ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กรมศิลปากรชวน "สรงน้ำเทพนพเคราะห์"  (อ่าน 1247 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
กรมศิลปากรชวน "สรงน้ำเทพนพเคราะห์"
« เมื่อ: เมษายน 08, 2015, 10:03:06 pm »
0
เทพนพเคราะห์

กรมศิลปากรชวนสรงน้ำเทพนพเคราะห์

กรมศิลปากรเปิดให้ประชาชนสรงน้ำพระธาตุ- เทพนพเคราะห์ เทศกาลสงกรานต์ 11-14 เม.ย. ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ด้านศูนย์คุณธรรมรณรงค์ “7 วัน ไม่อันตราย” ด้วยคุณธรรม 7 ข้อ

วันนี้( 8 เม.ย.) นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2558 กรมศิลปากรได้จัดกิจกรรมสรงน้ำพระธาตุ และเทพนพเคราะห์ ระหว่างวันที่ 11-14 เม.ย. ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดยเทพนพเคราะห์  ถือว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ละคนเมื่อเกิดมาจะมีเทพนพเคราะห์ประจำวันเกิด และในแต่ละช่วงชีวิตเทพนพเคราะห์จะหมุนเวียนเข้าเสวยอายุ  กำหนดปีการเสวยอายุตามกำลังของเทพแต่ละองค์ 

ซึ่งจะส่งผลร้ายหรือดีต่อมนุษย์ขึ้นอยู่กับประเภทของเทพนพเคราะห์ว่า เป็นฝ่ายบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ หรือความเข้ากันได้หรือไม่กับเทพประจำวันเกิด ดังนั้นในวันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันดี จึงเป็นโอกาสที่ประชาชนจะได้กราบไหว้บูชาขอพรจากเทพนพเคราะห์เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงามต่อไป




เทพนพเคราะห์

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า สำหรับเทพนพเคราะห์มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่นับถือพระสุริยเทพ(พระอาทิตย์)  มีเทพบริวารอีก 8 องค์ รวมเป็น 9องค์  ประกอบด้วย พระอาทิตย์ทรงราชสีห์  เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพนพเคราะห์ทั้งปวง พระจันทร์ทรงม้าพระอังคารทรงมหิงสา พระพุธทรงคชสาร พระพฤหัสบดีทรงกวาง พระศุกร์ทรงโค พระเสาร์ทรงพยัคฆ์พระราหูทรงพญาครุฑและพระเกตุทรงนาค ซึ่งในคติความเชื่อของไทย กล่าวว่า เทพนพเคราะห์นั้นกำเนิดมาจากพระอิศวรเป็นเจ้าสร้างขึ้นมา ลักษณะที่ปรากฏจึงแตกต่างจากคติความเชื่อของฮินดู



เทพนพเคราะห์

นายบวรเวท กล่าวว่า สำหรับประติมากรรมเทพนพเคราะห์ชุดนี้หล่อขึ้นตามแบบเทพนพเคราะห์ของไทย มีลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับภาพเทวรูปในสมุดไทยหมวดตำราภาพเทวรูปไสยาศาสตร์ เล่มที่ 70 สำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบของเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพบนบานประตูหน้าต่างด้านในของพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ที่เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ทรงร่วมในการควบคุมการก่อสร้างเช่นกัน

ความพิเศษของประติมากรรมชุดนี้ คือ สามารถถ่ายทอดรูปแบบของเทพนพเคราะห์ให้ออกมาเป็นประติมากรรมแบบลอยตัวแสดงท่าทาง และลักษณะของเทพนพเคราะห์ได้อย่างสมจริงและมีชีวิตชีวา โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ และลักษณะของเทพแต่ละองค์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์



เทพนพเคราะห์

ด้าน นายสิน สื่อสวน ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ศูนย์คุณธรรมได้จัดแคมเปญ “กลับ กอด กราบ” กิจกรรมรณรงค์ วันครอบครัว 14 เมษายน เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของ “สถาบันครอบครัว” โดยเนื้อหาของแคมเปญ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ การสร้างความตระหนักให้ประชาชนทั่วไป กลับภูมิลำเนาหรือกลับไปบ้าน เพื่ออยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว  เพื่อไป “กอด” คนในครอบครัวที่เรารัก   และ “กราบ” บุพการีและญาติผู้ใหญ่เพื่อเป็นศิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ของไทย

อย่างไรก็ตามศูนย์คุณธรรมได้แนะนำแนวคิดหรือคุณธรรม 7 ข้อ เพื่อให้ช่วงสงกรานต์ปี 2558กลายเป็น “7 วัน ไม่อันตราย” ได้แก่ ต้องมีวินัย  ต้องมีความอดทนอดกลั้น  ต้องมีน้ำใจ  ต้องมีความเสียสละ  ต้องมีความรับผิดชอบ   ต้องมีสติ   และต้องไม่ประมาท  เพื่อป้องกัน 7วันอันตราย ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุและเหตุการณ์สูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/313203/กรมศิลปากรชวนสรงน้ำเทพนพเคราะห์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ