ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้บริโภค อดทน ต่อการดาวน์โหลด ได้เพียง 6 วินาที  (อ่าน 2210 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ผู้บริโภค อดทน ต่อการดาวน์โหลด ได้เพียง 6 วินาที

แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบโมบายและเดสก์ท็อป กำลังจะเป็นสมรภูมิใหม่ของการช่วงชิงความภักดีต่อแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

บริษัท ซีเอ เทคโนโลยี เปิดผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคอดทนต่อการดาวน์โหลดได้เพียง 6 วินาที

ผลการศึกษาล่าสุดที่สนับสนุนโดยบริษัทซีเอ เทคโนโลยี ชี้ให้เห็นว่า แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบโมบายและเดสก์ท็อป กำลังจะเป็นสมรภูมิใหม่ของการช่วงชิงความภักดีต่อแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เพราะในปัจจุบันระบบเศรษฐกิจกำลังถูกผลักดันด้วยซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น โดยผู้บริโภคจะคาดหวังมากขึ้นจากการใช้งานแอพพลิเคชั่นและหากธุรกิจใดล้มเหลวที่จะนำเสนอประสบการณ์ใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ดี ก็กำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียฐานลูกค้าไปอย่างน้อย 1 ใน 3 ของที่มีอยู่เดิม

 :96: :96: :96: :96:

การศึกษาที่ใช้ชื่อว่า ซอฟต์แวร์-สมรภูมิใหม่ของความภักดีต่อแบรนด์  (Software- the new battle ground for brand loyalty) จัดทำโดย บริษัท วิจัย Zogby Analytics  ภายใต้การสนับสนุนจาก บริษัท ซีเอ เทคโนโลยี ซึ่งทำการศึกษาและสำรวจความคิดเห็นจากผู้บริโภคจำนวน 1,449 คน และผู้มีอำนาจตัดสินใจ ทางธุรกิจอีก 259 คน ใน 5 ประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อดู ว่า แต่ละกลุ่มมีความคิดอย่างไรต่อแอพพลิเคชั่น

โดยผู้ตอบแบบสอบถามได้ชี้ให้เห็นตัวแปร 3 อย่าง คือ 75 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคที่ตอบแบบสอบถามได้ทิ้งแบรนด์เดิมก็เพราะเจอปัญหาโหลดช้าและระบุด้วยว่าเวลาดาวน์โหลดที่ยอมรับได้อยู่ที่ 6 วินาที หรือน้อยกว่านั้น ในขณะที่มีอีก 39 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าต้องการเวลาโหลดที่น้อยกว่า 3 วินาที



นอกจากนี้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า ฟีเจอร์การใช้งานที่ง่ายคือตัวผลักดันที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจที่จะใช้งานหรือซื้อแอพพลิเคชั่น และ 63 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า แรงผลักดันในการตัดสินใจมาจากตัวแอพพลิเคชั่นที่ทำงานได้โดยไม่มีปัญหายุ่งยาก รวมทั้งมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ มองว่าแอพพลิเคชั่นต้องมีความปลอดภัยจากไวรัสและการโจมตีโดยยูสเซอร์ที่เคยมีประสบการณ์ใช้งานที่มีปัญหาการรักษาความปลอดภัยแอพพลิเคชั่นมาก่อนพบว่ามี 17 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าจะทิ้งแบรนด์นั้นไปเลย

เคนเน็ธ อาเรดอนโด ประธานและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท ซีเอ เทคโนโลยี กล่าวว่า แอพพลิเคชั่นได้กลายมาเป็นสื่อกลางหลักและสำคัญที่สุดสำหรับผู้บริโภคที่จะเชื่อมต่อกับธุรกิจบริษัทต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องนำเอาแนวคิดที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลางมาใช้ พร้อมกับรวมเข้ากับการที่ต้องมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อตลอด และท้ายที่สุดแล้วบริษัทจะต้องมีแอพพลิเคชั่นที่สามารถปรับแต่งให้ตรงการใช้งานของผู้ใช้ ต้องมีการรักษาความปลอดภัยตอบสนองความต้องการและใช้งานได้ด้วยเช่นกัน


 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

นอกจากนี้ผลการศึกษาดังกล่าว พบว่าแอพพลิเคชั่นต่าง ๆได้กลายมาเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างผู้บริโภคกับองค์กรทางธุรกิจ ซึ่งถ้าดูจากผลของการสำรวจครั้งนี้มีมากกว่าครึ่ง หรือ 52 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆในการชอปปิง และมี 49 เปอร์เซ็นต์ ใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร และมีมากกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อซื้อและดูสื่อมีเดียต่าง ๆ เช่น วิดีโอ และรายการทีวีโชว์ในแบบออนไลน์

“บริษัทและองค์กรต่าง ๆ จะต้องเลิกมองว่า แอพพลิเคชั่นนี้เป็นเพียงแค่ส่วนขยายของธุรกิจตน แต่จะต้องมองว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของโมเดลธุรกิจที่มีและเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้บริษัทต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องมองให้ชัดว่าผู้บริโภคต้องการสิ่งใดและจะทำเช่นไรที่จะรับฟังความต้องการรวมทั้งจัดหาระบบวิเคราะห์เชิงคาดการณ์เพื่อที่จะมีมุมมองที่ลึกและคาดการณ์ล่วงหน้ามากขึ้นในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้งาน” เคนเน็ธ กล่าว.


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.dailynews.co.th/it/317595
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ