ 101 ม.9 ชุมชนหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสามส่วนสีเทา ไม่สวมรองเท้า ตรวจสอบสภาพศพพบว่าคอหัก กะโหลกศีรษะบริเวณท้ายทอยแตก หัวแม่เท้าด้านขวาเป็นแผลคล้ายถูกมีดพร้าฟันลึกถึงกระดูก และตามร่างกายแขนขาพบร่องรอยถูกมดแดงกัด ใกล้กันพบกิ่งไม้ที่ผู้ตายตัดลงมาแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีฝูงมดแดงไต่อยู่จำนวนมาก และบันไดไม้ไผ่สูง 6 เมตร วางชันไว้กับต้นไม้

 

สอบสวนนายธวัชชัย ราวินิส อายุ 31 ปี หลานชายผู้ตายทราบว่า ผู้ตายมีศักดิ์เป็นลุงและเป็นสัปเหร่อมือ 2 ที่วัดแห่งนี้ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ชักชวนตนมาตัดกิ่งต้นไทรที่รกปกคลุมหลังคาศาลาการเปรียญ และทำความสะอาดรอบๆบริเวณวัด เพื่อเตรียมงานบุญประจำปีในช่วงต้นเดือนหน้า โดยตนอยู่ด้านล่างคอยจับบันไดไม้ไผ่ และเก็บกิ่งไม้ที่หล่นลงมา ส่วนผู้ตายได้ปีนจากบันไดขึ้นไปบนต้นไทรสูงจากพื้นราว 5 เมตร ซึ่งมีเจ้าถิ่นคือมดแดงทำรังอยู่จำนวนมาก เข้ารุมกัดตามร่างกายของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายเร่งรีบใช้มีดพร้าที่พกขึ้นไปตัดกิ่งไม้ฟันลงไปให้ขาดโดยไว แต่ฟันพลาดถูกหัวแม่เท้าของตนเอง และร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนตกลงมาศีรษะกระแทกกับพื้นปูนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นตนได้รีบวิ่งไปบอกภรรยาผู้ตาย คือ นางฐาปณี บุญเลิศ อายุ 37 ปี ว่าสามีพลาดท่าตกต้นไม้เสียชีวิต
 
พ.ต.ท.วัฒนา มายุรส กล่าวว่า ผู้ตายเป็นสัปเหร่อที่วัดแห่งนี้มาเกือบ 20 ปี แต่เป็นมือ 2 และเป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชนหนองเหล็ก สันนิฐานว่าขณะที่ผู้ตายใช้มีดพร้าฟันกิ่งไม้อยู่บนต้นไทร ถูกฝูงมดแดงที่หวงถิ่นรุมกัดจนพลาดท่าฟันไปถูกเท้าตัวเอง จนทำให้เสียหลักตกลงมาจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423219409